สเตทเม้นท์บัญชี ‘ประวิทย์’ มีเงินโอนเข้าเกิน 3 แสน 132 ครั้ง จาก 16 จ. 19 สาขา

คณะกรรมการสอบคดีสินบนโยกย้าย ขรก.รพช. พบสเตทเมนท์บัญชีแบงก์ ‘ประวิทย์’ ในกรุงเทพฯ มีเงินโอนเข้าเกิน 3 แสนบาท 132 รายการ ถอนออก 65 ครั้ง จาก 19 สาขา 16 จังหวัด ขอให้ ผจก.แบงก์ สอบต้นทาง ก่อน ป.ป.ช.สรุปไม่มีมูล

หลักฐานชิ้นหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับคดีซื้อขายตำแหน่งในสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท (รพช.) คือ บัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนมหาไชย เลขที่ 037-2-048xxx ของ นายกิมหงวน แซ่ลิ้ม หรือ นายประวิทย์ อริยกานนท์ เจ้าของร้าน เอี่ยมแสงยนต์ ย่านมหาจักร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เนื่องจากถูกนายประสิทธิ์ วิไลลักษณ์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเร่งรัดพัฒนาชนบท (รพช.) ขอนแก่น กล่าวหาว่า เป็นบัญชีที่รับโอนเงินให้ผู้บริหาร รพช. เฉพาะรายนายประสิทธิ์อ้างว่า โอนเงินผ่านบัญชีนี้จำนวน 5 ครั้ง ประมาณ 18 ล้านบาท (ไม่รวมเงินสด 3 ครั้ง 10 ล้านบาท รวมทั้งหมดประมาณ 28 ล้านบาท) ในช่วงปี 2538-2540 และมีข้าราชการ รพช. อีกหลายรายใช้บริการโอนเงินผ่านบัญชีนี้ด้วย

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานไปแล้วว่า ในชั้นไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ตรวจสอบกระแสเงินหมุนเวียนในบัญชีดังกล่าวพบว่า นายประวิทย์เจ้าของบัญชีได้จ่ายเช็คให้บุตรชาย 4 คน รวม 98 ฉบับ ไปขึ้นเงินกับธนาคารฯ ได้แก่ นายวีรชาติ อริยกานนท์ จำนวน 69 ฉบับ นายศราวุธ อริยกานนท์ จำนวน 24 ฉบับ นายสง่า อริยกานนท์ จำนวน 2 ฉบับ และ นายเกียรติศักดิ์ อริยกานนท์ จำนวน 3 ฉบับ รวม 98 ฉบับ ไปขึ้นเงินกับธนาคารฯต่อมาทั้ง 4 คนให้การต่อคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. ทำนองเดียวกันว่า เมื่อนำเช็คไปขึ้นเงินสดแล้วก็จะนำมามอบให้นายประวิทย์ ส่วนบิดาจะนำไปให้ใครต่อนั้นไม่ทราบ  

ทำให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่สามารถดำเนินการเอาผิด นายประวิทย์ ในฐานะผู้สนับสนุนการเรียกรับเงินคดีซื้อขายตำแหน่งข้าราชการในสำนักงาน รพช.ได้ แต่ชี้มูลวินัยร้ายแรงและคดีอาญาต่อ นายทวี ทวีวงษ์ อดีตผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ รพช. ในข้อหาเรียกรับเงินสด 3 ล้านบาท ในการช่วยเหลือนายประสิทธิ์ ไม่ต้องถูกย้ายเข้ามาประจำที่ส่วนกลางกระทั่ง ศาลอาญาพิพากษาจำคุกนายทวี เป็นเวลา 6 ปี เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2558         

ล่าสุด สำนักข่าวอิศราตรวจสอบพบว่า

1.บัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนมหาไชย เลขที่ 037-2-048xxx ของนายประวิทย์ ดังกล่าวนั้น ถูกคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ รพช. ตรวจพบว่า มีรายการโอนเงินเข้าบัญชีเกินกว่า 300,000 บาท จำนวน 132 รายการ และรายงานโอนเงินออกจากบัญชีเกินกว่า 300,000 บาท จำนวน 65 รายการ

ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวปรากฎในหนังสือของ นายอุทัย ถิรจิต รองเลขาธิการเร่งรัดพัฒนาชนบท (ขณะนั้น) ในฐานะประธานกรรมการสอบข้อเท็จจริงในคดีซื้อขายตำแหน่งใน รพช. (คณะกรรมการที่สำนักงาน รพช. แต่งตั้งขึ้น) ได้ทำหนังสือเมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2543 ถึงผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนมหาไชย (สาขาที่เปิดบัญชี) ระบุว่า

“ตามที่ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาถนนมหาไชย ได้จัดส่งภาพถ่ายเอกสารรายการฝาก-ถอนบัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 037-2-0488XX ชื่อบัญชี นายประวิทย์ อริยะกานนท์ ให้คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงของสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท กระทรวงมหาดไทย เพื่อประกอบการสอบสวนแล้ว นั้น

คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ตรวจสอบเอกสารดังกล่าวแล้ว พบว่า มีรายการโอนเงินเข้าบัญชีเกินกว่า 300,000 บาท จำนวน 132 รายการ และรายการโอนเงินออกจากบัญชีเกินกว่า 300,000 บาท จำนวน 65 รายการ คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง จึงมีความประสงค์ขอให้ธนาคารตรวจสอบว่า มีผู้ใดบ้างที่นำเงินโอนเข้าบัญชี และรายการโอนเงินออกจากบัญชีไปยังผู้ใด ดังปรากฏรายละเอียดรายการที่ต้องการให้ตรวจสอบที่ส่งมาพร้อมนี้” (ดูเอกสาร)

2.บัญชีดังกล่าวมีการโอนเงินเข้ามาจากธนาคารกสิกรไทย 19 สาขาในต่างจังหวัด รวม 16 จังหวัด ซึ่ง นายกิตติ มหัทธนทวี ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนมหาไชย แจ้งต่อคณะกรรมการสอบสวนฯ ว่า ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวได้ โดยระบุว่า ต้องตรวจสอบเอกสารที่สาขาต้นทาง 

ธนาคารกสิกรไทย 19 สาขา ที่โอนเงินเข้าบัญชีมาให้ นายประวิทย์ ได้แก่ สาขาแพร่ ,สาขาถนนหน้าเมือง ขอนแก่น ,สาขาถนนพรหมเทพ อุบลราชธานี ,สาขากาฬสินธุ์ ,สาขาสุโขทัย ,สาขาหนองคาย ,สาขาถนนฉัตรไชย ลำปาง ,สาขานครพนมสาขานราธิวาส ,สาขาถนนประจักษ์ อุดรธานี ,สาขาถนนจอมพล นครราชสีมา ,สาขาน่าน ,สาขาสกลนคร ,สาขาอำนาจเจริญ ,สาขาวารินชำราบ อุบลราชธานี ,สาขาบุรีรัมย์ ,สาขาประชาสโมสร ขอนแก่น ,สาขาถนนชยางกูร อุบลราชธานี และ สาขาตลาดใหม่ กาฬสินธุ์ 

กระนั้น ไม่มีข้อมูลว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดดังกล่าวของ สพช. ได้สรุปผลสอบอย่างไร  

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรารายงานว่า มีข้าราชการ รพช. โอนเงินเข้าบัญชี นายประวิทย์ อย่างน้อย 7 คน

ขณะที่ นายประวิทย์ ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2259 ว่า ให้ข้าราชการ รพช. ยืมบัญชีโอนเงินเท่านั้น เพื่อความสะดวกไม่ต้องพกเงินสด เมื่อนายประสิทธิ์ และข้าราชการคนอื่นโอนเงินเข้ามาแล้ว และเดินทางเข้ามากรุงเทพฯ ก็จะมารับเงินจากนายประวิทย์ไปทั้งหมด นายประวิทย์และบุตรชายไม่เคยเอาเงินดังกล่าวไปให้ข้าราชการผู้ใหญ่ใน รพช. คนใด หรือเพื่อซื้อขายตำแหน่ง และยังบอกอีกว่า นายประสิทธิ์โอนเงินเข้ามาในบัญชีของนายประวิทย์มากกว่า 5 ครั้ง และนายประสิทธิ์ก็มารับเงินสดไปทุกครั้ง (อ่านประกอบ : เปิดบทสัมภาษณ์ 'ประวิทย์' เจ้าของบัญชีเงินฝากคดี รพช. "ผมไม่ได้รวยพันล้าน")

อ่านประกอบ:

อดีต ส.ส.-บิ๊ก รพช. ใช้บัญชี ‘ประวิทย์’ โอนเงิน ‘ซื้อที่ดิน-ดาวน์รถ-เช่าพระเครื่อง’

เปิดบทสัมภาษณ์ 'ประวิทย์' เจ้าของบัญชีเงินฝากคดี รพช. "ผมไม่ได้รวยพันล้าน"

เปิดคำให้การ อดีต ผอ. รพช. รับเช็ค 2 ล. ‘ช่วยเมียลูกชายเพื่อนทำยอดเงินฝาก’

ขมวด 5 ขรก. โอนเงินเข้าบัญชี 'เจ้าของร้านเครื่องจักรกล' 27.4 ล. คดี รพช.

คำให้การ'เฉลิม-ชัยสิทธิ์'คดีซื้อขายเก้าอี้ รพช.-ปัดเปิด ร.ร.สั่งลูกน้องส่งหัวคิว 2%

ไทม์ไลน์ชัดๆ คดีเรียกรับ 3 ล. บิ๊ก รพช. 13 ปีในมือ ป.ป.ช.-ขาดอายุความ 1 ข้อหา

อดีตซี 9 ฟ้อง ผอ.รพช. อีกคดี!เรียกรับ 3 ล.- นักธุรกิจแจงแค่ยืมบัญชีโอนเงิน

เบื้องหลังจ่าย 3 ล.! คำให้การ ซี 8 “นายให้นโยบายต้องจัดส่งค่าบริหารงาน 1%”

พบอีก 2 ขรก. โผล่โอนเงินเข้าบัญชี'เสี่ย ป.'ใกล้ชิดบิ๊ก รพช. 3 ล. 'ไม่รู้ค่าอะไร'

เปิดใบโอนเงิน 3 ล้าน คดีสินบน รพช.

คำให้การลึก! คดีซื้อขายเก้าอี้ รพช. คนเดียวจ่ายยิบให้ ‘บิ๊ก’ 8 ครั้ง 28 ล้าน

เปิดพฤติการณ์คดีสินบน 3 ล. ซี 9 รพช. เบิกเงินสดจากแบงก์ไปจ่ายถึงห้องทำงาน

ศาลสั่งจำคุก 6 ปี ซี 9 รพช.รับเงินสด 3 ล.ค่าซื้อเก้าอี้ ผอ.ศูนย์ขอนแก่น ไม่ให้ถูกย้าย