เปิดเม็ดเงินจำนำข้าวล่าสุด"ธ.ก.ส."สำรองจ่ายแสนล้านได้คืนแค่ 2.5หมื่นล.

"ธ.ก.ส." ร่อนหนังสือแจง "สตง." หลังถูกบี้ปมผลกระทบการเงินใช้จ่ายจากโครงการจำนำข้าว ยืนยันยอดล่าสุด รัฐบาลค้างหนี้ 9.2 หมื่นล้าน หลังควักเงินสำรองจ่ายไปแล้ว กว่า 117,523 ล้านบาท แต่ได้คืนแค่ 2.5 หมื่นล้าน  ย้ำขั้นตอนการดำเนินการมีมติ ครม.-ผู้บริหารธนาคารรองรับ เร่งชี้แจงข้อมูลแก้ปัญหาภาพลักษณ์ธนาคาร

กรณีมีกระแสข่าวว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กำลังประสบปัญหาทางการเงินจากการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั้น

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือไปถึง ธกส. เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานะการเงินของธนาคาร ต่อกรณีการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล

ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2557 ที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้นำหนังสือชี้แจงต่อ สตง. เกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

โดยระบุว่า เงินที่ ธ.ก.ส.สำรองจ่ายเพื่อใช้ในโครงการรับจำนำผลิตผลการเกษตร จำนวน 117,523.78 ล้านบาท ปัจจุบันได้รับชำระคืนแล้วเป็นจำนวน 25,391 ล้านบาท ทำให้ยอดวงเงินที่ยังไม่ได้รับชำระคืนอยู่ที่ 92,132.78 ล้านบาท

ธ.ก.ส. ยังระบุด้วยว่า ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 ธ.ก.ส. มียอดเงินที่สำรองจ่ายเพื่อใช้ในโครงการจำนวน 99,184 ล้านบาท แยกเป็นโครงการ 2554/2555 จำนวน 8,390 ล้านบาท และโครงการปี 2555/2556 จำนวน 90,794 ล้านบาท

ขณะที่การดำเนินงานตามโครงการจำนำ และธ.ก.ส. ต้องสำรองจ่ายในโครงการรับจำนำผลิตผลการเกษตร ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2556 จำนวน 92,947 ล้านบาท และมีการติดตามฐานะสภาพคล่องเป็นประจำทุกวัน โดยประเมินผลกระทบและคาดการณ์สภาพคล้องเป็นประจำทุกเดือน เพื่อรักษาระดับสภาพคล่องของ ธ.ก.ส. ให้เป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด

ทั้งนี้ การสำรองเงินในการดำเนินโครงการรับจำนำผลิตผล ดังกล่าว มีมติ ครม. และมติคณะกรรมการธนาคารรองรับให้ดำเนินการได้

ธ.ก.ส. ยังระบุด้วยว่า ในส่วนของด้านภาพลักษณ์ ที่อาจได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการตามนโยบายรัฐ ผู้บริหาร ธ.ก.ส. ได้มีการสื่อสารไปยังสาธารณะและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ถึงฐานะการเงิน ความมั่นคง รวมทั้ง แหล่งเงินทุนที่นำมาใช้ในการดำเนินโครงการตามนโยบายรัฐว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานปกติของ ธ.ก.ส.ซึ่งจะช่วยให้เกิดการรับรู้ที่ถูกต้อง และไม่กระทบต่อภาพลักษณ์ ของ ธ.ก.ส."  

ธ.ก.ส. ยังระบุด้วยว่า การโอนเงินข้ามโครงการ ธ.ก.ส. ได้โอนเงินล่วงหน้าข้ามโครงการจากงบประมาณรายจ่ายปี 2556 เพื่อไปใช้ในโครงการรับจำนำผลิตผลิต ปี 54/55 จำนวน 3,302.05 ล้านบาท ประกอบด้วย การโอนเงินจากโครงการจำนำผลิตผล ปี 55/56 จำนวน 2,996.66 ล้านบาท และโครงการจำนำผลิตผล ปี 51 /52 จำนวน 305.39 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2557 นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อข่าวมวลชน ว่า า ตามที่มีเกษตรกรจำนวนมากออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2556/57 และรัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการ โดยมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้กระทรวงการคลังจัดหาเงินกู้เพิ่มเติมให้กับ ธ.ก.ส. อีก 130,000 ล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายเงินรับจำนำข้าวเปลือกที่เหลืออยู่ในขณะนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการส่งเรื่องหารือกับ กกต. ว่าสามารถดำเนินการได้หรือไม่นั้น ในระหว่างนี้ ธ.ก.ส. ขอเรียนชี้แจงแนวทางการดำเนินงานของ ธ.ก.ส. ว่า

1. ธ.ก.ส. มีเงินที่ได้รับชำระคืนจากกระทรวงพาณิชย์และเงินงบประมาณแผ่นดินที่ได้จัดสรรให้ ธ.ก.ส. ในปีงบประมาณ 2557 เพื่อนำไปใช้จ่ายในโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57 รวมทั้งสิ้น 54,950 ล้านบาท

2. ธ.ก.ส. ได้จ่ายเงินจำนำข้าวให้ชาวนาไปแล้ว ณ วันที่ 7 มกราคม 2557 จำนวน 245,944 ราย คิดเป็นข้าวเปลือกที่ส่งมอบ 2 ล้านตัน จำนวนเงิน 31,543 ล้านบาท

3. ในช่วงนี้ ธ.ก.ส. กำลังเร่งรัดการจ่ายเงินจำนำข้าวที่เหลืออีกประมาณ 23,407 ล้านบาท โดยคาดว่าจะช่วยชาวนาได้อีกกว่า 200,000 ราย คิดเป็นจำนวนข้าวเปลือกที่ส่งมอบ 1.5 ล้านตัน รวมทั้งขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ทยอยจัดส่งเงินที่ได้จากการระบายข้าวให้ ธ.ก.ส. เพิ่มเติม เพื่อนำมาจ่ายให้เกษตรกรได้เพิ่มขึ้นอีกจำนวนหนึ่งด้วย

4. ฝ่ายจัดการได้รายงานข้อมูลฐานะทางการเงินของ ธ.ก.ส. ให้หน่วยงานกำกับดูแล ประกอบด้วย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เป็นประจำ ซึ่งทุกหน่วยงานไม่ได้มีความกังวลกับฐานะทางการเงินของ ธ.ก.ส. แต่อย่างใด

โดยสรุป ธ.ก.ส. ใช้เงินชำระคืนจากกระทรวงพาณิชย์และเงินที่ได้รับการจัดสรรจากรัฐบาลนำมาหมุนเวียนจ่ายจำนำ โดย ธ.ก.ส. จะไม่นำเงินฝากของลูกค้ามาจ่ายจำนำ