- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- สพฉ.แจงรถฉุกเฉินเข้าสนามบินไม่ได้ เป็นมาตรฐานสากลด้านความปลอดภัย
สพฉ.แจงรถฉุกเฉินเข้าสนามบินไม่ได้ เป็นมาตรฐานสากลด้านความปลอดภัย
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพร้องขอความเป็นธรรม หลังคุณพ่อป่วยฉุกเฉิน โทร.แจ้ง 1669 แต่รถฉุกเฉินไม่สามารถเข้ามารับที่สนามบินดอนเมืองได้ เพราะเป็นเขตต้องห้าม พอให้รถพยาบาลในสนามบินไปส่ง ก็ส่งให้แค่รัศมี 8 กิโลเมตร สุดท้ายพ่อลำไส้ปริแตก ทำให้เสียโอกาสการใช้สิทธิเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต รักษาฟรีในโรงพยาบาลทุกแห่งที่ใกล้ที่สุด ภายใน 72 ชั่วโมง ทำให้ครอบครัวไม่สามารถเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลได้
ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า อยากให้ประชาชนเข้าใจว่า การทำงานในพื้นที่พิเศษ เช่น สนามบิน รถไฟใต้ดิน ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยของสถานที่นั้นๆ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากล ทำให้มีข้อจำกัดการเข้าออก กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน ขอเรียนว่า สนามบินมีทีมแพทย์ฉุกเฉินอยู่ตลอดเวลา อย่างสนามบินดอนเมือง เข้าใจว่าอยู่ในรูปแบบของคลินิกที่ทำการรักษาในเบื้องต้น แต่ส่วนของการผ่าตัดอาจไม่มีขีดความสามารถ จึงจำเป็นต้องส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง เช่น รพ.ภูมิพล ส่วนกรณีผู้ที่ร้องเรียนเข้าใจว่า อาจไม่ทราบเบอร์ฉุกเฉินของสนามบิน คงจำได้เฉพาะเบอร์โทร. 1669 ซึ่งถือเป็นเรื่องดี แต่พื้นที่พิเศษ โดยเฉพาะสนามบินมีข้อจำกัดเรื่องความปลอดภัย ตรงนี้ควรประสานไปยังทีมแพทย์ของสนามบินนั้นๆ เพื่อทำการรักษา หรือส่งต่อผู้ป่วยจะดีที่สุด
"เรื่องนี้ สพฉ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ต่อไปจะมีการพูดคุยกับสนามบินต่างๆ รวมทั้งพื้นที่พิเศษอื่นๆ เช่น รถไฟฟ้าใต้ดิน การทางพิเศษว่า จะเชื่อมต่อกันอย่างไร หรืออาจจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินเชื่อมต่อกับระบบ 1669 อยู่ในทุกสนามบิน ตรงนี้เราก็จะมีการพูดคุยเพื่อพัฒนาต่อไป“ เลขาธิการ สพฉ. กล่าวและว่า ส่วนที่ระบุว่า เสียโอกาสใช้สิทธิ UCEP ขอเรียนว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น บิดาของผู้ร้องเรียนเป็นโรคเกี่ยวกับลำไส้ หากคัดแยกประเภท จะเข้าการเจ็บป่วยแบบเร่งด่วน ไม่ใช่การเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตที่อาจทำให้เสียชีวิตในทันที แต่ สพฉ.จะทำการตรวจสอบอีกครั้งว่าเข้าเกณฑ์หรือไม่ และยินดีเป็นหน่วยงานกลางในการทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย
ร.อ.นพ.อัจฉริยะ กล่าวว่า ประชาชนคนไทยทุกคน มีสิทธิในการใช้ UCEP เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิทุกที่ โดยไม่มีเงื่อนไขในการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาล ภายใน 72 ชั่วโมง ที่ไม่ต้องจ่าย เพราะมีการคุ้มครองจากกองทุนต่างๆ อยู่แล้ว ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ถ้าโรงพยาบาลรัฐ ก็จะมีทุกกองทุนจ่ายอยู่แล้ว แต่โรงพยาบาลเอกชน กองทุนจะจ่ายเฉพาะฉุกเฉินวิกฤต ถ้าไม่เข้าฉุกเฉินวิกฤต ต้องสำรองจ่ายไปก่อน และขอเบิกกับกองทุนในภายหลังได้ กรณีจะเข้าเกณฑ์หรือไม่เข้าเกณฑ์ทางโรงพยาบาลเอกชนจะส่งเรื่องมายังสพฉ. จากนั้นไม่เกิน 1 ชั่วโมง ก็จะรู้ทันทีว่าเข้าเกณฑ์เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตหรือไม่อย่างไร