- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- ‘พยัคฆ์ไพร’เช็คบิลแก๊งฟอกไม้เถื่อน สวมสวนป่าขายโรงเลื่อย
‘พยัคฆ์ไพร’เช็คบิลแก๊งฟอกไม้เถื่อน สวมสวนป่าขายโรงเลื่อย
‘พยัคฆ์ไพร’เช็คบิลแก๊งฟอกไม้เถื่อน สวมสวนป่าขายโรงเลื่อย ขยายผลเข้าตรวจสอบเป้าหมาย 2 จุด พบชาวจีน รับมอบอำนาจดูแล
จากกรณีเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร ร่วมกับชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. และตำรวจ บก.ปทส. ตรวจพบไม้ยางนาต้องสงสัย ภายในโรงเลื่อยของเอกชนแห่งหนึ่งในตำบลหนองกร อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 87 ท่อน จึงได้อายัดไม้ทั้งหมดไว้ตรวจสอบนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2562 นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ พร้อมด้วยนายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา หัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) และ พันเอกพงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดพยัคฆ์ไพร ตำรวจกองกำกับการ 4 บก.ปทส. และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่ ขยายผลเข้าตรวจสอบเป้าหมาย 2 จุด
จุดแรกเข้าตรวจสอบกองไม้ยางนาต้องสงสัย ภายในโรงงานแปรรูปไม้ของเอกชน เจ้าหน้าที่พบชายชาวจีน 2 คน อ้างว่าเป็นผู้ดูแลและได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของโรงงานให้นำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบดวงตราจากทางราชการประทับบนไม้ยางนาต้องสงสัย 87 ท่อน เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบจากเอกสารพบว่าต้นทางอยู่ในพื้นที่อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ โดยขอตัดทั้งหมด 20 ต้น แต่ได้ตัดเพียง 11 ต้น เมื่อนำพิกัดรูปแปลงมาตรวจสอบโดยละเอียด กลับพบว่าพื้นที่ที่ไม้ถูกตัดอยู่นอกแปลงโฉนดที่ดิน จึงได้สอบถามผู้ดูแลให้การว่า ได้รับซื้อไม้ยางนาจากชายคนหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอแม่วงก์ โดยอ้างว่าเป็นไม้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ขึ้นในพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ และได้ขึ้นทะเบียนสวนป่าเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบใบอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้โดยใช้เครื่องจักร ใบอนุญาตค้าหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อการค้า ซึ่งสิ่งประดิษฐ์ เครื่องใช้ หรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่ทำด้วยไม้หวงห้าม และ ใบอนุญาตตั้งโรงค้าไม้แปรรูป ทั้งหมดถูกต้อง ได้รับอนุญาตเมื่อ 9 กรกฎาคม 2562 ถึง 8 กรกฎาคม 2563
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งความดำเนินคดี ฐานมีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบรรพตพิสัย ดำเนินการตามระเบียบและกฎหมาย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการเดินทางไปยังพื้นที่ต้นทาง ในตำบลวังซ่าน อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ ขยายผลตรวจสอบตอไม้ทั้ง 11 ต้นที่ถูกตัด ภายหลังการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบว่าไม้ที่ถูกตัดอยู่ในบริเวณคลองวังม้าทั้งหมด และอยู่นอกแปลงโฉนดที่ดิน โดยที่ดินที่ระบุในโฉนดมีเพียง 75 ตารางวา เจ้าของได้เทปูนเพื่อเตรียมทำคาร์แคร์
จากการสอบถามเจ้าของที่ดินที่ระบุว่า เมื่อไม่นานมานี้มีชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นนายหน้าค้าไม้มาติดต่อขอซื้อไม้ยางนา โดยเจ้าของที่ดินระบุว่าไม้ไม่ได้อยู่ในที่ดินของตนเอง แต่นายหน้าได้แอบอ้างว่าสามารถเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ได้โดยขอเอกสารที่ดิน และใบมอบอำนาจ เพื่อนำไปดำเนินการขออนุญาตจัดตั้งสวนป่า ต่อมาได้มีชายกลุ่มหนึ่งเข้ามาตัดไม้ และมอบเงินให้กว่า 80,000 บาท เป็นค่าตอบแทน
เจ้าหน้าที่ได้จัดทำบันทึกเรื่องราวทั้งหมด แจ้งความดำเนินคดีฐานร่วมกันทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตกับนายหน้าค้าไม้ และกลุ่มบุคคลที่เข้ามาตัดไม้ แล้วนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่วงก์ เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กล่าวว่า อยากฝากเตือนไปถึงกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ดังกล่าวขอให้หยุด เนื่องจากขณะนี้ภาครัฐ ได้ปลดล็อกมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ 2487 ให้สามารถทำไม้ในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ หากยังดื้อดึง ฝ่าฝืนกฎหมาย จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด โดยจะส่งเรื่องให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ดำเนินการยึดทรัพย์
อย่างไรก็ตาม หากมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องจะดำเนินการสถานหนัก ลงโทษทั้งวินัยและ อาญา ด้านฝ่ายความมั่นคงได้ฝากไปยังผู้นำชุมชน และ พี่น้องประชาชน ช่วยกันสอดส่องดูแลไม้มีค่าในชุมชน เพื่อไม่ให้กลุ่มขบวนการฟอกไม้อาศัยช่องทางมาลักลอบตัด โดยเฉพาะในพื้นที่สาธารณะ ไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน หากพบผู้ใดมาแอบอ้างว่าสามารถเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ ในการช่วยเหลือให้สามารถตัดไม้นอกแปลงที่ดินกรรมสิทธิ์ โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อเข้าหยุดยั้งได้ทันที
ขอขอบคุณข่าวจาก https://www.naewna.com/local/448471