เปิดหมด!รายชื่อ 20 ขรก.-เมีย โอนเงิน 46 ล.คดีซื้อเก้าอี้ รพช. ในสำนวน ป.ป.ช.

เขียนวันที่

วันพฤหัสบดี ที่ 22 ธันวาคม 2559 เวลา 20:30 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

รายงาน-สกู๊ป | Isranews | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

Tags

เปิดรายชื่อ 20 ขรก.-คนใกล้ชิด คดีสินบนซื้อขายเก้าอี้ รพช. ในสำนวน ป.ป.ช. เฉพาะ 16 คนโอน 42 ล. แต่ไม่มีหลักฐานเอาผิด ฟัน ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ผู้รับเงินสด 3 ล.ได้คนเดียว ส่วน ซี 9 ‘คนจ่าย-ผู้ร้อง’คดีขาดอายุความ

221259 chonbot 0

คดีการซื้อขายตำแหน่งในสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท (รพช.) ก่อนที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด นายทวี ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่เพียงรายเดียว กระทั่ง ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 6 ปี มีข้าราชการปรากฎชื่อเป็นผู้โอนเงินเข้าบัญชี นายประวิทย์ อริยกานนท์ หรือ นายกิมหงวน แซ่ลิ้ม เจ้าของร้านขายเครื่องจักรกล (เจ้าตัวชี้แจงว่า ไม่ใช่การซื้อขายตำแหน่ง) จำนวนหลายคน

ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำรายชื่อบุคคลที่ปรากฎในสำนวน ป.ป.ช.มาเสนอ

ตามรายงานผลการสอบสวนของ ป.ป.ช. ผู้ร้องคือ นายประสิทธิ์ วิไลลักษณ์ ผู้อำนวยการศูย์ปฏิบัติการ รพช.ขอนแก่น ให้การต่อคณะอนุกรรมการไต่สวน ป.ป.ช. อ้างว่า จ่ายเงินสดและโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารให้แก่ นายทวี ทวีวงศ์ หลายครั้ง

ครั้งที่ 1 วันที่ 23 มี.ค. 2538 จำนวน 2,000,000 บาท จ่ายเงินสด โดยมอบให้ นายประดิษฐ์ วิไลลักษณ์ น้องชายไปมอบให้ที่ กรมการเร่งรัดพัฒนาชนบท

ครั้งที่ 2 วันที่ 25 ก.ย. 2538 จำนวน 2,000,000 บาท มอบให้ นายประดิษฐ์ วิไลลักษณ์ โอนเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนประชาสโมสร จ.ขอนแก่น เลขที่ 037-2-048xxx ของ นายประวิทย์ อริยกานนท์

ครั้งที่ 3 วันที่ 17 พ.ย. 2538 จำนวน 1,000,000 บาท มอบให้ นายพิสิฐ กาญจนเตชะ หรือคำน้อย โอนจากธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนหน้าเมือง จ.ขอนแก่น เข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทยสาขาถนนมหาไชย เลขที่ 037-2-048xxx ของนายประวิทย์

ครั้งที่ 4 วันที่ 25 มี.ค. 2539 จำนวน 7,000,000 บาท นายประสิทธิ์มอบ นายไพรินทร์ ปิตะโพธิ์ นำเช็คไปเบิกเงินที่ธนาคารกรุงไทย สาขาถนนมลิวัลย์ จ.ขอนแก่น แล้วซื้อแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายนักธุรกิจคนดังกล่าวที่ธนาคารกรุงไทย สาขาเยาวราช แล้วนักธุรกิจรายดังกล่าวนำไปเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขามหาไชย เลขที่ 037-2-048xxx

ครั้งที่ 5 วันที่ 7 พ.ค. 2539 จำนวน 5,000,000 บาท นายประสิทธิ์มอบ นายไพรินทร์ ปิตะโพธิ์ นำเช็ค 2 ฉบับ จำนวน 2,100,000 บาท และจำนวน 2,900,000 บาท ตามลำดับ ไปโอนที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนหน้าเมือง จ.ขอนแก่น เข้าบัญชี ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนมหาไชย เลขที่ 037-2-048xxx

ครั้งที่ 6 วันที่ 1 ต.ค. 2539 จำนวน 3,000,000 บาท มอบให้ นายจั่ว หาญห้าว ลูกน้องไปโอนที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนประชาสโมสร จ.ขอนแก่น เข้าบัญชี ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนมหาไชย เลขที่ 037-2-048xxx

ครั้งที่ 7 เมื่อ 18 มี.ค. 2540 นำเงินสดจำนวน 3,000,000 บาท เบิกด้วยเช็คจากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาวิสุทธิกษัตริย์ บัญชีนายประสิทธิ์ ใส่กล่องไปมอบให้นายทวี ที่ห้องทำงานนายทวี โดยมีพยานรู้เห็นคือ นายไพฑูรย์ ศรีอรรคจันทร์ นายไพรินทร์ ปิตะโพธิ์ นายสมควร ธรรมอนันต์ และ นายจั่ว หาญห้าว โดยนายประสิทธิ์ และนายไพฑูรย์เดินถือเงินสดขึ้นไปที่ห้องทำงาน เมื่อถึงห้องนายประสิทธิ์เข้าไปเพียงคนเดียว นายไพฑูรย์รอยู่ด้านนอก เสร็จแล้วก็กลับออกมาและเดินทางกลับ จ.ขอนแก่น

ส่วนบุคคลที่ปรากฎชื่อในใบรับโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ของธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนมหาไชย ของนายประวิทย์ มีดังนี้

1.นายประดิษฐ์ วิไลลักษณ์ เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการ รพช.ขอนแก่น น้องชายนายประสิทธิ์ วิไลลักษณ์

- จำนวน 2,000,000 บาท เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2538 (อ้างว่าเป็นเงินของนายประสิทธิ์ ใช้ให้โอนเพื่อค่าเลื่อนตำแหน่ง)

2.นายพสิฐ กาญจนเตชะ หรือ คำน้อย ลูกจ้างประจำหน้าห้อง นายประสิทธิ์ วิไลลักษณ์

- จำนวน 1,000,000 บาท เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2538 (อ้างว่าเป็นเงินของนายประสิทธิ์ ใช้ให้โอน)

3.นายไพรินทร์ ปิตะโพธิ์ ลูกจ้างประจำ ลูกน้องนายประสิทธิ์ วิไลลักษณ์

- จำนวน 7,000,000 บาท เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 2539

- จำนวน 2,100,000 บาท และ 2,900,000 บาท เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2539

(รวม 12,000,000 บาท) (อ้างว่าเป็นเงินของนายประสิทธิ์ ใช้ให้โอนไม่รู้เป็นค่าอะไร)

4.นายจั่ว หาญห้าว ลูกจ้างประจำ ศูนย์ รพช.ขอนแก่น ลูกน้องนายประสิทธิ์ วิไลลักษณ์

- จำนวน 3,000,000 บาท เมื่อ 1 ต.ค. 2539 (อ้างว่าเป็นเงินของนายประสิทธิ์ ใช้ให้โอนไม่รู้เป็นค่าอะไร)

5.นายสงวนศักดิ์ เหล่าสิทธิสุข ผู้อำนวยการศูนย์ รพช.สกลนคร

- จำนวน 2,000,000 บาท เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2538

- จำนวน 1,500,000 บาท เมื่อวันที่ 22 มี.ค.2538

- จำนวน 1,000,000 บาท เมื่อวันที่ 19 เม.ย.2539

- จำนวน 1,000,000 บาท เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2540

- จำนวน 1,000,000 บาท เมื่อวันที่ 25 เม.ย.2540

(รวม 6,500,000 บาท)

6.นางสิรินพร เหล่าสิทธิสุข (ภรรยานายสงวนศักดิ์-พนักงานธนาคารกสิกรไทย)

- จำนวน 1,000,000 บาท เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2538

- จำนวน 1,000,000 บาท เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2540

(รวม 2,000,000 บาท)

7.นายสันต์ เทศประสิทธิ์ เจ้าหน้าที่ รพช.นครพนม

- จำนวน 600,000 บาท เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2538 (นางสมใจ เทศประสิทธิ์ ภรรยา อ้างว่าสามีเสียชีวิตแล้ว ไม่ทราบว่าเป็นค่าอะไร)

8.นายปรีชา โพธิหัง รพช.ตาก จำนวน 550,000 บาท เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2539 (อ้างว่าร่วมกันซื้อที่ดิน จ.จันทบุรี)

9.นายประยูร ทัศน์ทอง รพช.นครราชสีมา จำนวน 1,000,000 บาท เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2539 (นางพรสวรรค์ ทัศน์ทอง ภรรยา อ้างว่าสามีเสียชีวิตแล้วไม่รู้เป็นค่าอะไร)

10.นายวีรวงค์ สงวนหงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ รพช.ชุมพร จำนวน 1,000,000 บาท เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2540 (อ้างว่าชำระหนี้ค่าซื้อเครื่องจักรกลของ หจก.บุญคุณธรณีของบุตรสาว ซื้อจากบุคคลที่ 3)

11.นายจงรักษ์ สกุลคู จำนวน 500,000 บาท เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2540 มอบให้ นายวีระพงษ์ แสงศิลา ลูกน้องเป็นคนโอน (อ้างว่าค่าเช่าพระเครื่องหลวงปูทวด 2 องค์)

12.นายสอาด ใจเพ็ชร์ ผู้อำนวยการศูย์ รพช.ศรีสะเกษ จำนวน 500,000 บาท เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2540 ให้ นางเยาวณีย์ ต้นสายเพ็ชร หัวหน้างานการเงิน รพช.ศรีสะเกษ เป็นคนโอน (อ้างว่าชำระหนี้เงินดาวน์รถยนต์วอลโว่)

13.นายปรีชาชาติ เจริญพิบูลย์ ผู้อำนวยการศูนย์ รพช.ขอนแก่น และ สกลนคร

- จำนวน 4,500,000 บาท เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2540

- จำนวน 2,400,000 บาท เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2540

- จำนวน 1,000,000 บาท เมื่อวันที่ 29 ต.ค.2540

(รวม 7,900,000 บาท)

โดยใช้ให้ นายเดชา พลกล้า เจ้าหน้าที่ รพช.ขอนแก่น และนายประภาส นาคประกอบ และ รพช.สกลนคร อ้างว่า ชำระหนี้เงินกู้และร่วมกันซื้อที่ดินในจ.นครปฐม

14.นายปัญญา หลักเมือง รพช.สงขลา จำนวน 500,000 บาท เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2540 (อ้างว่าชำระหนี้ซื้อรถบรรทุก)

15.นายชัยพันธุ์ หอมวิเศษวงษา จำนวน 500,000 บาท เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2540 (อ้างว่าชำระหนี้กรณีฝากแลกเงินสกุลต่างประเทศเพื่อส่งให้บุตรสาวที่กำลังศึกษาอยู่ต่างประเทศ)

16.นายมนัส ซึ่งเจริญยิ่ง ผู้อำนวยการศูนย์ รพช.สกลนคร

- จำนวน 1,500,000 บาท เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2541

- จำนวน 1,000,000 บาท เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2541

(รวม 2,500,000 บาท) โดยใช้ นายบุญส่ง วิจักษณบุญ เจ้าหน้าที่ศูนย์ รพช.สกลนคร เป็นผู้โอนเงินแทน ขณะที่ นายมนัสชี้แจงว่า ไม่เคยใช้ให้นายบุญส่งโอนเงินให้นายประวิทย์

รวม 16 คน 42,050,000 บาท (ไม่รวมนายประสิทธิ์)

นอกจากนี้ ยังมีบุคคลอีก 3 คนที่เกี่ยวข้อง คือ

นายวรพจน์ ธีรอำพน รพช.กาฬสินธุ์ อ้างว่าถูกผู้บังคับชาเรียกรับเงินค่าซื้อขายตำแหน่ง ครั้งแรก จ่ายเป็นเงินสดจำนวน 500,000 บาท ที่ห้องทำงาน สำนักงาน รพช. ประมาณกลางปี 2538 และครั้งที่สอง โอนเข้าบัญชีนายประวิทย์ จำนวน 3,000,000 บาท เมื่อประมาณปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม 2539

นายประกอบ ศฤงคารินกุล รพช.ร้อยเอ็ด อ้างว่า เมื่อประมาณปี 2540-2541 และรพช.กาฬสินธุ์ เคยโอนเงินเข้าบัญชีนายประวิทย์ 1 ครั้ง จำนวน 500,000 บาท เพื่อร่วมกับนางรำเพย วิศวกรรม รพช.นครสวรรค์ ลงทุนซื้อที่ดินที่ จ.นครนายก ตามที่นางรำเพยเป็นคนบอกให้โอนเข้าบัญชีนายประวิทย์ ทว่า ซื้อที่ดินไม่สำเร็จ จึงนำเงินสดไปคืนให้นายประกอบที่บ้านพักในกรุงเทพฯ

นายสถิตย์ นนท์พละ รพช.กาฬสินธุ์ อ้างว่า เคยมอบเงินสด 200,000–300,000 บาท ให้ น.ส.สุภลักษณ์ บุญเกิด ไปโอนเขาบัญชีนายประวิทย์ 1 ครั้ง เพื่อให้ช่วยแลกเงินดอลลาร์สหรัฐ เป็นค่าใช้จ่ายให้แก่บุตรสาวที่ศึกษาอยู่ต่างประเทศ

หากรวม 3 คนหลังประมาณ 4 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 19 คน ประมาณ 46 ล้าน ไม่รวมนายประสิทธิ์ ผู้ร้อง (คนที่ 20)

คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงและคดีอาญาเพียงคนเดียว คือ นายทวี ทวีวงศ์ เฉพาะกรณีเรียกรับเงินจากนายประสิทธิ์ผู้ร้อง เพื่อช่วยผู้ร้องไม่ต้องย้ายออกจากขอนแก่น จำนวน 3 ล้านบาท (กรณีเรียกรับเงินสดที่ห้องทำงานนายทวี เมื่อเดือนเมษายน 2540) ส่วนกรณีการโอนเงินในกรณีอื่นของนายประสิทธิ์ และบุคคลอื่นๆ ป.ป.ช.เห็นว่า ไม่มีพยานหลักฐานรับฟังได้ รวมทั้งนายประวิทย์เจ้าของบัญชีผู้รับโอน

สำหรับนายประสิทธิ์คนจ่ายเงินจำนวน 3 ล้านบาทเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2540 นั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่า เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 144 ฐานให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน (ให้สินบน) แต่ความผิดตามมาตราดังกล่าวมีอายุความ 10 ปีนับจากวันกระทำความผิด จึงขาดอายุความ

221259 chonbot 01