- Home
- Isranews
- กระจายข่าว
- UNDP ชู "เครือข่ายโกลบอล คอมแพ็ก ปท.ไทย" ต้นแบบสร้างความยั่งยืนแก่ภาคเอกชน
UNDP ชู "เครือข่ายโกลบอล คอมแพ็ก ปท.ไทย" ต้นแบบสร้างความยั่งยืนแก่ภาคเอกชน
ชี้ความยั่งยืนเป็นโอกาสทางธุรกิจพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ในการผลักดันความยั่งยืนในไทย
เมื่อไม่นานมานี้ในโอกาสที่ “นางเฮเลน คลาร์ก” ผู้บริหารสูงสุด โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ หรือ UNDP ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธาน เครือข่ายโกลบอล คอมแพ็ก ประเทศไทย ได้นำคณะผู้บริหารระดับสูงของสมาชิกเครือข่ายโกลบอล คอมแพ็ก ประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจาก 15 องค์กรธุรกิจชั้นนำในประเทศไทย เข้าหารือเกี่ยวกับบทบาทของภาคเอกชนต่อการผลักดันเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยผู้บริหารสูงสุดของ UNDP เชื่อมั่นว่าการรวมตัวของภาคเอกชนในนามเครือข่ายโกลบอล คอมแพ็ก ประเทศไทย จะเป็นต้นแบบในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนให้เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะ ในการทำธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชน และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับ ภาคเอกชนไทย ในการขับเคลื่อนความยั่งยืน
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธาน เครือข่ายโกลบอล คอมแพ็ก ประเทศไทย เปิดเผยว่า เครือข่ายโกลบอล คอมแพ็ก ประเทศไทยซึ่งก่อกำเนิดขึ้นจากการรวมตัวของ 15 องค์กรชั้นนำของไทยที่เป็นสมาชิก UN Global Compact เพื่อร่วมกันผลักดันหลักสากล 10 ประการของ UN Global Compact และมีพันธกิจหลักในการส่งเสริมการทำธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชน และการร่วมผลักดันให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้ง 17 ประการ ได้ประชุมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ นางเฮเลน คลาร์ก (Ms.Helen Clark) ผู้บริหารสูงสุด โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ หรือ UNDP พร้อมด้วยนายลุค สตีเวนส์ (Mr. Luc Stevens) ผู้ประสานงานองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย/ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UN Resident Coordinator and UNDP Resident Representative) และนายมาร์ติน ฮาร์ท-แฮนเซ่น (Mr. Martin Hart-Hansen) รองผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย เกี่ยวกับบทบาทของภาคเอกชนในประเทศไทยต่อการผลักดันเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน(SDGs) รวมถึงการส่งเสริมให้ภาคเอกชนในประเทศไทยก้าวสู่การทำธุรกิจอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กประเทศไทยในการ ส่งเสริมให้บริษัทไทยจากหลากหลายขนาดและธุรกิจร่วมกันสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นจริงในไทย โดยเฉพาะการทำธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชน ผ่านยุทธศาสตร์ 5 ด้าน ได้แก่ การสร้างความตระหนักรู้ การทำงานกับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย การเสริมสร้างสมรรถนะแก่สมาชิก และภาคเอกชนไทย การร่วมผลักดันกฎหมายและนโยบายที่สำคัญ รวมถึงการขยายเครือข่ายสมาชิก
นางเฮเลน คลาร์ก ผู้บริหารสูงสุด โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ หรือ UNDP กล่าวว่าเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กประเทศไทยที่องค์กรธุรกิจชั้นนำของไทย15แห่งได้รวมตัวกันก่อตั้งขึ้นนี้จะเป็นต้นแบบของภาคเอกชนในการส่งเสริมความยั่งยืนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในประเทศไทย และขอชื่นชมที่เครือข่ายโกลบอล คอมแพ็ก ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้ภาคเอกชนดำเนินธุรกิจอย่างเคารพสิทธิมนุษยชน และในการจะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนได้นั้นจะต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ซึ่ง UNDPพร้อมเต็มที่ในการให้ความร่วมมือกับภาคเอกชนในการส่งเสริมการทำธุรกิจที่ยั่งยืนในประเทศไทย
ในการนี้ ผู้บริหารของบริษัทต่าง ๆ ที่เป็นสมาชิกเครือข่ายโกลบอล คอมแพ็ก ประเทศไทย ได้มีโอกาสหารือและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำธุรกิจที่ยั่งยืนกับผู้บริหารสูงสุดของ UNDP ในหลายหลายประเด็นที่น่าสนใจ อาทิ นางดาเรียน แมคเบน ผู้บริหารด้านการพัฒนายั่งยืน ของไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป ได้ระบุถึง ความสำคัญของการส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยทั้งหมดในทุกกลุ่มธุรกิจ และทุกขนาด ก้าวสู่การทำธุรกิจอย่างยั่งยืนพร้อมกัน
นายรักษ์ไทย บูรพ์ภาค บริษัท เอนเนอร์จี ไทย เทรดดิ้ง ฮับ จำกัด เสริมด้วยว่าภาคเอกชนเองก็จำเป็นที่ต้องจับมือกันเพื่อช่วยกันผลักดันความยั่งยืน ขณะที่นายไบรอัน แอนเดอร์สัน (Mr.Brian Anderson) ผู้จัดการ ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Manager) จากชีวาศรม ได้กล่าวถึงความสำคัญของการแบ่งปันประสบการณ์ของแต่ละธุรกิจ
ทั้งนี้ นางเฮเลน คลาร์ก ย้ำว่า ภาคเอกชนสามารถเป็นแรงสำคัญในการทำดีในสังคมได้ (Business as a force for good) เพราะการส่งเสริมความยั่งยืนถือเป็นโอกาสทางธุรกิจ ดังนั้น บริษัทที่พร้อมจะนำความยั่งยืน มาผนวกกับธุรกิจ สามารถกลายเป็นผู้นำทางธุรกิจและเป็นตัวอย่างที่ดีในการสร้างมูลค่าร่วมกัน (shared value) ในสังคม โดยภาคธุรกิจต้องมองภาพใหญ่ให้ชัดและถามตัวเองด้วยว่าต้องการเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาหรือทางออก ซึ่งในประเด็นนี้ ดร. ธีระพล เตชะวิเชียร CEO จากพริ้นท์ ซิตี้ ชี้ถึงความสำคัญของ SMEs ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ในการเข้าร่วมยูเอ็นโกลบอลคอมแพ็กซึ่งถือเป็น มาตรฐานระดับโลก ช่วยให้ธุรกิจของตนที่ถือเป็น SMEs ได้รับการยอมรับจากคู่ค้าในต่างประเทศด้วย
นางสาวมนวิภา จูภิบาล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักกิจการองค์กร ไออาร์พีซี ได้กล่าวชื่นชมนางเฮเลน คลาร์ก ในการร่วมผลักดันสิทธิสตรี และกล่าวถึงความสำคัญการยกระดับบทบาทของสตรีในภาคธุรกิจ ซึ่ง นางเฮเลน ในฐานะที่เป็นผู้นำหญิง คนแรกของ UNDP กล่าวเสริมว่า ภาคธุรกิจสามารถทำตัวเป็นผู้นำในการลดช่องว่างระหว่างผู้หญิง และผู้ชายในสังคมได้ อาทิ การเพิ่มจำนวนสตรีในกรรมการบริษัทหรือผู้บริหารระดับสูง การจัดสถานรับเลี้ยงเด็ก หรือเปิดโอกาสให้พนักงานลางานเพื่อเลี้ยงดูบุตรได้นานขึ้น โดยยกตัวอย่างกรณีนิวซีแลนด์ ที่พ่อหรือแม่ต่างก็มีสิทธิในการลาเลี้ยงดูบุตรแบบที่ยังได้รับเงินเดือนได้เป็นเวลา 12 สัปดาห์
นางสาวพัชรภรณ์ สกุลวิวรรธน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สำนักความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) เน้นว่าการทำธุรกิจที่ยั่งยืนควรมุ่งที่การแก้ปัญหาทุจริตด้วย อาทิ การหลีกเลี่ยงภาษีและการให้สินบน ทั้งในฝ่ายของภาคราชการและเอกชน ซึ่งนับเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาประเทศ ซึ่งนางเฮเลนเห็นพ้องด้วยว่านับเป็นปัญหาที่สำคัญ ของทุกประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่ยากจน และเน้นว่าอาจใช้ประโยชน์จากแหล่งความรู้ของผู้เชี่ยวชาญจากองค์การระหว่างประเทศ อาทิ องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organization for Economic Co-operation and Development – OECD) เพื่อเป็นแนวทางในการหาทางแก้ไข
ดร. ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านนวัตกรรมและความยั่งยืนองค์กร ทรู คอร์ปอเรชั่น ชี้ความสำคัญของนวัตกรรม ในการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมทั้งถามถึงบทบาทของการส่งเสริมนวัตกรรมของ UNDP โดยนางเฮเลน แนะนำว่า ควรจะต้องให้เยาวชนที่ต้องการร่วมเปลี่ยนแปลงสังคม มีส่วนร่วมในกระบวนการมากขึ้น รวมทั้งต้องสร้างจิตวิญญาณของการสร้างธุรกิจ(entrepreneurship) ซึ่งในที่สุดนวัตกรรมก็จะนำไปสู่ การแก้ปัญหาสังคมและการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ ในการนี้นายศุภชัยได้กล่าวเสริมว่า ภาคธุรกิจเองก็ควรมองในภาพกว้างว่าจะนำความรู้ความชำนาญของตนมารับใช้สังคมได้อย่างไร นอกเหนือจากเพียง การแสวงหากำไร และนวัตกรรมเองควรจะต้องช่วยเสริมการพัฒนา ตั้งแต่รากฐานขึ้นไป อาทิ เครือข่าย อินเตอร์เน็ต หรือ การแบ่งปันความรู้
อนึ่ง 15 องค์กรชั้นนำ ผู้ร่วมก่อตั้ง "เครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กประเทศไทย" ประกอบด้วย1. บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) 3. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) 4. บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด 5. บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) 6. บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด 7. บริษัท พินนาเคิล โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด 8. บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) 9. บริษัท พริ้นท์ ซิตี้ จำกัด 10. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 11. บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด 12. บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) 13. บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) 14. บริษัท ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) 15. บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)