- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- เจาะลึกผลการเรียน กศน.นครปฐม!สตง.ชี้ยกระดับการศึกษาปชช.ไม่สำเร็จ
เจาะลึกผลการเรียน กศน.นครปฐม!สตง.ชี้ยกระดับการศึกษาปชช.ไม่สำเร็จ
"... ผลการเรียน ณ ปัจจุบัน ของผู้สมัครเรียนทุกระดับชั้นตั้งแต่ภาคเรียนที่1/2553 ถึงภาคเรียนที่ 2/2554 รวมจำนวน 14,698 คน มีผู้จบการศึกษาตามเกณฑ์ และล่าช้ากว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้รวมจำนวน 5,844 คน คิดเป็นร้อยละ 39.76 ของจำนวนผู้สมัครเรียนทั้งหมดมีผู้เรียนที่ยังไม่จบการศึกษารวมจำนวน 8,854 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 60.24 ของจำนวนผู้สมัครเรียนทั้งหมด โดยผู้สมัครเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจบการศึกษาน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับระดับการศึกษาอื่นๆ..."
การบริหารงบประมาณ ของ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) จังหวัดนครปฐม ถูก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบว่ามีปัญหาหลายประการ อาทิ การจัดทำทะเบียนคุมเงินงบประมาณ และทะเบียนคุมหลักฐานการเบิกจ่ายงบประมาณไม่ถูกต้องและไม่ครบถ้วน, มีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณไม่เป็นไปตามระเบียบหรือหนังสือสั่งการที่กำหนดไว้และมีการเบิกจ่ายในรายการที่ไม่มีระเบียบกำหนดให้เบิกจ่ายได้
(อ่านประกอบ : เมื่อสตง.ชำแหละงบกศน.นครปฐมซื้อพวงรีดจัดอบรมอุตลุด-เบิกค่าวิทยากรชม.ละพัน)
การดำเนินงานจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญ ที่สตง. ตรวจสอบพบ โดยมีการระบุข้อมูลไว้ในในรายงานการตรวจสอบการดำเนินงานการบริหารจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ของ กศน.จ.นครปฐม ฉบับเต็มดังนี้
การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย มีกิจกรรมหลักที่ต้องดำเนินการได้แก่
1) การจัดการศึกษานอกระบบขั้นพื้นฐาน เป็นการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรการศึกษา
นอกระบบขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2555) โดยมีการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับ
ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย และระดับ ปวช.ซึ่งจะเป็นการยกระดับการศึกษาให้กับประชาชน
2) การจัดการศึกษาต่อเนื่องเป็นการจัดการศึกษาที่เป็นหลักสูตรเฉพาะ หรือหลักสูตร
ระยะสั้น ตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอาชีพ ทักษะชีวิต สังคมและชุมชน
และการจัดกระบวนการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นการจัดการศึกษาเพื่อให้ผู้เรียนเกิดทักษะความรู้ในการดำรงชีวิต การประกอบอาชีพและการพัฒนาตนเอง
และ 3) การจัดการศึกษาตามอัธยาศัย เป็นกิจกรรมที่จัดไว้บริการแก่ผู้สนใจและต้องการศึกษาค้นคว้าความรู้ ข่าวสาร ข้อมูลที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ตลอดจนความรู้ที่เป็นภูมิปัญญาต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันโดยจัดให้มีห้องสมุดประชาชน และโครงการบ้านหนังสืออัจฉริยะ
จากการตรวจสอบการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของ กศน.จังหวัด
นครปฐม ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554 – 2556 พบว่า การดำเนินการจัดการศึกษานอกระบบและ
การศึกษาตามอัธยาศัยเป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ พิจารณาได้จากการจัดการศึกษานอกระบบ
ขั้นพื้นฐานมีจำนวนผู้จบการศึกษาน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนผู้สมัครเข้าเรียน การจัดการศึกษาต่อเนื่องในกิจกรรมส่งเสริมอาชีพยังไม่สามารถสร้างอาชีพให้กับประชาชนได้ และการจัดการศึกษา
ตามอัธยาศัย ในกิจกรรมบ้านหนังสืออัจฉริยะไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ รายละเอียดดังนี้
1. การจัดการศึกษานอกระบบขั้นพื้นฐาน มีจำนวนผู้จบการศึกษาน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนผู้สมัครเรียน โดย กศน.จังหวัดนครปฐม ได้รับจัดสรรงบประมาณสำหรับใช้ในการดำเนินการจัดการศึกษานอกระบบขั้นพื้นฐาน ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554 – 2556 รวมเป็นเงิน 78.12 ล้านบาท
จากการตรวจสอบพบว่า ผลการเรียน ณ ปัจจุบัน ของผู้สมัครเรียนทุกระดับชั้นตั้งแต่ภาคเรียนที่1/2553 ถึงภาคเรียนที่ 2/2554 รวมจำนวน 14,698 คน มีผู้จบการศึกษาตามเกณฑ์ และล่าช้ากว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้รวมจำนวน 5,844 คน คิดเป็นร้อยละ 39.76 ของจำนวนผู้สมัครเรียนทั้งหมดมีผู้เรียนที่ยังไม่จบการศึกษารวมจำนวน 8,854 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 60.24 ของจำนวนผู้สมัครเรียนทั้งหมด โดยผู้สมัครเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจบการศึกษาน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับระดับการศึกษาอื่นๆ
นอกจากนี้ยังพบว่า ผลการทดสอบการศึกษาระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบแต่ละระดับชั้นตั้งแต่ปีการศึกษา 2555 – 2556 มีผู้เข้าสอบรวมทั้งหมดจำนวน 7,167 คน มีผู้สอบผ่านเกณฑ์รวมจำนวน 3,006 คน คิดเป็นร้อยละ 41.93 ของจำนวน ผู้เข้าสอบทั้งหมด
เมื่อพิจารณาผลการทดสอบแต่ละภาคเรียนและแต่ละระดับชั้นจะเห็นว่า มีเพียง ภาคเรียนที่ 2/2555 เท่านั้นที่มีจำนวนผู้สอบผ่านเกณฑ์มากกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนผู้เข้าสอบทั้งหมด สำหรับในปีการศึกษา 2556 ทั้งสองภาคเรียนมีผู้สอบผ่านเกณฑ์ไม่ถึงร้อยละ 50 ของจำนวนผู้เข้าสอบทั้งหมดและผลการทดสอบของนักศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย มีร้อยละของผู้สอบผ่านเกณฑ์อยู่ในระดับต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับผลการทดสอบของระดับประถม และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โดยมีผู้เข้าสอบรวมจำนวน 4,204 คน มีผู้ผ่านเกณฑ์จำนวน 1,354 คน คิดเป็นร้อยละ 32.21 ของจำนวนผู้เข้าสอบทั้งหมด
จากสถิติจำนวนผู้จบการศึกษาและผลการทดสอบการศึกษาระดับชาติด้านการศึกษานอกระบบดังกล่าวข้างต้น แสดงให้เห็นว่าการจัดการศึกษานอกระบบขั้นพื้นฐานของ กศน.จังหวัดนครปฐม ยังไม่ประสบผลสำเร็จในการยกระดับการศึกษาของประชาชน
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ยังมีปัญหาในการดำเนินการจัดการเรียนการสอนหลายประการ โดยเฉพาะในเรื่องความพร้อมของ กศน.ตำบล ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดการเรียนการสอนบางแห่งมีสภาพไม่เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอน ครู กศน. ตำบล ส่วนมากไม่ได้จบการศึกษาทางด้านวิชาการศึกษา หรือวิชาชีพครู ขาดความรู้ความสามารถในการสอนในรายวิชาหลัก และมีนักศึกษาที่เข้าเรียนจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนนักศึกษาที่สมัครเรียน
2. การจัดการศึกษาต่อเนื่องในกิจกรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ โดย กศน.จังหวัดนครปฐมได้รับจัดสรรงบประมาณเพื่อใช้ในการจัดกิจกรรมฝึกอาชีพ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554 – 2556 รวมเป็นเงิน 26.13 ล้านบาท ซึ่งจัดสรรให้กับ กศน.อำเภอจำนวน 25.22 ล้านบาท
จากการตรวจสอบผลการดำเนินการจัดกิจกรรมฝึกอาชีพให้กับประชาชนตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554 – 2556 พบว่ามีการนำงบประมาณไปใช้จ่ายไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ โดยนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดอบรมอาชีพให้กับประชาชนรวมเป็นเงิน 6.54 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 25.93 ของจำนวนงบประมาณที่จัดสรร โดยมีการนำเงินดังกล่าวไปใช้จ่าย ในการจัดซื้อวัสดุสำนักงาน เช่น หมึกพิมพ์ กระดาษ โต๊ะ เก้าอี้สำนักงาน เป็นต้น การดำเนินการยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์ในการสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้กับผู้เรียนตามที่กำหนดไว้ โดยผู้เข้ารับการอบรมส่วนใหญ่ไม่ได้นำความรู้ที่ได้รับไปประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ มีการจัดอบรมให้กับประชาชนเฉพาะกลุ่มไม่เป็นการสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง มีการจัดอบรมอาชีพที่ไม่สามารถนำไปประกอบอาชีพได้ และระยะเวลาการอบรมบางหลักสูตรไม่สอดคล้องกับการปฏิบัติจริง
3. การจัดการศึกษาตามอัธยาศัยในกิจกรรมบ้านหนังสืออัจฉริยะไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ การจัดทำโครงการบ้านหนังสืออัจฉริยะ มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554 – 2556 รวมจำนวน 5.80 ล้านบาท มีการจัดตั้งบ้านหนังสืออัจฉริยะจำนวน465 แห่ง
จากการตรวจสอบสังเกตการณ์บ้านหนังสืออัจฉริยะ จำนวน 102 แห่ง หรือคิดเป็นร้อยละ
21.93 ของจำนวนบ้านหนังสืออัจฉริยะทั้งหมด พบว่า การดำเนินโครงการบ้านหนังสืออัจฉริยะ
บางส่วนยังไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ พิจารณาได้จาก บ้านหนังสืออัจฉริยะจำนวน
56 แห่ง หรือคิดเป็นร้อยละ 54.90 ของจำนวนแห่งที่สุ่มตรวจสอบ มีการจัดตั้งในจุดที่ไม่เหมาะสมซ้ำซ้อนกับจุดที่มีการจัดหาหนังสือพิมพ์ให้บริการประชาชนอยู่แล้ว มีการจัดส่งหนังสือพิมพ์ไปยังบ้านหนังสืออัจฉริยะไม่เป็นปัจจุบัน และหนังสือพิมพ์ที่จัดหาไว้ในบ้านหนังสืออัจฉริยะไม่ตรงกับ
ความต้องการของประชาชน นอกจากนี้ยังพบว่า ถุงผ้ารักการอ่าน และ โต๊ะ เก้าอี้ ที่นำไปตั้งไว้ที่บ้านหนังสืออัจฉริยะบางส่วนมีการสูญหายและไม่ได้ใช้ประโยชน์
ทั้งนี้ สตง.ระบุว่า การดำเนินงานจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลกระทบทำให้การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยไม่บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ในการยกระดับการศึกษาของประชาชน การเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถให้กับประชาชนได้มีอาชีพและสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน การใช้จ่ายงบประมาณเป็นไปอย่างไม่ประหยัด ไม่คุ้มค่า และประชาชนเสียโอกาสที่จะได้รับความรู้ ที่จะนำไปใช้ในการพัฒนาและยกระดับการศึกษาของตนเอง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ให้มั่นคงเนื่องจากหลักสูตรที่จัดอบรมไม่สามารถนำไปประกอบอาชีพได้ หรือมีการจัดอบรมให้กับประชาชนเฉพาะกลุ่มที่เป็นกลุ่มเดิมๆ มีสาเหตุสำคัญเกิดจาก
1. ขาดการสำรวจข้อมูลพื้นฐานสำหรับการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เช่น ยังไม่มีการจัดทำสถิติข้อมูลระดับการศึกษาของประชาชนในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของ กศน.ตำบลแต่ละแห่ง ไม่มีการสำรวจข้อมูลความต้องการฝึกอาชีพของประชาชน และไม่มีการสำรวจข้อมูลการจัดหาหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้านในเขตพื้นที่ กศน.ตำบล เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำโครงการบ้านหนังสืออัจฉริยะ
2. การจัดทำแผนการปฏิบัติงานประจำปีไม่ชัดเจน ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงภาพรวมของภารกิจที่ต้องดำเนินการที่สอดคล้องกับงบประมาณที่ได้รับจัดสรร โดยจากการตรวจสอบการจัดทำ
แผนปฏิบัติงานประจำปีของ กศน.จังหวัดนครปฐม พบว่า กศน.จังหวัดนครปฐม ไม่มีการจัดทำ
แผนปฏิบัติงานประจำปี 2554 – 2556 ทำให้ไม่ทราบว่าในการดำเนินการตามภารกิจหลักของ
กศน.จังหวัดนครปฐม มีแผนการใช้จ่ายงบประมาณจำนวนเท่าใด และ กศน.อำเภอแต่ละแห่งจะได้รับจัดสรรงบประมาณในการดำเนินการในแต่ละภารกิจจำนวนเท่าใด เช่น การใช้จ่ายงบประมาณในการพัฒนาบุคคลากร ในแต่ละปีมีการใช้จ่ายงบประมาณจำนวนมาก ทั้งในส่วนของการจัดอบรมของ กศน.จังหวัดนครปฐม และ กศน.อำเภอแต่ละแห่ง ซึ่งจะเสนอขออนุมัติงบประมาณมายัง กศน.จังหวัดโดยงบประมาณที่ใช้จะมีทั้งในส่วนของเงินค่าใช้จ่ายรายหัว ที่จัดสรรให้สำหรับพัฒนาคุณภาพผู้เรียนงบประมาณในการจัดฝึกอบรมอาชีพ ซึ่งจัดสรรมาให้สำหรับดำเนินการตามภารกิจหลัก แต่ กศน.จังหวัดนครปฐม ก็อนุมัติให้ดำเนินการจัดอบรม โดยไม่มีกรอบหรือแนวทางในการพัฒนาบุคลากรที่ชัดเจนว่าในปีงบประมาณนั้นๆ จะมุ้งเน้นพัฒนาบุคลากรในด้านใด และจะใช้งบประมาณจากแหล่งใดจำนวนเท่าใดจึงจะเพียงพอ
3. ไม่มีการกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินการจัดอบรมอาชีพให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
ทั้งในเรื่องของการกำหนดหลักสูตรอาชีพระยะสั้นที่จัดอบรม และระยะเวลาในการอบรม การคัดเลือกวิทยากร และการกำหนดคุณสมบัติของประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ารับการอบรม เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
4. ขาดการติดตามประเมินผลการดำเนินการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม
อัธยาศัย จากการตรวจสอบพบว่า กศน.จังหวัดนครปฐม ไม่มีการจัดทำรายงานสรุปผลการปฏิบัติงานประจำปี ทำให้ไม่ทราบว่าในแต่ละปีงบประมาณมีการใช้จ่ายงบประมาณไปในกิจกรรมใด จำนวนเท่าใด และไม่ทราบถึงผลการดำเนินงานตามภารกิจหลักเกิดผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ หรือเป้าหมายที่กำหนดไว้หรือไม่
5. การคัดเลือกบุคลากรไม่ตรงกับการปฏิบัติงาน ครู กศน.ตำบลควรเป็นผู้ที่มีความรู้ด้านวิชาการศึกษา หรือวิชาชีพครู เพื่อจะสามารถจัดการเรียนการสอนตามภารกิจจัดการศึกษานอกระบบ
ขั้นพื้นฐานให้กับนักศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในการคัดเลือกบุคลากร ครู กศน.ตำบล ของ
กศน.จังหวัดนครปฐม ได้มีการเปิดกว้างสำหรับผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีทุกสาขา ไม่ได้
เฉพาะเจาะจงสำหรับผู้จบการศึกษาด้านการศึกษาและวิชาชีพครู ทำให้ครู กศน.ที่ได้รับคัดเลือก
ไม่มีความรู้ในเรื่องการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสม สำหรับการจัดหาวิทยากรในการจัดอบรม
อาชีพระยะสั้น ควรต้องสรรหาวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถ หรือมีความเชี่ยวชาญในสาขาที่จะ
จัดฝึกอบรมอย่างแท้จริง แต่จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ที่เป็นวิทยากรในการฝึกอบรมอาชีพไม่ได้เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถหรือมีความเชี่ยวชาญในอาชีพที่ฝึกอบรมแต่อย่างใด
6. ปัญหาในการประสานงานกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ การจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยด้วยบุคลากร กศน. ตามลำพัง ภายใต้ทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด จึงไม่สามารถ
ตอบสนองต่อชุมชนให้เกิดการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตตนเองได้อย่างต่อเนื่องได้ ความพร้อมของ กศน.ตำบล จึงขึ้นอยู่กับการประสานงานความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่เป็นสำคัญแต่จากการตรวจสอบพบว่า กศน.ตำบล บางแห่งไม่ได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายในพื้นที่ซึ่งส่งผลให้ กศน.ตำบล ขาดความพร้อมด้านอาคารสถานที่ และวัสดุ อุปกรณ์ ที่จะใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อให้การบริหารจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของ กศน.จังหวัดนครปฐม เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน มีข้อเสนอแนะให้ กศน.จังหวัดนครปฐม ดำเนินการดังนี้
1. จัดทำระบบฐานข้อมูล สถิติ และสารสนเทศ เกี่ยวกับประชากรกลุ่มเป้าหมายและผลการ
จัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนพัฒนา
และแผนการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ทั้งในระดับชุมชนหรือระดับจุลภาค
ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด โดยกำหนดฐานข้อมูลสำคัญที่จะต้องจัดเก็บ พร้อมทั้งจัดทำแบบเก็บข้อมูลที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ให้ กศน.ตำบล ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลให้ครบถ้วน เป็นปัจจุบัน และนำข้อมูลที่จัดเก็บมาวิเคราะห์ ประมวลผล เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพิจารณาจัดทำแผนการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
2. จัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี โดยจะต้องมีรายละเอียดของขั้นตอน ระยะเวลา และ
งบประมาณที่จะต้องใช้ในการดำเนินการของแต่ละขั้นตอน เป้าหมายของภารกิจ ผลสัมฤทธิ์ของภารกิจและตัวชี้วัดความสำเร็จของภารกิจ ซึ่งจะต้องเป็นแผนในภาพรวมของ กศน.จังหวัดนครปฐมที่รวบรวมจากแผนการปฏิบัติงานประจำปี ของหน่วยงาน กศน.อำเภอ และ กศน.ตำบล โดยจะต้องจัดทำแผนการปฏิบัติงานภายใต้ภารกิจและผลผลิตที่รับผิดชอบ ตามวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร
3. มีการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติราชการของหน่วยงาน โดยกำหนด
รูปแบบ และวิธีการติดตามประเมินผลให้มีมาตรฐานเดียวกัน เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการปรับปรุงและ
พัฒนาการปฏิบัติงานตามภารกิจให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผลมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดการศึกษา
นอกระบบขั้นพื้นฐาน ควรมีการทบทวนการดำเนินการจัดการเรียนการสอนของ กศน.ในแต่ละตำบล
ซึ่งมีปัญหาหลายประการทั้งในเรื่องความพร้อมของสถานที่ อุปกรณ์การเรียนการสอน จำนวน
นักศึกษา รวมทั้งการปฏิบัติหน้าที่ของครู กศน.ตำบล ที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการให้บริการประชาชนในตำบลตามภารกิจที่กำหนดไว้
โดยมีการสำรวจและสรุปสภาพปัญหา นำเสนอต่อ กศน.เพื่อพิจารณาปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของแต่ละพื้นที่ เช่น การยุบรวม กศน.ตำบลที่มีจำนวนนักศึกษาน้อย ให้มีการจัดการเรียนการสอนในสถานที่ที่เหมาะสม หรือปรับเปลี่ยนการจัดการเรียนการสอนจากเดิมที่ให้ครู กศน.ตำบลรับผิดชอบจัดการเรียนการสอนทุกระดับชั้น ซึ่งมีเนื้อหาแตกต่างกัน ต้องแบ่งเวลาในการสอน ทำให้นักศึกษาได้รับความรู้ไม่เต็มที่ เป็นแยกแต่ละระดับให้ชัดเจน และมีครู กศน.ตำบลรับผิดชอบแต่ละระดับชั้นโดยตรง เพื่อให้สามารถจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสม และนักศึกษาได้เรียนเต็มตามชั่วโมงเรียนที่กำหนด เป็นต้น
4. กำหนดหลักเกณฑ์ในการพิจารณากลั่นกรองโครงการจัดอบรมอาชีพให้ชัดเจนและเป็น
มาตรฐานเดียวกัน ทั้งในเรื่องของการกำหนดหลักสูตรอาชีพที่จะจัดอบรมต้องเป็นอาชีพที่สามารถ
สร้างรายได้หรือพัฒนาต่อยอดอาชีพเดิมให้กับผู้เข้ารับการอบรมได้ มีการกำหนดระยะเวลาในการ
จัดอบรมให้เหมาะสมสอดคล้องกับการปฏิบัติจริง และคัดเลือกวิทยากรที่มีความรู้ ความชำนาญ
ในวิชาชีพนั้นๆ รวมทั้งกำหนดคุณสมบัติผู้เข้ารับการอบรมกลุ่มเป้าหมายต้องเป็นประชาชนผู้ว่างงานและต้องการเข้าสู่อาชีพใหม่ หรือประชาชนที่มีอาชีพอยู่แล้วต้องการพัฒนาต่อยอดอาชีพเดิม
5. กำหนดหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกบุคลากร ครู กศน.ตำบล และวิทยากรในการอบรม
อาชีพให้เหมาะสม เพื่อให้ได้บุคลากรที่มีคุณภาพ สามารถจัดการเรียนการสอนให้กับนักศึกษาและ
ถ่ายทอดความรู้ในการประกอบอาชีพให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. ประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ โดยผู้บริหาร กศน.แต่ละระดับจะต้อง
เป็นผู้นำในเรื่องการประสานให้เกิดความร่วมมือในพื้นที่มากขึ้น มิใช่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ ครู กศน.ตำบล ดำเนินการเพียงลำพัง ทั้งนี้เนื่องจากการประสานงานในพื้นที่กับหน่วยงานราชการ ครู กศน.ตำบลอาจไม่มีศักยภาพเพียงพอในการประสานงานกับผู้นำท้องถิ่น
7. ติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการบ้านหนังสืออัจฉริยะ โดยสำรวจสถานที่ตั้งของบ้าน
หนังสืออัจฉริยะที่จัดตั้งทั้งหมด และพิจารณาทบทวนว่าจุดที่จัดตั้งบ้านหนังสืออัจฉริยะมีความซ้ำซ้อนหรือไม่ หากเป็นจุดที่มีการจัดหาหนังสือพิมพ์อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นการจัดหาจากประชาชนเอง หรือมีหน่วยงานท้องถิ่นจัดหาไว้แล้ว ให้ดำเนินการจัดหาสถานที่จัดวางหนังสือใหม่ให้เหมาะสม เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้กับประชาชน ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลข่าวสารอื่น และมีการกำหนดมาตรการในการติดตามตรวจสอบการจัดส่งหนังสือตามโครงการฯ ไปยังบ้านหนังสืออัจฉริยะให้ทันเวลาเป็นปัจจุบัน
แหล่งข่าวระดับสูง จากสตง. เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า นอกเหนือจากผลการตรวจสอบการดำเนินงานในส่วนของ กศน.นครปฐม แล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ อยู่ระหว่างการตรวจสอบกศน.จังหวัดอื่น
เบื้องต้นพบว่า มีปัญหาในลักษณะเดียวกัน โดยเฉพาะเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณที่ไม่ถูกต้อง และส่อว่าจะมีปัญหาเรื่องความไม่โปร่งใสเกิดขึ้นด้วย