- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- วาระแห่งชาติ แก้ปัญหายาเสพติด "งานเข็ญครกขึ้นภูเขา"ของรัฐบาล (มีคลิป)
วาระแห่งชาติ แก้ปัญหายาเสพติด "งานเข็ญครกขึ้นภูเขา"ของรัฐบาล (มีคลิป)
การแก้ปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลชุดนี้ โดยให้ความสำคัญเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่ง ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ศพส.) ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนหน้านี้ว่า การปราบปรามยาเสพติดต้องมีการบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อให้เห็นผลการปฏิบัติงานภายใน 1 ปี เป้าหมายสูงสุดคือการกวาดล้างยาเสพติดให้หมดไปจากประเทศ
นอกจาก ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง จะเป็นแม่ทัพทำสงครามครั้งใหม่กับยาเสพติด ยังได้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ผู้ได้ชื่อว่าเชี่ยวชาญงานด้านการปราบปรามยาเสพติดเป็นพิเศษ มาบัญชาการสูงสุดในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการสั่งการกำชับไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาลและสำนักงานตำรวจภูธรทั้ง 9 ภาค และจะมีการนำตำรวจตระเวณชายแดนมาร่วมด้วย
ยังมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร. ผู้มีบทบาทสำคัญในการในการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนใต้ โยกไปช่วยราชการในตำแหน่งรักษาการเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ( ป.ป.ส.) เมื่อรวมกับการขานรับนโยบายจากทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงยุติธรรม ฯ ก็ยิ่งทำให้ความหวังของประชาชนที่จะเห็นการแก้ปัญหายาเสพติดของรัฐบาลชุดนี้ลุล่วงไปมีมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม มีงานวิจัยของนักวิชาการเผยแพร่เรื่องการปราบปรามยาเสพติดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลทุกชุดไม่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงในการปราบปรามยาเสพติด และมีข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหายาเสพติดไว้อย่างน่าสนใจ
โดยเมื่อวันที่ 23 กันยายน ที่ผ่านมา ได้มีการเสวนาเชิงวิชาการเรื่อง “เสียงสะท้อนของผู้ประเมินต่อแนวนโยบายแห่งรัฐว่าด้วยการแก้ปัญหายาเสพติด” ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) วิทยาเขตหัวหมาก โดย ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และ ผศ.พ.ต.ท.เกษมศานต์ โชติชาครพันธ์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เป็นผู้ร่วมเสวนา
ผศ. นพดล กล่าวว่า จากการทำวิจัยเชิงสำรวจเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดมากว่า 10 ปีที่ผ่านมา พบว่าสังคมไทยยังไม่พ้นไปจากสถานการณ์ยาเสพติด ทุกครั้งที่มีการสำรวจความรู้สึกของประชาชน ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาระดับต้นๆของประเทศ บางครั้งสาธารณชนเห็นว่าปัญหาเป็นปัญหาอันดับ 1 ของประเทศ
“ หากพิจารณาในเชิงโครงสร้างของการแก้ปัญหายาเสพติดในภาพรวม น่าจะถือได้ว่าประเทศไทยมีความเป็นมาตรฐานสากลที่นำไปเปรียบเทียบกับนโยบายแห่งรัฐ ว่าด้วยการแก้ปัญหายาเสพติดของนานาประเทศ ซึ่งประเทศพัฒนาแล้วหรือประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจมี ประเทศไทยก็มี เช่นการประกาศสงครามกับยาเสพติด การบำบัดผู้เสพยาเสพติด การนำเทคโนโลยี่ที่ทันสมัยมาตรวจค้น จับกุมขบวนการยาเสพติดข้ามชาติ และการตอบสนองต่เอเสียงเรียกร้องของประชาชนให้กำหนด ให้มีนโยบายแก้ปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วนในทุกรัฐบาลที่ผ่านมา แต่ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา สังคมไทยยังไม่สามารถก้าวผ่านพ้นปัญหายาเสพติด “ ผศ.นพดล กล่าว
ผศ.นพดล ได้เสนอแนะในฐานะนักวิจัยสรุปได้ว่า ต้องเร่งระดมกวาดล้างอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ด้วยการปราบปรามนำหน้าในช่วงต้นและช่วงปลายของรัฐบาล มุ่งเน้นพื้นที่ระดับประเทศ ภูมิภาค จังหวัด ชุมชน หมู่บ้าน ลงมาถึงระดับครัวเรือน ในช่วงที่การปราบปรามได้ผล สามารถกดดันขบวนการค้ายาเสพติดได้ ควรเพิ่มความเข้มข้นอย่างมีปะสิทธิภาพในการป้องกันและบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด
ให้ความสำคัญกับความหลากหลายเชื้อชาติของคนในสังคมไทย เน้นให้การศึกษา โอกาสในการประกอบอาชีพสุจริต เพื่อให้คนทุกเชื้อชาติเป็นประชาชนที่มีคุณภาพ เปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา ได้เรียนรู้โครงการต่างๆที่สำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาชญากรรม
ใช้เครือข่ายทางสังคมหรือโซเชียลเน็ตเวิร์คลดปัญหายาเสพติดและอาชญากรรม ด้วยการเฝ้าติดตามระวังปัญหา ส่งข้อมูลผ่านการกลั่นกรองของเจ้าหน้าที่ของรัฐผ่านอีเมล์ ทวิตเตอร์ เฟซบุ้ค และข้อความ “สั่น”ไปยังโทรศัพท์มือถือของสมาชิกทุกคน เพื่อป้องปรามและสกัดกั้นการขยายตัวของยาเสพติด
ทำระบบฐานข้อมูลติดตามผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติดอย่างน้อย 5 ปี เพื่อให้แน่ใจว่าจะกลับคืนสู่สังคมและประกอบอาชีพได้อย่างสุจริต
ปฏิบัติการเชิงรุกด้วยการประกาศสงครามยาเสพติดอีกครั้ง การแจ้งเบาะแสขบวนการค้ายาเสพติดต้องฉับไว มีมาตรการคุ้มครองพยานที่มีประสิทธิภาพ
ให้มีหน่วยงานศึกษาวิจัยตัวยาเสพติดบางตัวที่นำมาเป็นพืชเศรษฐกิจ ให้ประชาชนใช้พืชนั้นได้อย่างถูกต้อง ไม่เป็นอันตราย และมีคณะกรรมการในรูปองค์กรอิสระตรวจสอบ ประเมินผลกระทบจากนโยบายและปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์เชิงสังคม การเมืองและเศรษฐกิจ
ขณะที่ ผศ.พ.ต.ท.ดร.เกษมศานต์ เสนอแนวทางเชิงยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหายาเสพติดว่า การใช้และการแพร่ระบาดของยาเสพติดเป็นการสะท้อนปัญหาสังคม เช่นปัญหาเศรษฐกิจ ความยากจน ความแตกแยกในครอบครัว ระบบสังคม ระบบการศึกษา ความอ่อนแอของชุมชน ฯ จึงต้องแก้ปัญหาเหล่านี้ไปในเวลาเดียวกัน
ในเรื่องของโครงสร้าง การบริหารจัดการและอำนวยการการปราบปรามยาเสพติดไม่ควรมีความซับซ้อน ควรให้ผู้ปฏิบัติเข้าใจง่าย
รัฐบาลต้องแสดงออกอย่างจริงจังในการแก้ปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงออกถึงเจตจำนงและภาวะผู้นำที่ชัดเจน
อาจจะต้องใช้กลไกหลักของแต่ละจังหวัดในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ร่วมกับกลไกของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในที่เข้ามาเสริม
เร่งประชาสัมพันธ์การแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาลให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานแก้ไขยาเสพติดของรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนตะหนักและตื่นตัวในปัญหา จนสามารถเป็นแรงผลักดันทางอ้อมให้ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่
เมื่อตัวนโยบายได้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติแล้ว ต้องเร่งถ่ายทอดและแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติต้องทำให้เป็นวาระแห่งชาติเช่นเดียวกัน ให้ความสำคัญกับชุมชนเข้มแข็งในการร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติด เช่นเดียวกับระบบการข่าวที่ต้องมีความทันสมัย ถูกต้องและบูรณาการเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลที่ถูกต้อง
ต้องใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด และปรับกฎหมายให้เป็นเครื่องมือในการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ มีความทันสมัย เ อื้อต่อการปฏิบัติงานโดยคำนึงถึงหลักนิติธรรม
ต้องจัดระบบงบประมาณ และทรัพยากรในการปฏิบัติงานให้เหมาะสม รวมถึงการสร้างกลไกในการจูงใจผู้ปฏิบัติงานด้านยาเสพติด และการจัดการอย่างเด็ดขาดกับเจ้าหน้าที่ที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
นอกจากนี้ ต้องพัฒนาสมรรถนะของผู้ปฏิบัติงานในด้านต่างๆให้มีความรู้ ความสามารถในการจัดการกับปัญหายาเสพติดในมิติต่างๆได้
จากผลการวิจัยและข้อเสนอของ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) และ ผศ.พ.ต.ท.เกษมศานต์ โชติชาครพันธ์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะรัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เห็นได้ว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สังคมไทยยังมีปัญหายาเสพติด ซึ่งแม้ทุกรัฐบาลได้ประกาศเป็นนโยบายแก้ไขปัญหาเป็นลำดับต้นๆ แต่ก็ยังไม่สำเร็จและดูเหมือนว่าจะเป็นปัญหาหนักกว่าเดิม ทั้งนี้จากรายงานของทางราชการว่าปัจจุบันมีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดถึง 1 ล้าน 3 แสนคน เพิ่มขึ้นจากปลายปี 2550 ซึ่งมีประมาณ 4 แสน 9 หมื่นคน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้เป็นประธานในพิธีเปิด “ปฏิบัติการวาระแห่งชาติ พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด” เมื่อวันที่ 11 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล ได้กล่าวในวันนั้นว่า รัฐบาลได้กำหนดเป้าหมาย ลดปัญหายาเสพติดและสร้างความเข้มแข็งให้กับ 6 หมื่นชุมชน ลดจำนวนผู้เสพและผู้ป่วย 4 แสนรายทั่วประเทศ โดยมีมาตรการเฝ้าระวังไม่ให้ผู้ป่วยกลับไปเสพยาเสพติดอีก ลดพื้นที่เสี่ยงและเฝ้าระวังทุกจังหวัด ลดปริมาณยาเสพติดตามจังหวัดชายแดน ปรับระบบการบริหารจัดการให้บูรณการเป็นเอกภาพ ซึ่งแนวทางในการปฏิบัติงานก็สอดคล้องกับผลการวิจัยและข้อเสนอแนะของดร.นพดล กรรณิกาและ ผศ.พ.ต.ท.เกษมศานต์ โชติชาครพันธ์
การปราบปรามยาเสพติดอย่างหนักรอบใหม่นี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวไว้ว่าจะยึดหลักนิติรัฐและนิติธรรม ไม่มีการ “ฆ่าตัดตอน” และยืนยันว่าตามที่มีการกล่าวกันว่า ในสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ผลการสอบสวนสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็ไม่มีการฆ่าตัดตอน ตรงกับที่คณะกรรมการสอบสวนที่ พล.ต.อ.จงรัก จุทานนท์ อดีตรอง ผบ.ตร.ตั้งขึ้นมา มีเรื่องเดียวที่ตำรวจเกี่ยวข้องคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน ยิงรถคนร้าย แล้วกระสุนไปโดนลูกคนร้ายในรถเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม ตามรายงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)เมื่อปี พ.ศ. 2551 ระบุว่า สถิติการฆาตกรรมของไทยพุ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 88 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ปี พ.ศ. 2546 ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศสงครามปราบปรามยาเสพติด โดยมีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้น 2,873 คดี ในจำนวนนั้นเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 1,370 คดี
จากการสำรวจของนักวิจัย แม้ว่าประชาชนต้องการให้มีการปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด แต่ก็ต้องถือว่าเป็นงานยากลำบากมากเอาการ แม้ว่าจะมีช่วงหนึ่งในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นช่วงที่ปัญหายาเสพติดลดลง แต่ก็มีการวิพากษณ์วิจารณ์ของประชาชนด้วยความสงสัยในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐเรื่องการ “ฆ่าตัดตอน” ซึ่งผิดกฎหมายและละเมิดสิทธิมนุษยชน และหลังจากนั้นมาจนปัจจุบันปัญหายาเสพติดก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นมาอีก
วาระแห่งชาติ แก้ปัญหายาเสพติดจึงเป็นงาน“เข็ญครกขึ้นภูเขา”ของรัฐบาลชุดนี้เหมือนกับทุกรัฐบาลที่ผ่านมา เพราะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทุกรัฐบาลก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ชม Clip Vedio
{youtubejw}VHgNIK9Uh8g{/youtubejw}