- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- เตือน21จว.'เหนือ-กลาง-ตะวันออก' ฝนตกหนัก-ดินถล่ม
เตือน21จว.'เหนือ-กลาง-ตะวันออก' ฝนตกหนัก-ดินถล่ม
“ปภ.” เตือน 21 จว. “ภาคเหนือ-กลาง-ตะวันออก เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักและดินถล่ม ช่วงวันที่ 21 – 23 ส.ค.
เมื่อวันที่ 21 ส.ค. นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่อง และฝนตกหนักบางพื้นที่ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 21 – 23 ส.ค.
ทั้งนี้ กอปภ.ก. โดยปภ. ได้ประสาน 21 จังหวัดในที่อาจได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก แยกเป็น พื้นที่ที่ต้องติดตามสถานการณ์ผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ประกอบด้วย ภาคเหนือ ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน ตาก ภาคกลาง ได้แก่ สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ อุทัยธานี นครสวรรค์ กาญจนบุรี และราชบุรี ภาคตะวันออก ได้แก่ จันทบุรี และตราด สำหรับพื้นที่ต้องติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม ได้แก่ จ.แม่ฮ่องสอน อ.เมืองแม่ฮ่องสอน อ.ปางมะผ้า อ.ขุนยวม อ.แม่ลาน้อยจ.เชียงใหม่ อ.เมืองเชียงใหม่ อ.ฮอด อ.ดอยสะเก็ด อ.แม่แจ่ม อ.จอมทอง จ.ตาก อ.แม่ระมาด อ.แม่สอด อ.ท่าสองยาง จ.น่าน อ.เมืองน่าน อ.บ่อเกลือ อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เวียงสา อ.เชียงกลาง อ.ท่าวังผา อ.นาน้อย อ.นาหมื่น อ.ปัว อ.ทุ่งช้าง อ.สันติสุข อ.แม่จริม จ.อุตรดิตถ์ อ.บ้านโคก อ.ท่าปลา อ.น้ำปาด
นายชยพล กล่าวอีกว่ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในช่วงดังกล่าว โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน ระดับน้ำ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ฝนตกสะสม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาและพื้นที่ลุ่มต่ำ รวมถึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
ที่มา : https://www.dailynews.co.th/politics/727073