- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- มติบอร์ดเลิกจ้าง กก.ผอ.ใหญ่ อสมท ความขัดแย้ง “แดนสนธยา” ยังไม่จบ
มติบอร์ดเลิกจ้าง กก.ผอ.ใหญ่ อสมท ความขัดแย้ง “แดนสนธยา” ยังไม่จบ
หลังจากมีข่าวความขัดแย้งระหว่างบอร์ด อสมท กับนายธนวัฒน์ วันสม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ มาตั้งแต่กลางเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ในที่สุด คณะกรรมการบริษัท อสมท จำกัด(มหาชน) หรือบอร์ด อสมท ก็มีมติเลิกสัญญาจ้าง นายธนวัฒน์ ทั้งนี้จากการประชุมบอร์ด อสมท ครั้งที่ 14 /2554 อสมท วันที่ 13 ตุลาคม 2554 โดยได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ทราบแล้ว การมีมติเลิกสัญญาจ้างนายธนวัฒน์ ไม่ใช่เรื่องนอกเหนือความคาดหมายใดๆ เพียงแต่ว่าการเลิกสัญญาจ้างรวดเร็วไปกว่าที่คาดหมายแค่นั้น
ทั้งนี้ ในการประชุมบอร์ด อสมท วาระพิเศษ เมื่อวันที่ 28 กันยายน บอร์ดมีมติแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาจ้างบริหารงานใน ตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ของนายธนวัฒน์ โดยมีนายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ เป็นประธาน และนายนัที เปรมรัศมี และนายธีรภัทร สงวนกชกร เป็นคณะทำงาน นายธนะชัย วงศ์ทองศรี เป็นเลขานุการ กำหนดกรอบการทำงาน 15 วัน นับจากวันที่ 28 กันยายน 2554 คาดว่าจะมีการรายงานผลการตรวจสอบในการประชุมบอร์ดครั้งต่อไป วันที่ 20 ตุลาคม แต่ก็ได้มีการประชุมบอร์ วาระพิเศษ และมีมติให้เลิกจ้างนายธนวัฒน์ ดังกล่าว
ที่มาที่ไปของการเลิกสัญญาจ้าง
ก่อนที่บอร์ด อสมท จะมีมติเลิกสัญญาจ้างนายธนวัฒน์ มีเหตุการณ์ที่น่าสนใจ ซึ่งเกิดขึ้นใน อสมท เกี่ยวข้อง เชื่อมโยงมาถึงการมีมติบอร์ด ดังนี้
วันที่ 15 กันยายน มีการประชุมบอร์ด อสมท ที่ประชุมมีมติให้ดำเนินการแก้ไขโครงสร้างใหม่ของ อสมท โดยที่ประชุมเห็นชอบกับการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร
วันที่ 16 กันยายน ที่ประชุมบอร์ดมีมติแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหาร โดยมีการกำหนดแต่งตั้งผู้บริหารระดับ รอง กก.ผอ.ใหญ่ 6 อัตรา โดยเป็นรอง กก.ผอ.ใหญ่ 5 อัตรา และหัวหน้าเจ้าหน้าที่การเงิน 1 อัตรา ส่วนการแต่งตั้งรอง กก.ผอ.ใหญ่ อีก 2 อัตรา ให้ฝ่ายบริหาร อสมท. พิจารณาตามความจำเป็นและให้เสนอหลักเกณฑ์แนวทางการคัดเลือกหรือสรรหาให้บอร์ดพิจารณาโดยเร็ว
มติที่ประชุมบอร์ดยังให้ยุบตำแหน่ง ผช.กก.ผอ.ใหญ่ สายงานเทคโนโลยี่ และตำแหน่ง ผช.กก.ผอ.ใหญ่ สายการเงินและบริหารความเสี่ยง และให้ย้ายและแต่งตั้ง ผช.กก.ผอ.ใหญ่ สำนักผู้ตรวจการ เป็น ผช.กก.ผอ.ใหญ่ สำนักข่าวไทย และ ผช.กก.ผอ.ใหญ่ สายงานยุทธศาสตร์และบริหารความเสี่ยง เป็น ผช.กก.ผอ.ใหญ่ สำนักทรัพยากรมนุษย์ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม เป็นต้นไป
วันที่ 22 กันยายน นางสุนทรีย์ แก้วกรณ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ นายพลชัย วินิจฉัยกุล ผช.กก.ผอ.ใหญ่ สำนักกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ พร้อมพนักงาน อสมท บางส่วน ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับ ดูแล อสมท. มี 3 ประเด็นหลัก สืบเนื่องมาจากมติที่ประชุมบอร์ด คือ
1. ปัญหา การจัดทำโครงสร้างบริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน)
2. ปัญหาการเลื่อนและโยกย้ายแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง
3. ปัญหาเรื่องการ ปฏิบัติหน้าที่ของบอร์ด อสมท.
เนื้อหาในหนังสือร้องเรียนระบุว่า มติบอร์ดทำให้เกิดความเสียหายสรุปว่า การจัดทำโครงสร้างบริษัท อสมท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งบอร์ดมีมติปรับปรุงโครงสร้าง และให้มีผลบังคับในวันที่ 1 ตุลาคม นั้น เมื่อพิจารณาโครงสร้างดังกล่าวแล้ว พบว่าไม่ได้เป็นไปตามหลักการและเหตุผล โดยหลักการและแนวคิดในการจัดทำโครงสร้าง ไม่เป็นไปตามที่บริษัทที่ปรึกษา เอสอาร์ไอ คอนซัลแทนท์ ดำเนินการไว้
การเลื่อนตำแหน่ง และโยกย้าย แต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงตามมติบอร์ด โดยแต่งตั้ง รอง กก.ผอ.ใหญ่ 2 ราย ย้ายและแต่งตั้ง ผช.กก.ผอ.ใหญ่ 2 ราย ทั้งๆที่ไม่ได้ผ่านการคัดสรร ถือว่าไม่เป็นไปตามระเบียบ และไม่เป็นธรรมต่อผู้บริหารระดับอำนวยการฝ่ายอีกหลายคนที่มีคุณสมบัติเหมาะ สม
วันที่ 28 กันยายน นายสุรพล นิติไกรพจน์ ประธานบอร์ด อสมท. เรียกประชุมคณะกรรมการบอร์ดเป็นวาระพิเศษ บอร์ดมีมติแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาจ้างบริหารงานใน ตำแหน่งกก.ผอ.ใหญ่ ของนายธนวัฒน์ วันสม และมีมติให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวน นางสุนทรีย์ แก้วกรณ์ รอง กก.ผอ.ใหญ่ กับนายพลชัย วินิจฉัยกุล ผช.กก.ผอ.ใหญ่ ฐานไม่รักษาวินัยของบริษัท อสมท เป็นแกนนำ พาพนักงานไปร้องเรียนต่อ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
วันที่ 30 กันยายน น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหนังสือถึงนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมต.กระทรวงการคลัง ในฐานะกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมีเหตุผลว่า จากการรับเรื่องร้องเรียนจากฝ่ายบริหารและพนักงาน อสมท. พิจารณาแล้วเห็นว่าเรื่องร้องเรียนดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญ อาจมีผลกระทบโดยรวมกับนโยบายรัฐบาล และการบริหารงานของ อสมท. จึงขอให้กระทรวงการคลัง แจ้งไปยังนายสุรพล นิติไกรพจน์ ประธานบอร์ด อสมท สรุปว่า ให้ระงับการประกาศและการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขโครงสร้างใหม่ของ อสมท. ตามมติที่ประชุมบอร์ด เมื่อวันที่ 15 กันยายน และ 16 กันยายน จนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ และรายงานผลต่อรัฐมนตรีประจำสำนักนายก เมื่อเห็นชอบแล้วจึงดำเนินการต่อไปได้
และระงับการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารและพนักงาน ตามมติที่ประชุมบอร์ด วันที่ 16 กันยายน จนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ และรายงานต่อรัฐมนตรีประจำสำนักนายก เมื่อเห็นชอบแล้วให้ดำเนินการต่อไปได้ หากผลการสอบสวนไม่ปรากฎความ “ไม่เป็นธรรม” ให้พิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายมีผลย้อนหลังได้
วันเดียวกันนั้น นายธีระชัย ส่งหนังสือส่งให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร) และวันนั้นเอง นายสมชัย สัจจพงษ์ ผอ.สคร. ทำหนังสือถึงนายสุรพล นิติไกรพจน์ ประธานบอร์ด อสมท. อ้างถึงหนังสือของ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และมีข้อความต่อท้ายในหนังสือระบุว่า
สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.)โดยได้รับ มอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ใคร่ขอให้ท่านในฐานะประธานกรรมการ บมจ.อสมท ได้โปรดพิจารณาดำเนินการตามข้อเสนอของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีดัง กล่าวด้วย จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการต่อไป หากผลเป็นประการใด ขอโปรดแจ้งให้ สคร.ทราบในโอกาสแรกด้วย จักขอบคุณยิ่ง
ในหนังสือฉบับนี้ นายสุรพล นิติไกรพจน์ ประธานบอร์ด ลงนามทราบ และให้ทำหนังสือทบทวนการสั่งการของของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีประจำสำนักนายก สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร) อีกครั้งหนึ่ง เพื่อมิให้เป็นปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และให้สำเนาแจกให้คณะกรรมการบอร์ดทราบ
วันที่ 13 ตุลาคม มติที่ประชุมบอร์ด อสมท “ด้วย คณะกรรมการ บริษัท อสมท ในคราวประชุมครั้งที่ 14/2554 วันที่ 13 ตุลาคม 2554 มีมติให้บอกเลิกสัญญาจ้างบริหารในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่กับนายธนวัฒ น์ วันสม ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2554 โดยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2554 เป็นต้นไป”
นายสุรพล นิติไกรพจน์ ประธานบอร์ด อสมท แถลงกับสื่อมวลชนว่า คณะกรรมการ บริษัท อสมท มีมติให้เลิกจ้างนายธนวัฒน์ วันสม กก.ผอ.ใหญ่ อสมท เนื่องจากเห็นว่า ไม่ควรปฏิบัติหน้าที่ต่อไปซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขสัญญาจ้างนายธนวัฒน์ แต่เนื่องจากการเลิกจ้างดังกล่าวมิได้มีสาเหตุมาจากที่นายธนวัฒน์ไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญา จึงให้จ่ายค่าชดเชยให้นายธนวัฒน์ 6 เดือน เป็นเงิน 2 ล้านกว่าบาท ที่ประชุมบอร์ดมีมติให้หยุดการปฎิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา 13 นาฬิกา เป็นต้นไป โดยแต่งตั้งให้นายสุระ เกนทะนะศิล รอง กก.ผอ.ใหญ่ ปฏิบัติหน้าที่แทน
เหตุผลการเลิกจ้าง
ประธานบอร์ด อสมท แถลงว่า ประเด็นที่นำมาสู่มติเลิกสัญญาจ้าง มี 5 ประเด็นหลักคือ 1.ปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า 2. การไม่ปฏิบัติตามมติบอร์ดที่มอบหมาย 3.บกพร่องงานบริหารบุคคล 4 .ขัดต่อระเบียบและข้อบังคับ 5. ปฏิบัติหน้าที่ไม่สอดคล้องต่อหลักธรรมาภิบาล และยังมีเหตุผลอีก 19 ประเด็น แต่จะตรวจสอบเพียง 10 ประเด็น
ก่อนหน้านี้ นายสุรพล กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา ถึงเหตุผลของการแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาจ้างฯ เนื่องจากบอร์ด อสมท มีข้อสงสัยเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของนายธนวัฒน์ หลายประเด็นใน ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ทั้งการทำงานล่าช้าหรือไม่ ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่คณะกรรมการบอร์ดมอบหมายภารกิจ รวมทั้งมีการปฏิบัติหน้าที่บกพร่องในการบริหารงานบุคคล จนก่อให้เกิดความแตกแยกภายในองค์กรหรือไม่
“ประเด็นสำคัญที่ทำให้บอร์ดมีมติแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบสัญญาฯ จากข้อสงสัยในประเด็นที่มอบหมายให้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทำหน้าที่ชี้แจงการปรับโครงสร้างองค์กรให้กับพนักงานได้รับทราบเป็นระยะ พร้อมให้สะท้อนความคิดเห็นจากพนักงานมายังบอร์ด แต่เหตุการณ์ที่พนักงานได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนการทำงาน ของคณะกรรมการปรับโครงสร้าง ต่อรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และหลังจากบอร์ดได้มารับฟังความคิดเห็นจากสหภาพ อสมท จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่า กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ได้ทำหน้าที่ตามที่บอร์ดมอบหมายหรือไม่”
นอกจากนี้ยังประเด็นอื่นๆ อีกเช่น คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดี ( ซีจี) ได้ขอให้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ชี้แจงการใช้งบประมาณด้านซีเอสอาร์ ของหน่วยงานต่างๆ ผ่านสื่อ อสมท ที่มีมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทต่อปี แต่ไม่ได้รับการชี้แจงจาก กก.ผอ.ใหญ่ เป็นต้น
“ ปัญหาที่คณะกรรมการ อสมท. แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบ มีประเด็นหนึ่งที่อาจเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มหาศาลคือ คณะกรรมการกำกับดูแลกิจการที่ดี (ซีจี) ได้ขอให้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ชี้แจงการใช้งบประมาณด้านการทำกิจกรรมที่รับผิดชอบต่อสังคม(ซีเอสอาร์ )ของหน่วยงานต่างๆ ผ่านสื่อ อสมท. มูลค่าหลายร้อยล้านบาทต่อปี แต่ไม่ได้รับการชี้แจงจากกรรมการผู้อำนวยการใหญ่” นายสุรพล กล่าวก่อนหน้านี้ ( คัดมาจาก ศึกใหญ่ “แดนสนธยา” บอร์ด-กก.ผอ.ใหญ่ ประดาบก็เลือดเดือด เรื่องเด่น สำนักข่าวอิศรา )
กก.ผอ.ใหญ่ อสมท แถลงข่าวก่อนถูกปลด
ก่อนที่จะมีการประชุมบอร์ด อสมท ช่วงเช้า นายธนวัฒน์ วันสม กก.ผอ.ใหญ่ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ที่ อสมท ว่า ได้รับการตั้งข้อหาอย่างไม่เป็นธรรม เนื่องจากบอร์ดมี “ธง”จะปลดตัวเองออกจากตำแหน่งอยู่แล้ว โดยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
“ ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี ที่ทำหน้าที่บริหาร ได้ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ได้ทุ่มเทต่อการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง ได้รับรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นเป็นครั้งแรก ตั้งแต่มีการประเมินผลรัฐวิสาหกิจโดยกระทรวงการคลัง และมีรายได้อย่างก้าวกระโดด ปีแรกที่เข้ามาบริหารงาน รายได้ทะลุ 5 พันล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ อสมท เฉพาะในครึ่งปีแรกของปี 2554 กำไรถึง 30 เปอร์เซนต์”
“ ประเด็นเรื่องการทุจริตในโครงการซีเอสอาร์เป็นหลักร้อยล้านบาท ซึ่งไม่เป็นความจริง เป็นการตั้งธงไว้ก่อนหรือเปล่าเพื่อหาความผิดและความชอบธรรมในการปลดผมออกจากตำแหน่ง มีเพียง 20 กว่าล้านบาทต่อปีเท่านั้น สามารถตรวจสอบได้ มีรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่และคณะทำงานรับผิดชอบดูแล”
“ตามสัญญาจ้างของผม ต้องปฎิบัติตามมติบอร์ด แต่มติบอร์ดนั้นต้องเป็นธรรม ต้องถูกต้อง วันนี้ ผมเลือกที่จะยืนอยู่ในส่วนของพนักงาน อสมท ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวผมเอง เพราะที่นี่เป็นองค์กรสื่อ เรามีหน้าที่ที่จะต้องให้ข่าวสารอย่างเป็นกลาง ระบบบริหารภายในเราก็มีกระบวนการ มีขั้นตอน ยืนยันได้ถึงความโปร่งใสและเป็นธรรม แต่ถ้ากระบวนการเหล่านี้ถูกแทรกแซงจากกรรมการบางท่าน ผมเองก็ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในการรักษาผลประโยชน์ของพนักงาน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตัวผมเอง” นายธนวัฒน์ กก.ผอ.ใหญ่ อสมท แถลงต่อสื่อมวลชน
ก่อนหน้านี้ นายธนวัฒน์ ได้แจ้งกับสื่อมวลชนว่าจะเปิดแถลงข่าว เรื่องที่ถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม จากประธานบอร์ดและกรรมการบางคน โดยจะระบุถึงการใช้อำนาจเกินขอบเขตของบอร์ด อสมท โดยกล่าวว่า การเข้ามาล้วงลูกการแต่งตั้งผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ที่ดูแลด้านข่าวของสำนักข่าวไทย ซึ่งนายสุรพล ประธานบอร์ด เป็นผู้ระบุตัวบุคคลเองว่า ต้องการให้ผู้บริหารคนหนึ่งมาดำรงตำแหน่ง ทั้งที่ผู้บริหารคนนี้เคยมีเรื่องร้องเรียนถึงความไม่เป็นธรรม การใช้อคติกลั่นแกล้งผู้สื่อข่าวหลายคน และไม่ให้ความร่วมมือกับฝ่ายต่างๆ จนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่เคยเสนอย้ายไปสังกัดสำนักผู้ตรวจราชการ และบอร์ดชุดเดียวกันนี้เคยเห็นชอบให้ย้าย
ปชป.เตรียมยื่นถอดถอน 2 รมต.
นอกจาก ความขัดแย้งภายใน อสมท ระหว่างบอร์ด อสมท กับกก.ผอ.ใหญ่ แล้ว เหตุการณ์ใน อสมท ยังบานปลายออกไปนอกองค์กร คือการที่ น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมต.ว่าการกระทรวงการคลัง มีหนังสือผ่านไปยัง สคร.ให้นายสุรพล นิติไกรพจน์ ประธานบอร์ด อสมท ให้ระงับการประกาศและการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขโครงสร้างใหม่ของ อสมท
ให้ระงับการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารและพนักงาน จนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ และรายงานต่อ รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อเห็นชอบแล้วให้ดำเนินการต่อไปได้ นั้น ได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาถึงขั้นจะมีการถอดถอนสองรัฐมนตรี
โดย นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ “ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เงา ” แถลงผลการประชุม ครม.เงา ก่อนหน้าบอร์ด อสมท มีมติเลิกสัญญาจ้างนายธนวัฒน์ เพียงวันเดียวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องรัฐมนตรีทั้งสองคนส่งหนังสือไปถึงประธานบอร์ด อสมท เป็นแทรกแซงการทำงานของบอร์ด อสมท ซึ่งปัจจุบันกระทรวงการคลังไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อสมท แล้ว หลังจากได้ขายหุ้นให้ประชาชนไปเมื่อปี 2547
และเห็นว่า รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรมต.กระทรวงการคลังได้กระทำความผิดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 48, 266,288 เห็นควรที่จะต้องดำเนินการถอดถอนตามมาตรา 270 แห่งรัฐธรรมนูญ โดยได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ยกร่างหนังสือถอดถอน เสนอต่อที่ประชุม ส.ส.เพื่อลงชื่อ 125 รายชื่อ ในวันที่ 18 ตุลาคม นี้ เพื่อยื่นถอดถอนต่อประธานวุฒิสภา ทั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตุว่า การเดินหนังสือของ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปยัง รมต.คลัง และไปยัง สคร.ใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แม้บอร์ดจะมีมติเลิกจ้างนายธนวัฒน์ วันสม กก.ผอ.ใหญ่ อสมท แล้ว แต่ปัญหาความขัดแย้งก็ยังไม่จบสิ้น อย่างน้อยก็ 2 เรื่อง คือเรื่อง “อำนาจ”ของ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับ ดูแล อสมท มีมากน้อยแค่ไหน การสั่งการโดยชอบจากเหตุผลที่ “พนักงาน อสมท ร้องเรียน ” เป็นการแทรกแซงหรือไม่ กระทรวงการคลังยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)อยู่หรือเปล่า ประเด็นนี้นำไปสู่การจะยื่นถอดถอนรัฐมนตรีทั้งสองคน
อีกเรื่องหนึ่งคือ การร้องเรียนของพนักงาน อสมท ถึง รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี มีประเด็น “ความไม่เป็นธรรม”ของพนักงานอยู่ด้วย ถ้า รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่มีอำนาจรับเรื่องและตรวจสอบเรื่องร้องเรียน ใครหรือหน่วยงานใดจะมีอำนาจดำเนินการเรื่องดังกล่าว เรื่องหลังนี้เป็นคำถามจากพนักงาน อสมท บางคน ผ่านสำนักข่าวอิศรา
ในขณะที่ นายธนวัฒน์ วันสม เตรียมฟ้องศาลปกครองเรื่องบอร์ดมีมติเลิกสัญญาจ้างอย่างไม่เป็นธรรม
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ภาพบน นายธนวัฒน์ วันสม กก.ผอ.ใหญ่ อสมท แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
ภาพกลาง ศาสตราจารย์ สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานบอร์ด อสมท
ภาพล่าง นายธนวัฒน์ วันสม กก.ผอ.ใหญ่ อสมท