- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- รัชกาลที่ 9 ...'พระบิดา' แห่ง 7 ศาสตร์ความรู้
รัชกาลที่ 9 ...'พระบิดา' แห่ง 7 ศาสตร์ความรู้
ในช่วงระยะเวลาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ทรงครองสิริราชสมบัติ นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2489 จนกระทั่งสวรรคต เมื่อวันที่ 13 ต.ค.2559 ทรงได้รับการเทิดพระเกียรติเป็น 'พระบิดา' แห่งศาสตร์ความรู้หลากหลายสาขาวิชา และมีการกำหนดให้มีวันสำคัญแห่งศาสตร์ความรู้นั้นๆ ประจำทุกปีด้วย
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รวบรวมข้อมูลจากราชกิจจานุเบกษาที่มีการเผยแพร่ไว้เป็นทางการ มานำเสนอ ดังนี้
"พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย"
เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2544 สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในฐานะที่ทรงเป็น "พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย" และกำหนดให้วันที่ 19 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันเทคโนโลยีของไทย
เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยมาตลอด โดยทรงศึกษาค้นคว้าวิจัย และทรงนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประโยชน์ใช้ในการแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชนให้พ้นจากความทุกข์ยาก มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และสามารถพึ่งตนเองได้
ทั้งนี้ ด้วยพระอัจฉริยภาพ และพระปรีชาสามารถ ตลอดจนพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ของพระองค์ดังประจักษ์แก่ชาวโลก จากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ
(อ่านประกาศฉบับเต็มประกอบ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2544/E/005/1.PDF)
"พระบิดาแห่งฝนหลวง"
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2545 สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ในฐานะที่ทรงเป็น "พระบิดาแห่งฝนหลวง" และกำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็น "วันพระบิดาแห่งฝนหลวง"
เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงก่อให้เกิด "เทคโนโลยีฝนหลวง " ขึ้นมาเพื่อบรรเทาทุกข์แก่มวลพสกนิกร และมวลมนุษย์ในโลกให้รอดพ้นจากความเดือนร้อนเสียหาย ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมอันเนื่องจากภัยแล้งได้อย่างสัมฤทธิ์ผลเป็นที่ประจักษ์ชัดพระปรีชาสามารถ ทั้งนี้ เป็นที่ยอมรับทั่วไปทั้งในประเทศและต่างประเทศ
(ที่มาภาพจาก chm-thai.onep.go.th)
(อ่านประกาศฉบับเต็มประกอบ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/00103486.PDF)
"พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย"
เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.2549 สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ในวโรกาสพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถด้านนวัตกรรมโดยการใช้เทคโนโลยีแก้ไขปัญหาสภาพดินเปรี้ยวให้สามารถใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้
เป็น "พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย" และกำหนดให้วันที่ 5 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันนวัตกรรมแห่งชาติ
(อ่านประกาศฉบับเต็มประกอบ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2549/D/071/1.PDF)
"พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย"
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2549 สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ประการน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระราชสมัญญา "พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย" แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ
ระบุว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้ มีมติเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2537 กําหนดให้ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็น “วันนักประดิษฐ์” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ได้ทรงประดิษฐ์คิดค้น “เครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอย” หรือ “กังหันน้ำชัยพัฒนา” และทรงได้รับการทูลเกล้า ฯ ถวายสิทธิบัตรการประดิษฐ์ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2536 ซึ่งสภาวิจัยแห่งชาติได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น หรือสิ่งประดิษฐ์ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ ประเทศชาติ ประจําปี 2536 รางวัลที่ 1 เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2536 นั้น เนื่องในโอกาสมหามงคลทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยคํานึงถึง พระมหากรุณาธิคุณ และพระคุณูปการที่ทรงมีต่องานด้านวิจัยและงานด้านการประดิษฐ์ ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ทรงครองราชย์ และเพื่อความเป็นสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคล แก่เหล่านักประดิษฐ์และนักวิจัยไทยสืบไป
(ที่มาภาพจาก พระราชกรณียกิจ ร.9 - WordPress.com)
(อ่านประกาศฉบับเต็ม ที่นี่ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2550/E/003/2.PDF)
"พระบิดาแห่งการอนุรักษ์มรดกไทย"
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2550 สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระราชสมัญญา “พระบิดาแห่งการอนุรักษ์มรดกไทย” แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ เนื่องในโอกาสมหามงคล ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ด้วยความสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงสนพระราชหฤทัยสร้างสรรค์และอุปถัมภ์บํารุงงานศิลปะสาขาต่าง ๆ อีกทั้งทรงพระกรุณาพระราชทาน พระราชดําริและพระบรมราชวินิจฉัยในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และสืบทอดศิลปวัฒนธรรมทุกแขนงด้วย พระอุตสาหวิริยะและพระปรีชาสามารถอันล้ำเลิศ ตลอดจนได้พระราชทานพระบรมราโชวาทและพระราชดํารัสเตือนใจให้พสกนิกรไทยร่วมมือร่วมใจกันสงวนรักษาและสืบทอดศิลปวัฒนธรรมของชาติ ให้ยั่งยืนเป็นมรดกไทยถึงอนุชนรุ่นหลังสืบไป และเพื่อความเป็นสิริสวัสดิ์ พิพัฒนมงคลแก่พสกนิกรชาวไทยสืบไปตลอดกาลนาน
(อ่านประกาศฉบับเต็ม ที่นี่ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2550/E/081/1.PDF)
“พระบิดาแห่งการวิจัยไทย”
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2551 สํานักนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศการถวายพระราชสมัญญา “พระบิดาแห่งการวิจัยไทย” เฉลิมพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ มีพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมแก่ปวงชนชาวไทย นับแต่เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2489 ตราบจนปัจจุบัน ได้ทรงพระกรุณาพระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริมากกว่า 3,000 โครงการ เพื่อแก้ไขไขปัญหาในการดํารงชีวิตและขจัดทุกข์บํารุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร์ ให้ร่มเย็นเป็นสุข มีพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อให้เป็น ทรัพยากรบุคคลที่เป็นพลังสําคัญในการนําชาติไทยให้ เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ทัดเทียมนานาอารยประเทศ
โครงการต่างๆ ที่พระราชทานแก่ราษฎรโดยเฉพาะในชนบทผ่านการศึกษาวิเคราะห์วิจัย ทดลองจนปรากฏผลเป็นที่ประจักษ์ เป็นที่เทิดทูนพระเกียรติคุณทั้งในหมู่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ เป็นต้นว่า โครงการฝนหลวง เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดฝนในภูมิภาคที่ประสบภัยแล้ง ซึ่งได้รับการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ในต่างประเทศ และมีหลายประเทศได้ขอศึกษาเพื่อนําไปใช้ประโยชน์ในประเทศของตน โครงการเครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่นลอย หรือ กังหันน้ำชัยพัฒนา เพื่อบําบัดน้ำเสียและปรับปรุงสภาพแวดล้อม อย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ และได้รับรางวัลเหรียญทองสดุดีพระเกียรติคุณ โครงการแกล้งดิน ซึ่งทรงพระวิริยอุตสาหะศึกษาวิจัยทดลองเพื่อปรับปรุงดินที่แล้งร้างไร้ประโยชน์ ให้กลับมีคุณภาพ สามารถเพาะปลูกพืชพรรณไม้ได้ ผลโครงการหญ้าแฝก พืชที่มีคุณสมบัติพิเศษ ช่วยป้องกันหน้าดิน อันมีอาหารโอชะมิให้พังทลาย และช่วยรักษาความชุ่มชื้นใต้ผิวดิน โครงการก่อสร้างฝายอ่างเก็บน้ำ และเขื่อน เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์สูงสุด โครงการแก้มลิง เพื่อป้องกัน อุทกภัย โครงการผลิตพลังงานทดแทนไบโอดีเซล แก็สโซฮอล์ และเชื้อเพลิงเขียว โครงการทดลอง ปลูกยางนาและข้าวในบริเวณสวนจิตรลดาเพื่อเพิ่มผลผลิต ตลอดจนโครงการก่อตั้งศูนย์ศึกษาการพัฒนา 6 แห่ง ในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ เพื่อเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ด้านการประกอบอาชีพ เกษตรกรรมและอนุรักษ์สภาพแวดล้อม และอื่น ๆ อีกมาก ล้วนเป็นโครงการที่ทรงอุทิศกําลังพระวรกาย กําลังพระปัญญาและกําลังพระราชทรัพย์ในการทรงศึกษา วิเคราะห์ วิจัย และทดลองจนปรากฏผลเป็นที่ประจักษ์แล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เผยแพร่แก่ประชาชน นับเป็น พระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้ และเพื่อความเป็นสิริสวัสดิ์ พิพัฒนมงคลแก่พสกนิกรชาวไทยสืบไปตลอดกาลนาน
(อ่านประกาศฉบับเต็ม ที่นี่ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2551/E/195/14.PDF)
"พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย"
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2552 สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศถวายพระราชสมัญญา “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ และกําหนดให้วันที่ 2 มีนาคม ของทุกปี เป็น “วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ” เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ที่มีพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชน ชาวไทย และทรงพระปรีชาสามารถด้านการช่าง รวมทั้งทรงให้ความสําคัญในการพัฒนาฝีมือแรงงาน ของช่างไทยให้ มีความเป็นมาตรฐาน
(อ่านประกาศฉบับเต็ม ที่นี่ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2552/E/032/1.PDF)
ทั้งหมดนี้ คือ พระอัจฉริยภาพ และพระปรีชาสามารถ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ที่มีพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชนชาวไทย ซึ่งจะถูกบันทึกอยู่ในความทรงจำคนไทยทั้งชาติไปตลอดกาล
หมายเหตุ : ภาพประกอบเรื่องจาก Gmbizmagazine