“งานพันธุ์บุรีรัมย์” อัดแน่นทั้งวิชาการ-ความบันเทิง ผู้ร่วมงานสองวัน กว่า 8 หมื่นคน

งานพันธุ์บุรีรัมย์ มหกรรมกัญชาเพื่อการแพทย์ กระแสตอบรับดีอย่างต่อเนื่อง ประชาชนทั่วสารทิศ ตื่นรู้แห่เข้าฟังสัมมนา เข้าชมนิทรรศการจนแน่นขนัดทุกพื้นที่ ผ่านไป 2 วัน มียอดเข้างานกว่า 80,000 คน คาด 3 วัน ยอดทะลุ 1.5 แสนราย ส่วนคนที่ผ่านการขอครอบครองกัญชา 2 วัน รวมกว่า 2,724 ราย ด้านนายเนวินเชื่อมีคนเป็นล้านที่ต้องการใช้กัญชารักษาโรค วอนรัฐบาลปลดล็อคให้ประชาชนครอบครองได้คนละ 6 ต้นใช้เป็นยารักษาโรคในครัวเรือนเชื่อเป็นไฮเวย์แก้จนให้กับประเทศ

เมื่อวันที่ 19-21 เม.ย. 2562 จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับองค์กรภาคประชาชน และภาคเอกชน จัดงานเผยแพร่ความรู้ในการนำพืชกัญชาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์อย่างถูกกฎหมาย ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ในการรักษาอาการเจ็บป่วยได้ ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

บรรยากาศในงาน 2 วันแรกเป็นไปอย่างคึกคัก ได้รับความสนใจจากประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ,ผู้ป่วย, บุคลากรทางการแพทย์ เดินทางมาร่วมงานกว่า 80,000 หมื่นคนคาดว่าหลังจบงานจะมีประชาชนมาร่วมกว่า 1.5 แสนคน

นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าประชาชนที่มาร่วมงานในครั้งนี้ สามารถแจ้งการครอบครองกัญชาได้ภายงานนี้ โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ มาให้บริการตลอดทั้งวัน ซึ่งผู้แจ้งครอบครองกัญชาจะต้องมีใบรับรองแพทย์ และเอกสารแสดงการครอบครองต้นกัญชา น้ำมันกัญชา หากไม่มีใบรับรองแพทย์ ก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่และแจ้งความประสงค์ได้ ภายในงาน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำจนได้ใบรับรองแพทย์ และถือครองได้

โดยคนที่มาขอยื่นครอบครองกว่า 6,000 ราย แต่มีผู้ผ่านการครอบครองรวมแล้วกว่า 2,724 ราย โดยวันแรกคือ วันที่ 19 เมย.มีผู้แจ้งครอบครอง 1,153 ราย วันที่ 2 มียอด 1,571 ราย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยรุนแรง เป็นมะเร็งมากที่สุด นอกจากนี้ยังมี หอบหืด ปวดข้อ ปวดระบบประสาท พาร์คินสัน และอีกกลุ่มไม่แสดงอาการรุนแรง เช่น โรคเครียด ไมเกรน เป็นต้น

นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด กล่าวว่า ตนเชื่อว่ายังมีคนอีกเป็นล้านที่ต้องการใช้กัญชาในการรักษาโรค แต่ยังเข้าไม่ถึง ด้วยความที่หายาก และเป็นสารเสพติดประเภท 5 ผิดกฎหมาย แม้ว่าจะเปิดโอกาสให้ยื่นแจ้งครอบครองนิรโทษกรรมถึงวันที่ 19 พค ก็ยังมีความเป็นห่วงว่าหลังจากนั้นประชาชนที่ต้องการใช้กัญชาในการรักษาโรคจะต้องดำเนินการอย่างไร สามารถครอบครองและใช้ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย

ในอนาคตหน่วยงานส่วนราชการต่างๆ ในจังหวัดบุรีรัมย์จะร่วมกันขับเคลื่อนแพทย์แผนไทย โดยจะให้ทุกครอบครัวปลูกสมุนไพรไว้ใช้ทางการแพทย์และดูแลตัวเอง เพื่อลดค่าใช้จ่าย 30 บาทให้กับรัฐบาล เพราะเมื่อประชาชนดูแลรักษาสุขภาพตัวเองได้แล้ว ก็จะไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลน้อยลง เป็นการช่วยลดงบประมาณของรัฐบาลลงได้อีกทางหนึ่ง

“อยากเรียกร้องให้นายกฯออกม.44-ปลดล๊อคให้กัญชาเสรี ให้แต่ละครอบครัวปลูกและใช้กัญชาทางการแพทย์ได้ไม่เกิน 6 ต้น เป็นการเปิดเสรีแบบมีขอบเขตกติกา ชาวบ้านใช้เกณฑ์ปลูกใช้ทางการแพทย์ ส่วนภาคธุรกิจใช้อีกเกณฑ์หนึ่งที่ต้องเสียภาษีให้กับรัฐบาล กัญชา คือซุปเปอร์ไฮเวย์ที่จะช่วยสร้างเศรษฐกิจของประเทศแก้โรค เจ็บป่วยและแก้จนได้ ถ้าปลูกขายได้ จะทำให้ชาวบ้านมีรายได้ มากขึ้นเกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน รัฐบาลมีรายได้เพิ่มตาม รัฐบาลออก ม .44 เรื่อง ทีวีดิจิตอลได้กัญชาก็ต้องออกได้” นายเนวิน กล่าวปิดท้าย

ทั้งนี้ การจัดงาน “พันธุ์บุรีรัมย์” ยังมีความบันเทิงที่ยิ่งใหญ่จัดเต็มตลอด 3 วัน ภายในบริเวณงานยังมีสินค้าทางการเกษตร, ร้านค้าของดีเมืองบุรีรัมย์, คาราวานฟู้ดทรัคเก๋ๆ, ร้านขายเสื้อผ้า ของประดับ, งานอาร์ตๆ พร้อมความบันเทิงครบครัน คอนเสิร์ตยิ่งใหญ่จากศิลปินชั้นนำ แบ่งเป็น 3 เวที 3 แนวเพลงทั้งฮิปฮอป, เร็คเก้และอิเล็กโทรนิกส์ กว่า 70 วง ซึ่งบรรยากาศในช่วงเย็นได้รับการตอบรับจากประชาชนเข้าร่วมงานอย่างคึกคักไม่แพ้ในส่วนวิชาการเช่นกัน

ผู้สนใจเข้าร่วมงาน ห้ามพลาด ซื้อบัตรได้ที่ www.allticket.com หรือ เซเว่นทุกสาขา รวมทั้งมีบัตรจำหน่ายที่ด้านหน้างานด้วย