- Home
- Isranews
- กระจายข่าว
- เชิญร่วมกิจกรรมเดินเท้า “เขาหลวง สู่เมืองหลวง”รวมพลัง ชุมชน ขจัดสิ้นยาเสพติด”
เชิญร่วมกิจกรรมเดินเท้า “เขาหลวง สู่เมืองหลวง”รวมพลัง ชุมชน ขจัดสิ้นยาเสพติด”
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันปัญหายาเสพติด...เปลี่ยนรูปแบบกระบวนการละวิธีการ ทุกครั้งที่ความพยายามของ ผู้รับผิดชอบในทุกระดับเข้าไปแก้ไขปัญหา การแพร่ระบาดก็จะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ คิดค้นหาวิธีการใหม่ๆ เพื่อหา ช่องการทางหลบเลี่ยงมาตรการของรัฐอยู่ตลอดเวลา ทำให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดกลายเป็นปัญหาที่แก้ไม่รู้จักจบสิ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลายฝ่ายมีความคิดสอดคล้องกันคือแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพและได้ผลอย่างถาวร นั่นคือ “การสร้างสำนึกรู้ถึงพิษภัยยาเสพติด”ของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งเยาวชนกลุ่มเสี่ยง ครอบครัว ผู้ปกครอง เจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานผู้รับผิดชอบโดยตรงและหรือทางอ้อม จนไปถึงนโยบายของรัฐบาล
นายเฉลิม กาญจนพิทักษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านเก้ากอ หมู่ 1 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็น 1 ใน 22 ท่านที่ได้รับรางวัล “ข้าราชการไทยใจสีขาว” มักจะถูกหยิบยกขึ้นกล่าวถึงเกือบทุกครั้งที่มีความพยายามแก้ไข ปัญหายาเสพติด หรือการต่อสู้กับปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะในยุคที่ภาคราชการและภาคการเมืองอ่อนแอ ซึ่งบทบาท หนึ่งของผู้ใหญ่เฉลิม คือ การเป็นข้าราชการที่ต้องการตอบแทนคุณแผ่นดินด้วยการสร้างความความเข้มแข็ง ในชุมชน ยึดหลักความถูกต้อง และ สร้าง ความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในชุมชน จนได้รับการยอมรับทั้งคนในหมู่บ้าน และชุมชน ใกล้เคียง
แต่อีกบทบาทหนึ่งที่สำคัญของผู้ใหญ่เฉลิม คือ การเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง โดยการประกาศตนเป็นศัตรู กับผู้ค้า และผู้เสพยาเสพติดอย่างชัดเจน โดยมีกระบวนการ วิธีการการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ที่เกิดจากความมุ่งมั่น แนวคิด ประสบการณ์และการเรียนรู้ จนทำให้บ้านเก้ากอ หมู่ 1 ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช กลายเป็น ต้นแบบของการต่อสู้เอาชนะยาเสพติดรวมทั้งในด้านอื่น ๆ โดยเฉพาะการเป็นหมู่บ้านเข้มแข็งพึ่งพาตนเองเป็นหลัก ในการทำงานของผู้ใหญ่เฉลิมที่ผ่านมากว่า 15 ปีมีอุปสรรคถูกกดดันทุกรูปแบบ ถูกตั้งค่าหัวหลักล้านจากกลุ่มอิทธิพล ผู้ค้ายาเสพติด จนในที่สุดต้องพักรบชั่วคราว ยอมยกธงขาว และปลดทำลายป้ายแดงที่เคยนำชื่อของผู้เสพ ผู้ค้ายาเสพติด มาประจานกลางหมู่บ้าน ทั้งนี้เพื่อรักษาชีวิตให้อยู่รอดเพื่อรอวันกลับมาต่อกรกับขบวนการยาเสพติดในครั้งใหม่
และในวันนี้เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนผ่าน ข้าราชการเข้มแข็ง การเมืองมีความเข้าใจ และรับรู้ถึงปัญหา ที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง สร้างขวัญและกำลังใจ ความเชื่อมั่นในหน่วยงานภาครัฐทุกระดับ...ผู้ใหญ่เฉลิม จึงร่วมกับผู้นำ ท้องถิ่นและชาวบ้านผู้ร่วมอุดมการณ์ลุกขึ้นสู้อีกครั้งในนาม “หมู่บ้านประชาธิปไตย ต้านภัยยาเสพติด” ด้วยหวังใจเพียง ขอลูกหลา กลับคืนสู่อ้อมอกพ่อแม่ อ้อมกอดของชุมชน ของสังคมอันอบอุ่น และใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยจากสิ่งเสพติด ซึ่งมีการยกระดับการต่อสู้ เพื่อเอาชนะยาเสพติดอย่างเข้มข้นขึ้น โดยประกาศ เป็น “หมู่บ้านประชาธิปไตย ต้านภัย ยาเสพติด จนได้รับการยอมรับจากมวลชนทั้งในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง จนถึงระดับประเทศ เกิดเป็นปรากฏการณ์ ทางสังคมที่มีการยอมรับในผลสำเร็จอย่างแท้จริง นับเป็นการสะท้อนภาพความพร้อมของผู้นำชุมชน ว่าสามารถสร้าง ความเข้มแข็ง จนเกิดความหวั่นเกรงของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด เป็นพลังตั้งต้นที่สำคัญให้ทุกคนในสังคม ประเทศชาติ หันมาให้ความสำคัญและร่วมต่อสู้เอาชนะปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง
“ในปัจจุบันรูปแบบ แนวทาง และประสบการณ์ของผู้ใหญ่เฉลิม ได้ขยายผลไปยังหมู่บ้านอื่น ๆ จนสามารถ ประกาศให้ทั้งตำบลทอนหงส์ เป็นตำบลสีขาวเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ... นี่คือจุดเริ่มต้นความเข้มแข็ง ของผู้นำชุมชน และชุมชน ที่ส่งผลต่อการแก้ปัญหายาเสพติดในระดับประเทศ ”
นายเฉลิม กาญจนพิทักษ์ “ผู้ใหญ่เหลิม” กล่าวว่า ในการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดนั้น สิ่งสำคัญที่สุด คือความ ร่วมมือทุกภาคส่วนเริ่มจากองค์กรหรือสถาบันที่เล็กที่สุดคือ “ครอบครัว” ไปจนถึงความร่วมมือในระดับนโยบาย หรือ รัฐบาล เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาทุก ๆ ส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง ต่อเนื่องและมีระบบ ระเบียบและแบบแผนที่ชัดเจน โดยมีเป้าหมายการมีเป้าหมายเดียวกันนั่นคือ “เอาชนะยาเสพติด” นำลูกหลานกลับคืนสู่บ้าน สู่ครอบครัว สู่สังคม ประเทศชาติ ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัย และมั่นคงต่อไป
เมื่อคนในชุมชนมีความพร้อม กลุ่มกิจกรรมหมู่บ้านประชาธิปไตยต้านภัยยาเสพติด ต.ทอนหงส์ (ตำบลสีขาว) อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช จึงได้มีการระดมความเห็นภายในหมู่บ้านและตำบล อำเภอและในระดับจังหวัด เพื่อยกระดับกระแสการต้อสู้เอาชนะยาเสพติดในระดับประเทศ โดยสอดประสานกับนโยบายของรัฐบาล นำไปสู่การแก้ไข ปัญหายาเสพติดแบบยั่งยืนพร้อม ๆ กันทั้งประเทศ โดยอาศัยหลักปรัชญาแนวคิดชุมชนจัดการตนเอง จากหมู่บ้านสู่ ตำบล และยกระดับจากตำบลสู่ระดับชาติและสากลต่อไป
ในที่สุดจึงตัดสินใจจัดกิจกรรม เดินเท้าจาก “เขาหลวง สู่เมืองหลวง” รวมพลังชุมชน ขจัดสิ้นยาเสพติด” ซึ่งเป็นการดำเนินกิจกรรมเพื่อเป็นกระตุ้นสังคมให้เกิดกระแสความคิด ร่วมสร้างความหวัง และกำลังใจแก่ทุกคน ในสังคมไทย เพื่อบอกกล่าว เล่าเรื่อง แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ผ่านชุมชนตลอดเส้นทางการเดินเท้า จากดินแดนเทือก เขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช สู่กรุงเทพมหานครเมืองหลวง โดยมีปลายทางการบอกเล่าเรื่องราวที่ทำเนียบรัฐบาล และมุ่งไปนายกรัฐมนตรี “นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” เพื่อให้รัฐบาลได้เห็นความมุ่งมั่น ตั้งใจ ในการต่อสู้เอาชนะ ยาเสพติด
นายเฉลิม กาญจนพิทักษ์ กล่าวอีกว่า กิจกรรมดังกล่าวนอกจากต้องการรณรงค์ จุดกระแสคนในสังคมให้ร่วม กันต่อสู้เอาชนะยาเสพติดแล้ว สิ่งที่ต้องการสูงสุดคือการสนับสนุนของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรมจริงจังโดยถอดบทเรียน หมู่บ้านประชาธิปไตยต้านภัยยาเสพติด ต.ทอนหงส์ (ตำบลสีขาว) อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช นำไปขยายผล สร้าง แนวร่วมและขยายเครือข่ายในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อการแก้ปัญหายาเสพติดยั่งยืนต่อไป
ทางด้าน พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ได้รับ รางวัล “ข้าราชการไทยใจสีขาว” พร้อมกับผู้ใหญ่เฉลิม กล่าวว่า โครงการเดินเท้า “เขาหลวง สู่เมืองหลวง” รวมพลัง ชุมชน ขจัดสิ้นยาเสพติด” ในครั้งนี้ นายเฉลิม กาญจนพิทักษ์ พร้อมกลุ่มพลังมวลชนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนจะร่วมเดินเท้า โดยมีจุดเริ่มต้นจากจังหวัดนครศรีธรรมราช บริเวณลานหาดทรายแก้ว วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร มุ่งหน้าสู่เมืองหลวง “กรุงเทพมหานคร” รวมระยะทางประมาณ 800 กิโลเมตร เส้นทางผ่าน 9 จังหวัด ประกอบด้วย นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และกรุงเทพมหานคร โดยเริ่มออกเดินทางในวันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 ถึงทำเนียบรัฐบาลวันศุกร์ ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
“จากแนวคิดของชุมชนสู่การรณรงค์สร้างกระแสต่อสู้เอาชนะยาเสพติดในครั้งนี้ได้รับการตอบรับจากทุกภาคส่วนอย่างกว้างขวาง นับเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่สำคัญยิ่งใหญ่ โดยตลอดเส้นทางจะมีกลุ่มพลังมวลชนจากทุกองค์กรเข้าร่วมเดินรณรงค์ พร้อมจัดกิจกรรมในรูปแบบเวทีเสวนา ล้อมวงคุย บอกกล่าวเล่าเรื่อง แลกเปลี่ยนประสบการณ์ตามจุดแวะพักในแต่ละพื้นที่ทุกแห่ง จากการประสานงานเบื้องต้นได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวาง
ในพิธีเปิดการเดินเท้ามี “นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์” ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน โดยมีกำลังใจจากต้นสังกัดอย่างนายสมพงษ์ มากมณี นายอำเภอพรหมคีรี ซึ่งคอยดูแลสนับสนุนความคิด ผลักดันโครงการต่างๆทั้งในและนอกกรอบ มีเป้าหมาย ความสำเร็จ มุ่งเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลางการจัดการ ส่วนเมื่อภายหลังข่าวคราวโครงการเดินเท้าได้ถูกแพร่กระจาย ขยายความคิด โยนหินถามทาง สอบถามหลายฝ่ายถึงความเป็นไปได้ ตลอดถึงความเหมาะสมอีกทางหนึ่งเพื่อหาแนวร่วมมาสักพักจนแน่ใจได้รับการตอบรับ
ในวันออกเดินทาง จะมีบรรดาเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจากทุกโรงพักมาร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง ในขณะที่นายราชิต สุดพุ่ม นายอำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช จะนำเครือข่าย พลังมวลชน ต้านยาเสพติด ทั้งกลุ่มผู้นำท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กลุ่มเยาวชน กลุ่ม อสม. ลูกเสือชาวบ้าน พระภิกษุ อาสาสมัคร มูลนิธิ ชมรม สมาคม เดินทางมาร่วมในพิธีเปิดอีกด้วย ”การเดินเท้าด้วยระยะทางไกล 800 กิโลเมตร จาก “เขาหลวงถึงกรุงเทพเมืองหลวง” โดยคณะของผู้ที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจด้วยเจตนารมณ์ที่แข็งแกร่ง แน่วแน่ ในการเดินเท้า ฝ่าความร้อน ความหนาวต่าง ๆ เพื่อให้การเดินทางครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการบอกเล่าเรื่องราวปัญหายาเสพติด รูปแบบวิธีการ ต่อสู้เพื่อเอาชนะ รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคมากมาย เพียงเพื่อให้สังคมได้รับรู้และเข้ามามีส่วนร่วมในแก้ปัญหาร่วมกัน การเดินเท้าจึงเป็นสัญลักษณ์ เป็นเครื่องมือในการสื่อสารกระตุ้น สังคมให้เกิดการรับรู้เพื่อเปิดพื้นที่สื่อสาธารณะ รวมถึงให้ รัฐบาลเห็นว่า ประชาชน/ชุมชน มีความต้องการเข้ามา ร่วมแก้ ปัญหา “เอาชนะยาเสพติด” และเรียกร้องให้รัฐบาลให้ความสำคัญยิ่งขึ้น โดยเพิ่มมาตรการเอาจริงกับการแก้ปัญหายาเสพติด ในทุกมิติอย่างจริงจังต่อเนื่องทั่วประเทศทั้งในเชิงปริมาณ และคุณภาพ ตลอดจนจะได้ก่อตั้ง “เครือข่ายต่อต้านยาเสพติดนครศรีธรรมราช” และโดยให้ท่านสามารถ สนับสนุนโครงการได้ที่ “กองทุนต้านยาเสพติดบ้านเก้ากอ” ธนาคาร กรุงไทยจำกัด สาขาศาลากลาง นครศรีธรรมราช บัญชีประเภทออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 389 – 0 – 10488 – 6
ดาวน์โหลด