- Home
- Isranews
- เกาะประเด็น
- บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นยัน “รีลัคคุมะ” หน้าไม่เหมือนเอาผิดไม่ได้
บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นยัน “รีลัคคุมะ” หน้าไม่เหมือนเอาผิดไม่ได้
พลตำรวจเอก วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำเอกสารหลักฐานมาชี้แจงต่อสื่อมวลชน หลังตัวแทนบริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ “รีลัคคุมะ” แต่เพียงผู้เดียว เข้าร่วมพุดคุย ยืนยัน กระทงเด็ก 15 ปี ไม่เข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์
เว็บไซต์ www.springnews.co.th รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ย.2562 ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พลตำรวจเอก วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นำเอกสารหลักฐานมาชี้แจงต่อสื่อมวลชน หลังตัวแทนบริษัท ที.เอ.ซี. คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว ของบริษัท ซาน-เอ็กซ์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เข้าพบหารือ โดยยืนยันว่ากระทงของเด็กอายุ 15 ปี ไม่เข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์ เนื่องจากตรวจสอบแล้ว กระทงดังกล่าว มีรูปทรงใบหน้า ใบหู ไม่มีความเหมือนหรือคล้ายตัวการ์ตูน รีรัคคุมะ ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัท ซาน-เอ็กซ์ แต่อย่างใด อีกทั้งขั้นตอนการดำเนินการของบริษัท ที.เอ.ซี. ก่อนที่มีการจับกุมใคร หากได้รับแจ้งมีการละเมิดลิขสิทธิ์ จะตรวจสอบว่ามีการละเมิดจริงหรือไม่ หากมีจริงจะออกจดหมายเตือนก่อนถึง 2 ครั้ง ให้หยุดการกระทำผิด หากไม่มีการแก้ไข จึงจะส่งตัวแทนดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งจะไม่เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามที่ปรากฏในข่าว
ส่วนกรณี นายประจักษ์ โพธิผล ซึ่งอ้างเป็นตัวแทนบริษัท บริษัทเวอริเซ็ค จำกัด ที่อ้างเป็นตัวแทนลิขสิทธิ์ของบริษัท ซาน-เอ็กซ์ ยืนยันว่ามีอำนาจในการปราบปรามนั้น พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า บริษัท ซาน-เอ็กซ์ จำกัด ระบุเป็นเอกสารชี้แจงว่า บริษัทเวอริเซ็ค จำกัด ถูกยกเลิกสัญญาไปแล้ว ไม่มีอำนาจไปจับ ปรับ เรียกค่าเสียหาย ทั้งนี้จะเข้าข่ายกรรโชกทรัพย์ หรือแจ้งความเท็จหรือไม่ ยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดก่อน และจะเรียกนายประจักษ์ รวมถึงผู้บริหารของบริษัทเวอริเซ็ค มาสอบสวน รวมถึงตรวจสอบขบวนการทั้งหมดว่านายประจักษ์ ได้แบ่งเงินค่าปรับให้ใครบ้าง ทั้งนี้ตนได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เป็นเจ้าของสำนวนดังกล่าว
ทั้งนี้เมื่อตรวจสอบแล้วเด็ก 15 ไม่ได้ทำผิด การเสียค่าปรับไปก่อนหน้านี้ เมื่อการกระทำใดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้เยาวชนต้องจ่ายเงินค่าชดใช้ในการละเมิดลิขสิทธิ์ ทั้งๆ ที่ไมได้ละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นลาภมิควรได้ ที่คนได้ไปต้องเอามาคืน แต่การได้ไปหากเข้าองค์ประกอบกรรโชกทรัพย์ ก็ต้องถูกดำเนินคดีด้วย