- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- 8 ธันวา ชี้ชะตา “โจนาธาน ดูดี้” ปิดฉากคดี “แพะ”ฆ่า “พระ”
8 ธันวา ชี้ชะตา “โจนาธาน ดูดี้” ปิดฉากคดี “แพะ”ฆ่า “พระ”
วันที่ 8 ธันวาคม 2554 จะมีการไต่สวนคดี โจนาธาน ดูดี้ อายุ 37 ปี นักโทษคดีสังหารหมู่พระสงฆ์และฆราวาส 9 ศพ เหตุเกิดที่วัดพรหมคุณาราม เมืองวัดเดล เมื่อปี 2534 โดยอัยการรัฐอริโซน่า สหรัฐอเมริกา ตัดสินใจนำคดีขึ้นสู่ศาลอีกครั้ง หลังจากเมื่อไม่นานมานี้ ศาลอุทธรณ์ที่ 9 ได้กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่พิพากษาว่า โจนาธาน ดูดี้ ซึ่งถูกจองจำในเรือจำมานานถึง 20 ปีแล้ว เป็นคนร้ายยิงทุกคนในวัดพรหมคุณาราม ตัดสินให้จำคุก 281 ปี ว่าเขาถูกตำรวจอริโซน่าจับกุมตัวไปสอบสวนโดยมิชอบ มีการหลอกล่อ บังคับ ข่มขู่ ด้วยวิธีการสารพัด จนโจนาธาน ดูดี้ ซึ่งเวลานั้นเป็นนักเรียนมัธยมอายุแค่ 17 ปีให้การรับสารภาพ โดยศาลสูงสหรัฐไม่พิจารณาคำร้องของอัยการอริโซน่า ที่ต้องการให้ศาลสูงกลับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ที่ 9 ทำให้อัยการรัฐอริโซน่ามีทางเลือก 2 ทางคือ นำคดีนี้ขึ้นมาพิจารณาใหม่ โดยห้ามใช้คำรับสารภาพของโจนาธาน ดูดี้ เป็นหลักฐานมัดตัวเอง เพราะเป็นคำรับสารภาพที่เชื่อถือไม่ได้ หรือยุติคดี ปล่อยตัวออกจากเรือนจำในฐานะผู้บริสุทธิ์
รายงานล่าสุดจากรัฐอริโซน่า อัยการรัฐอริโซน่าได้ตัดสินใจนำคดีนี้ขึ้นมาพิจารณาใหม่ โดยกำหนดวันเริ่มพิจารณาดคีนี้วันที่ 8 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ การพิจารณาคดีครั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานเหมือนเมื่อ 20 ปีที่แล้ว และเป็นได้มากว่าศาลอาจจะให้ประกันคัว โจนาธาน ดูดี้ หรือปล่อยตัวปล่อยตัวเป็นอิสระ. พ้นมลทิน ไปในวันนั้นเลย
นพ.ดร.มโน เลาหวณิช อาจารย์ประจำสถาบันปรีดี พนมยงศ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือในอดีตคือ พระมโน เมตตานันโท หัวหน้าคณะสงฆ์วัดพุทธเมย์วู้ด แคลิฟอร์เนีย ผู้รณรงค์ต่อสู้เพื่อให้โจนาธาน ดูดี้ ได้รับอิสรภาพ เพราะเชื่อว่าเขาตกเป็น “แพะ”ในคดีนี้ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากทนายความของโจนาธาน ดูดี้ ว่า ขณะนี้ โจนาธาน ดูดี้ ได้ย้ายออกจากเรือนจำฟลอเรนซ์ ซึ่งเป็นเรือนจำใช้คุมขังนักโทษคดีอุกฉกรรจ์ ไปอยู่ที่เรือนจำคดีทั่วไปชื่อเรือนจำมาริโคป้า เค้าน์ตี้ โดยการที่อัยการนำคดีนี้พิจารณาใหม่ คงต้องการ “ซื้อเวลา” เลื่อนการปล่อยตัวโจนาธาน ดูดี้ ออกไป เนื่องจากหากปล่อยตัวเขาไปอย่างไม่มีเงื่อนไข ก็เท่ากับว่ายอมรับว่าการดำเนินคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานอัยการรัฐอริโซน่ามีความผิดพลาด
“ คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าโจนาธาน ดูดี้ เป็นคนร้ายฆ่าพระสงฆ์ 6 รูป สามเณร แม่ชีและเด็กวัดรวม 9 ศพ แต่การสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ ศาสตราจารย์อลัน เดอโชวิทช์ และทีมทนายความ แสดงหลักฐานต่างๆจนศาลอุทธรณ์ที่ 9 เห็นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐอริโซน่า ได้จับกุมโจนาธาน ดูดี้ ไปสอบสวนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญ ไม่มีการแจ้งสิทธิของผู้ต้องหาที่เรียกว่า มิแรนด้า ไรท์ สอบสวนด้วยวิธีการหลอกล่อ ข่มขู่ ด้วยวิธีการต่างๆนานเกือบ 13 ชั่วโมง ทำให้โจนาธานทนแรงกดดันไม่ได้ต้องรับสารภาพว่าอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ไม่ได้ลงมือฆ่าใคร นอกจากนี้ก็มีเพียงคำซัดเพื่อนของเพื่อนชื่ออเล็กซ์ กราเซีย ผู้ต้องหาร่วมกันว่าโจนาธานเป็นคนลงมือลั่นไกยิงทุกคน ซึ่งแม้แต่ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นและลูกขุนเองก็ไม่มั่นใจว่าใครเป็นคนลงมือฆ่า จึงไม่ตัดสินประหารชีวิต เปิดโอกาสให้มีการอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิจารณาอย่างละเอียด เห็นว่าคดีนี้มีความผิดพลาด ผิดปกติมาตั้งแต่ขั้นตอนการจับกุมตัวแล้ว” นพ.ดร. มโน กล่าว
คดีสังหารหมู่พระสงฆ์และฆราวาสไทย 9 ศพ ที่วัดพรหมคุณาราม รัฐอริโซน่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2534 มีผู้พบศพทุกคนในวัดพรหมคุณารามเสียชีวิตในห้องรับแขก สภาพศพนอนคว่ำหน้า หันศีรษะเข้าหากันในลักษณะครึ่งวงกลม แต่ละศพก่อนถุกยิงเข้าที่ศีรษะเสียชีวิตด้วยกระสุนปืนยาว . 22 มือทั้งสองข้างประสานกันที่ท้ายทอย เหมือนไม่มีการต่อสู้ขัดขืน ไม่พบลายนิ้วมือของคนร้ายในที่เกิดเหตุเพราะคนร้ายสวมถุงมือยาง แต่การดำเนินคดีในศาลชั้นต้น อัยการระบุว่ามีคนร้ายเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น ทั้งๆรูปการณ์แล้วคนร้ายต้องมีมากกว่า 2 คน จึงจะลงมือบังคับคนในวัดที่เกือบทั้งหมดอยู่ในวัยฉกรรจ์ได้ ส่วนทรัพย์สินที่หายไปเป็นกล้องถ่ายภาพและของอื่นๆ มูลค่ารวมแล้วไม่เกิน 3 พันดอลล่าร์เท่านั้น และคนร้ายไม่ได้แตะต้องเงินดอลล่าร์ติดต้นผ้าไปในวัดและทรัพย์สินอื่นแต่อย่างใด
ก่อนจะมีการจับกุมโจนาธาน ดูดี้ กับ อเล็กซ์ กราเซีย เพื่อนร่วมโรงเรียนมัธยมเป็นผู้ต้องหา ตำรวจอริโซน่าได้จับกุมชายวัยรุ่น 4 คนจากเมืองทูซอนมาสอบสวน ทุกคนให้การรับสารภาพว่าเป็นคนร้าย ทำให้ญาติพี่น้องและเพื่อนๆพากันเดินขบวนประท้วง เพราะมีพยานหลักฐานว่าแต่ละคนอยู่ที่เมืองทูซอนขณะเกิดเหตุฆาตกรรม ต่อมาผู้ต้องหาชุดนี้ได้รับการปล่อยตัว และแฉว่าตำรวจนำตัวไปสอบสวนอย่างหนักด้วยวิธีการต่างๆจนเกิดความกลัว ทำให้ต้องรับสารภาพเอาตัวรอดไปก่อน ตำรวจชุดเดียวกันนี้เป็นชุดที่จับกุมโจนาธาน ดูดี้ ไปสอบสวนด้วยวิธีการเดียวกัน
นพ.ดร.มโน กล่าวว่า แม้อัยการรัฐอริโซน่าจะเปิดการพิจารณาดคีนี้ขึ้นมาอีก แต่เชื่อว่าอัยการคงไม่มีพยานหลักฐานใดๆมัดตัวโจนาธาน ดูดี้ เนื่องจากในการพิจารณาคดีเมื่อ 20 ปีก่อน ก็ไม่มีหลักฐานใดๆที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมโยงมาถึงตัวเขา มีเพียงคำรับสารภาพที่ตำรวจได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย กับการซัดทอดของอเล็กซ์ กราเซีย ผู้ต้องหาคดีเดียวกัน ซึ่งยอมรับสารภาพเพื่อแลกเปลี่ยนกับการไม่ต้องรับโทษประหารชีวิตในคดีนี้และคดีฆาตกรรมรายอื่น ส่วนโจนาธาน ดูดี้ ไม่มีประวัติการเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทุกประเภทมาก่อน
“ ปืนของกลางกระบอกที่ใช้ก่อเหตุเมื่อ 20 ปีก่อน ปัจจุบันมีวิธีการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ตรวจสอบแล้วพบว่า การพิสูจน์หลักฐานแล้วระบุว่าเป็นปืนที่ใช้ฆาตกรรมเชื่อถือไม่ได้ คือไม่ใช่ปืนกระบอกที่ยิงในวันเกิดเหตุ ทั้งยังไม่พบหลักฐานใดๆที่เกี่ยวข้องกับโจนาธาน ดูดี้ ของกลางเป็นกล้องถ่ายรูปที่อ้างว่าเป็นของวัดพรหมคุณารามก็ยึดมาได้จากบุคคลอื่น ไม่ได้ยึดมาจากตัวโจนาธาน ดูดี้ สรุปคือเขาไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ตกเป็นแพะฆ่าพระ ติดคุกนานถึง 20 ปี”
นพ.ดร.มโน กล่าวด้วยว่า การพิจารณาคดีใหม่ของอัยการรัฐอริโซน่า ทีมทนายชุดเดิมที่ต่อสู้จนศาลกลับคำพิพากษาจะไม่ได้ว่าความในคดีนี้ เพราะถือว่าการทำงานได้เสร็จสิ้นแล้ว แต่ได้ติดต่อประสานงานกับ มาเรีย แชฟฟเอร์ ทนายความหญิงคนใหม่ซึ่งเป็นทนายความอาสา ในกลุ่มทนายความนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน เชื่อว่าโจนาธาน ดูดี้ จะชนะคดีและได้รับการปล่อยตัวอย่างแน่นอน
“ แม้ว่าทนายความจะเป็นคนใหม่ก็มั่นใจว่าจะชนะคดีแน่นอน การต่อสู้ที่ยากที่สุดคือในชั้นอุทธรณ์และศาลสูงได้ผ่านไปแล้ว การพิจารณาคดีใหม่ถ้ามีหลักฐานว่าโจนาธาน ดูดี้ เกี่ยวข้องหรือเป็นคนร้ายจริง ก็คงใช้ในการดำเนินคดีเมื่อ 20 ปีก่อนโน้นแล้ว ถึงวันนี้จะไปหาพยานบุคคล พยานวัตถุได้ที่ไหน ผู้เกี่ยวข้องกับคดีทั้งตำรวจและอัยการเกษียณไปแล้วก็มี เสียชีวิตไปแล้วก็หลายคน สรุปได้เลยว่าคดีนี้คือการวางแผนจับกุมโจนาธาน ดูดี้ เป็นแพะ นั่นเอง วันที่ 8 ธันวาคม นี้ มีแนวโน้มว่าศาลจะพิจารณาให้ประกันตัวโจนาธาน ดูดี้ ชั่วคราว หรืออาจสั่งปล่อยตัวเป็นอิสระ เป็นการปล่อยตัวแบบพ้นมลทินเลยก็ได้” นพ.ดร.มโน กล่าว