จาก“ทามาก็อตจิ” ถึง “ตุ๊กตาเฟอร์บี้” ความจริงอีกด้าน "ของเล่น" ไฮเทค
“ของเล่นอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าสามารถครอบงำสมองเด็ก เนื่องจากเด็กตอบโต้กับสถานการณ์ที่สร้างขึ้นโดยคนอื่น ซึ่งจะมีผลต่อความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก”
ทำไม คนไทย ถึงได้ชื่นชอบ ตุ๊กตาเฟอร์บี้ (Furby) กันนัก?
นี่คือ คำถามที่ค้างคาใจของใครหลายคนในห้วงเวลานี้
คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า หลังเจ้าตุ๊กตาเฟอร์บี้ ที่มี รูปร่างคล้าย “นกฮูก” ผสม “หนูแฮมส์เตอร์” ขนนุ่มปุกปุย ขนาดกะทัดรัด ความสูงประมาณ 5 นิ้ว เปิดตัวออกมาในช่วงปลายปี 2555 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน
กระแสความนิยมคลั่งไคล้ เจ้าตุ๊กตาตัวนี้ ได้พุ่งทะยานสูงจุดสูงสุด ลูกค้าทุกเพศทุกวัยทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ ต่างดิ้นรน เสาะหา มาเป็นเจ้าของ
ถึงขนาดมีคนพูดกันว่า ช่วงนี้ ถ้าใครไม่รู้จักเจ้า ตุ๊กตาเฟอร์บี้ ต้องเรียกว่า เอาท์สุดๆ
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ตุ๊กตาเฟอร์บี้ เป็นของเล่นไฮเทคเสมือนสัตว์เลี้ยงจริง สร้างขึ้นโดยบริษัท Hasbro ผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่ระดับโลก ผลิตออกมาจำหน่ายแล้วหลายรุ่น โดยรุ่นแรก เปิดตัวเมื่อปี 2541 พร้อมกับสร้างประวัติศาสตร์ในวงการของเล่น ด้วยยอดจำหน่ายสูงสุดถึง 40 ล้านตัวทั่วโลก
ก่อนที่กระแสความนิยม จะแผ่วลง เนื่องจากความยุ่งยากในการสื่อสาร จากภาษาเฟอร์บิช (Furbish) ที่เป็นภาษาเฉพาะของพวกมันเอง
แต่การกลับของ เฟอร์บี้ รุ่นใหม่ ครั้ง นี้ คือ รุ่น 2012 ก็ไม่ทำให้แฟนเฟอร์บี้ทั่วโลกๆ ผิดหวัง
เพราะหลังจาก บริษัทผู้ผลิต ได้ทำการปรับปรุงเจ้าตุ๊กตา เฟอร์บี้ ขึ้นมาใหม่ ให้แสนรู้ยิ่งขึ้นกว่าเดิมเพิ่มการรับรู้และเคลื่อนไหว พร้อมลูกตาเรืองแสงได้
และยังสามารถสื่อสาร กับเจ้าของ ผ่านทางแอพพลิเคชั่นใน iPhone หรือ iPad พร้อมทั้งให้อาหารได้อีกด้วย ทำให้เจ้า เจ้าตุ๊กตาเฟอร์บี้ กลับมาได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
มีการยืนยันข้อมูลจาก บริษัท แมค แอคทีฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าตุ๊กตา เฟอร์บี้ ลิขสิทธิ์แท้ ในประเทศไทย ว่า นับตั้งแต่มีการเปิดตัวตุ๊กตาเฟอร์บี้ ในช่วงปลายปี 2555 ที่ผ่านมา ยอดตุ๊กตาเฟอร์บี้ล็อตแรกที่นำเข้ามาถูกจำหน่ายไปหมดแล้ว ขณะที่ยอดคำสั่งซื้อค้างอยู่อีกหลายพันตัว เนื่องจากกระแสความนิยมของลูกค้าในประเทศมีจำนวนมาก แม้ว่าราคาจำหน่ายเฟอร์บี้ จะตั้งไว้สูงถึงตัวละ 3,999 บาท ก็ตาม
ขณะที่ราคาตุ๊กตาเฟอร์บี้ ในตลาดหิ้ว (สินค้าที่ลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ) ของบุคคลทั่วไปที่นำมาขายต่อ ผ่านทางเว็บไซต์ FACEBOOK และร้านค้าต่างๆ
ปัจจุบันมีการขยับราคาขึ้นไปถึงตัวละ 6,000 บาท แต่สินค้าก็ยังมีไม่เพียงพอ ถึงขนาดผู้ค้าบางราย ต้องประกาศระงับการสั่งซื้อลงชั่วคราวไปแล้ว
จากการสอบถามความเห็นของเจ้าของตุ๊กตาเฟอร์บี้ ในประเทศไทย หลายราย ได้รับการยืนยันข้อมูลตรงกันว่า สาเหตุที่ทำให้คนไทย ชื่นชอบ ตุ๊กตาเฟอร์บี้ มาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 1. ความไฮเทค และ 2. กระแส
สำหรับปัจจัยเรื่องความไฮเทค ของ เจ้าตุ๊กตา เฟออร์บี้ ที่ทำให้คนไทยหลงใหล คงหนีไม่พ้นลูกเล่นโดนใจ จำนวนมาก ที่ผู้ผลิตใส่เข้าไป เพื่อให้ตุ๊กตาตัวนี้ เสมือนมีชีวิตจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการขยับหรือแสดงอารมณ์บนใบหน้า ตอบสนองต่อการสัมผัสของมนุษย์ ถ้าลูบหลัง จะส่งเสียงมีความสุข ถ้าจี้ท้องจะหัวเราะ เรียนรู้คำพูด ถ้าพูดกับมันเยอะ มันก็จะยิ่งพูดคุยกับเราได้มากขึ้น เป็นเพื่อนคลายเหงาชั้นดีเลยทีเดียว
ส่วนเรื่องกระแสนั้น เจ้าของตุ๊กตา เฟอร์บี้ หลายราย ยอมรับตรงกันว่า มีผลต่อแรงจูงใจ ที่ทำให้อยากได้ตุ๊กตาตัวนี้ มาเป็นเจ้าของมากขึ้น
“ตอนแรกก็ไม่รู้จักหรอก แต่เห็นพวกดารา เขาเล่นกันเยอะ และไปไหนมาไหน ก็มีแต่คนถามถึงเจ้าตุ๊กตาตัวนี้ ตลอด ก็เลยทำให้เราอยากซื้อมาเล่นมากขึ้น และพอได้เล่น แล้ว ก็พบว่าตุ๊กตาตัวนี้มันมีเสน่ห์มาก ใกล้เคียงสัตว์เลี้ยงจริงๆ พูดคุยโต้ตอบได้ ก็ยิ่งทำให้ชอบขึ้นไปใหญ่”
“ส่วนเรื่องราคาไม่ใช่ปัญหา เพราะดูแล้วมันก็สมเหตุสมผลกับความทันสมัยของสินค้า สินค้าดี ราคามันก็ต้องแพงกว่าอยู่แล้ว” เจ้าของตุ๊กตาเฟอร์บี้ รุ่นล่าสุดระบุ
ทั้งนี้ มีการยืนยันข้อมูลล่าสุด จากบริษัทผู้ผลิตเฟอร์บี้ ในต่างประเทศ ว่า ในช่วงเดือนกันยายน 2556 ที่จะถึงนี้ ตุ๊กตาเฟอร์บี้รุ่นใหม่ จะออกวางจำหน่ายในตลาด ซึ่งจะมีการเพิ่มลูกเล่นมากขึ้นไปอีก
ส่วนราคาก็คงปรับขึ้นไปตามเทคโนโลยีที่นำมาใช้ และจะมีการทำแบบนี้ออกมาเรื่อยๆ ไม่ต่างอะไรกับกลยุทธ์การทำธุรกิจของบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารยักษ์ใหญ่ของโลก ที่มักจะผลิตสินค้ารุ่นใหม่ออกมาเรื่อยๆ แบบปีต่อปีเพื่อจูงใจให้ลูกค้า ที่ชอบไล่ตามเทคโนโลยี ผูกติดอยู่กับสินค้าของตนเองต่อไปเรื่อยๆ แบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
เชื่อว่า น่าจะทำให้กระแสตุ๊กตาเฟอร์บี้ ยุคใหม่ อยู่ต่อไปได้อีกนาน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตุ๊กตาเฟอร์บี้ จะมีข้อดีหลายอย่าง แต่โทษที่มาพร้อมกับมัน ก็มีไม่น้อยเลยทีเดียว
พญ. วิมลรัตน์ วันเพ็ญ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ สถาบันสุขภาพจิตเด็ก และวัยรุ่นราชนครินทร์ กล่าวแสดงความเห็นเรื่องตุ๊กตาเฟอร์บี้ กับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า เหตุผลที่ทำให้ตุ๊กตาเฟอร์บี้ เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไป คงเป็นเพราะความน่ารัก ในตัวของมันเอง
“ด้วยความที่มันเป็นของเล่นสมัยใหม่ มีเทคโนโลยีหลายอย่าง ที่ทำอะไรได้เหมือนสัตว์เลี้ยงจริงๆ ก็ยิ่งทำให้คนยุคปัจจุบัน ที่มีลักษณะชื่นชอบอะไรที่เร็วๆ ไม่ช้า และไม่ชอบอะไรที่เป็นภาระ ยิ่งชื่นชอบมันมากขึ้นไปอีก”
พญ. วิมลรัตน์ ขยายความต่อไปว่า ความชื่นชอบในตัวตุ๊กตาเฟอร์บี้ ของคนปัจจุบัน ก็คงไม่ต่างอะไรกับการชื่นชอบ เรื่องเทคโนโลยี ที่มีความล้ำสมัยก้าวหน้า เห็นได้จากความชื่นชอบในเรื่องคอมพิวเตอร์ ของคนทั่วไป
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ ของเล่นลักษณะจะยิ่งกระตุ้นให้คนที่เล่น หมกตัวอยู่ในโลกของจินตนาการของตัวเองมากจนเกินไป จนหลงลืมโลกแห่งความเป็นจริงหรือไม่
“ตอนนี้เรามีสัตว์เลี้ยง ไฮเทค แล้ว เราไม่ต้องไปดูแลอะไรมาก ไม่เป็นภาระ จะทำอะไรก็ได้ ไม่ต้องใส่ใจหรือให้ความสำคัญอะไร ซึ่งความรู้สึกแบบนี้ เป็นเรื่องที่น่าห่วง เพราะหากมันติดออกมา และถูกนำไปใช้กับการดำเนินชีวิตในโลกความเป็นจริง จะเป็นอะไรที่น่าเป็นห่วงมาก”
พญ.วิมลรัตน์ ยังกล่าวด้วยว่า ด้วยความที่คนยุคปัจจุบัน มักชอบอะไรแบบเร็ว เห่ออะไรเป็น พักๆ หากมีของเล่นอะไรใหม่ขึ้นมาแทน กระแสของเฟอร์บี้ ก็คงจะตกไปเอง เหมือนกับครั้งหนึ่ง ที่เราเคยฮิต เล่น ทามาก็อตจิ (Tamagotchi สัตว์เลี้ยงอิเล็กทรอนิกส์เเบบพกพาให้เราสามารถป้อน ข้าว เล่น ทำความสะอาด ดูเเลรักษา เพื่อให้โตขึ้นออกมาเป็นรูปเเบบต่างๆ) เมื่อคนเลือกเห่อ และมีของเล่นใหม่มาแทน คนก็ไม่ให้ความสนใจไปโดยปริยาย ถูกทิ้งกลายเป็นขยะไร้ค่า
“ สิ่งที่น่าเป็นห่วงอีกอย่าง สำหรับเฟอร์บี้ ในตอนนี้ คือ เนื่องจากมันเป็นสินค้าที่มีราคาแพง หาซื้อยาก อาจจูงใจให้เด็กบ้างคน ที่ไม่มีเงินซื้อ และอยากได้ เป็นเจ้าของ ต้องใช้กำลังหรือวิธีการลักขโมยเพื่อให้ได้มา เพราะฉะนั้น ผู้ปกครองควรให้ความระมัดระวังด้วย” พญ.วิมลรัตน์ ระบุ
ขณะที่งานวิจัยของปีเตอร์ สมิท ศาสตราจารย์สาขาจิตวิทยาของโกลด์สมิทส์ คอลเลจ, มหาวิทยาลัยลอนดอน และนักโภชนาการ ราเชล บิกกินส์ ระบุว่า การที่เด็กใช้เวลามากเกินไปในการนั่งและการอยู่คนเดียว ซึ่งอาจยับยั้งพัฒนาการด้านจิตใจและร่างกาย
“ของเล่นอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าสามารถครอบงำสมองเด็ก เนื่องจากเด็กตอบโต้กับสถานการณ์ที่สร้างขึ้นโดยคนอื่น ซึ่งจะมีผลต่อความคิดสร้างสรรค์ของเด็ก”
ส่วน เคธี เฮิร์ช-พาเส็ค นักจิตวิทยาพัฒนาการมหาวิทยาลัยเทมเปิล ในสหรัฐอเมริกา เคยให้ความเห็นตอกย้ำเกี่ยวกับพัฒนาการของเด็กจากของล่น ว่า ของเล่นรุ่นเก่า เปิดโอกาสให้เด็กได้ทดลองใช้จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ จึงมีคุณประโยชน์แก่เด็กมากกว่าของเล่นยุคใหม่ โดยเฉพาะการฝึกให้เด็กเป็นผู้แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และเป็นนักค้นพบ
“ของเล่นยุคเก่า เช่น ลูกบอลยางสีแดง ตัวต่ออย่างง่าย ดินเหนียว และดินสอสี ที่มีราคาไม่แพงเหล่านี้ และมักจะวางไว้อยู่หลังร้าน ค่อนข้างจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพเด็กมากกว่าของเล่น เพื่อการศึกษาอิเล็กทรอนิกส์ราคาแพงเสียอีก เพราะเด็กจะได้เสริมสร้างจินตนาการของเขา และเธอจากของเล่นง่ายๆเหล่านี้ ของเล่นไม่ได้สั่งให้เด็กทำ แต่เด็กเป็นผู้สั่งให้ของเล่นทำ”
นักจิตวิทยาพัฒนาการมหาวิทยาลัยเทมเปิล ยังระบุด้วยว่า ในระยะที่ผ่านมาผู้ผลิตของเล่นกำลังเล่นอยู่กับความกลัวของผู้ปกครอง ที่กลัวว่าลูกของตนจะถูกทิ้งไว้เบื้องหลังภายใต้การแข่งขันในตลาดโลก จึงมีของเล่นอิเล็กทรอนิกส์ออกมาเพื่อบอกว่าจะช่วยกระตุ้นเด็ก
สอดคล้องกับความเห็นของ ผู้เชียวชาญด้านเด็กรายหนึ่ง ในไทยรายหนึ่ง ที่แสดงความเห็นเรื่องของเล่น ไว้ให้นิตยสาร หมอชาวบ้าน ไว้อย่างน่าสนใจว่า ปัจจุบันเรามีของเล่นประดิษฐ์สำเร็จรูปมาก เราจึงแยกการเล่นของเด็กออกจากธรรมชาติ เด็กเล่นอยู่ในโลกเทคโนโลยี เราเองซึ่งเป็นผู้ใหญ่ยังลืมไปว่า สิ่งต่างๆ รอบตัวเราที่เกิดและมีโดยธรรมชาติ ก็เป็นของเล่นที่เด็กจะเพลิดเพลิน เรียนรู้ และสร้างจินตนาการต่างๆ การเล่นเป็นหมู่คณะน่าจะดีกว่าอุดอู้เล่นคนเดียวอยู่ในห้องการเล่นช่วยพัฒนาการเด็กทั้งร่างกาย สมอง และจิตใจ
“ การให้ของเล่นแก่ลูก เป็นการแสดงออกถึงความรักและเอาใจใส่ต่อลูก แต่อย่าหาของเล่นให้ลูก เพื่อทดแทนเวลาที่พ่อแม่จะให้แก่ลูก อย่าหาของเล่นให้ลูก เพื่อให้ลูกมีของเล่นไม่น้อยหน้าเด็กอื่น อย่าหาของเล่นให้ลูก เพียงเพื่อแสดงฐานะของพ่อแม่”
“ของเล่นที่ดีไม่ใช่อยู่ที่ราคา แต่ควรเป็นของเล่นที่เหมาะกับวัยของเด็ก การซื้อหาของเล่นราคาแพงๆ แล้วบังคับให้เด็กเล่นด้วยความทะนุถนอมเพื่อไม่ให้เสียหาย กลับมีผลเสียต่อจิตใจเด็กมากกว่า ของเล่นที่เราให้แก่เด็ก ควรฝึกเด็กให้มีความรับผิดชอบดูแลเอง ถ้าเด็กทำเสียหาย เขาจะได้เรียนรู้ถึงวิธีการรักษาของ เมื่อเด็กทำของเล่นเสีย เด็กก็ถูกลงโทษอยู่แล้ว เพราะจะไม่ได้เล่นของชิ้นนั้นอีกต่อไป”
นี่ คือ ความจริงอีกด้าน ที่มาพร้อมกับตุ๊กตาเฟอร์บี้ และของเล่นอิเล็กทรอนิกส์ราคาแพง ที่สังคมไทย ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นสังคมที่ให้ความสำคัญกับวัตถุนิยม ชื่นชอบของใหม่ๆ วิ่งไล่ตามเทคโนโลยี พร้อมทำอะไรตามกระแสคนส่วนมาก
กำลังเผชิญหน้าอยู่ในเวลานี้...
---------------------
อ่านประกอบใน
ดีเจ“เจ๊แหม่ม”เตือนอย่าซื้อ "เฟอร์บี้" แพงตามกระแส ของหิ้วโผล่"มาบุญครอง"อีก
ตุ๊กตาเฟอร์บี้ “หิ้ว” โผล่ “เซ็นทรัล” –ผู้นำเข้าฯลิขสิทธิ์ เตรียมงัด กม. สคบ.เล่นงาน
“ของขาดหนัก” ราคา “ตุ๊กตาเฟอร์บี้” ตลาดหิ้ว พุ่งทะยาน ตัวละ 6,000 บาท
“ตุ๊กตาเฟอร์บี้” โผล่สำเพ็ง – ผู้นำเข้าลิขสิทธิ์ สั่งหยุดขายบน Facebook
เปิดยอด หมา-แมว ถูกทิ้ง เฉียดล้าน!! ท่ามกลางกระแสฟีเวอร์ “ตุ๊กตาเฟอร์บี้ ”