เปิดผลสอบปมจ้างที่ปรึกษา'รถไฟเด่นชัย-เชียงใหม่'ฉบับ ก.คมนาคม 6 ขรก.ไม่ทุจริต

เขียนวันที่

วันพุธ ที่ 21 มิถุนายน 2560 เวลา 08:00 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

"..การนำเสนอรายงานการศึกษาฯ ของนายสาธิตจึงไม่อาจจูงใจหรือโน้มน้าวให้คณะกรรมการฯ และคณะที่ปรึกษาฯ .. ที่มีเป็นจำนวนมากในแต่ละครั้งที่มีการประชุมทั้งหมด .. และไม่อาจเปลี่ยนแปลงผลการศึกษาของคณะที่ปรึกษาโครงการฯ ได้ สนข. จึงไม่ไดรับความเสียหายจากเรื่องดังกล่าว พิจารณาเแล้วเห็นว่า ข้อกล่าวหาของผู้ร้องไม่มีมูลที่จะกล่าวหาว่า ข้าราชการ สนข. ทั้ง 6 ราย กระทำการทุจริตในโครงการดังกล่าว จึงให้ยุติเรื่องในประเด็นข้อกล่าวหานี้.."

20660 train0

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานแล้วว่า กระทรวงคมนาคมส่งหนังสือแจ้งผลการพิจารณากรณีการร้องเรียนกล่าวหาว่ามีการทุจริตในโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ เด่นชัย-เชียงใหม่ ถึง นายอรุณ อังศุยานนท์ วิศวกรโยธา ผู้ร้องเรียนว่า เรื่องร้องเรียนดังกล่าวไม่มีมูล จึงให้ยุติเรื่อง

ขณะที่ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 พ.ย. 2559 นายอรุณได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงกระทรวงคมนาคม ร้องเรียนข้าราชการ สนข. 6 ราย ได้แก่ นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ (ผอ.สนข.) นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ (ผอ.สำนักงานโครงการพัฒนาระบบราง) น.ส.ก่องกนก เมนะรุจิ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ) นายทศพร ร้อยแว่น (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ) นายอรรฆวัส กาญจนสุทธิแสง (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ) และ น.ส.ปริญญารัตน์ สุวรรณเนาว์ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ) สรุปสาระสำคัญว่า

"ข้าราชการในโครงการดังกล่าวมีการให้บุคคลภายนอกสัญญาจ้างของบริษัท ทีมคอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด มาทำหน้าที่เป็นผู้จัดการโคงการฯ และวิศวกรโครงการฯ อีกทั้ง ยังปล่อยให้นายสาธิตมีบทบาทเสนอรายงานต่อที่ประชุม อันเป็นการละเมิดสัญญาจ้าง ก่อให้เกิดความเสียหายคิดเป็นเงินกว่า 60 ล้านบาท เนื่องจากมีการอนุมัติเบิกจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่บริษัทที่ปรึกษาไปแล้ว" (อ่านประกอบ : ปิดจ๊อบ!ก.คมนาคมแจ้งผูู้ร้อง ปมจ้างที่ปรึกษา'รถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงใหม่'ไม่ทุจริต)

ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำรายงานการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีมีผู้ร้องเรียนกล่าวหาว่ามีการทุจริตในโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ที่ นายไพโรจน์ งามจรัส ผอ.กองการเจ้าหน้าที่ นำรายงานต่อปลัดกระทรวงคมนาคม เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2560 มาเสนอดังนี้

โดยในส่วนของข้อพิจารณาและความเห็นระบุว่า จากข้อเท็จจริงข้างต้นประกอบข้อชี้แจงของ สนข. และพยานเอกสาร รับฟังเป็นที่ยุติแล้วว่า โครงการดังกล่าวมี นายสุชัย รอยวิวัฒน์ เป็นผู้จัดการโครงการ ดังนั้น นายสาธิต มาลัยธรรม จึงไม่ได้เป็นผู้จัดการโครงการฯ หรือวิศวกรโครงการฯ และไม่ได้เป็น 1 ใน 53 รายชื่อบุคลากรหลักตามสัญญาจ้างที่ผู้ร้องกล่าวหา ประเด็นนี้จึงเหลือกรณีที่ต้องพิจารณาเพียงกรณีเดียวว่า การที่นายสาธิตนำเสนอรายงานการศึกษาความเหมาะสมต่อที่ประชุมคณะกรรมการกำกับงานฯ ทั้ง 3 ครั้ง กระทำได้หรือไม่

โดยจากการตรวจสอบเอกสารในการประชุมทั้ง 3 ครั้ง พบว่า คณะกรรมการกำกับงานฯ มีผู้บริหารระดับสูงของ สนข. เป็นประธานและรองประธาน โดยมีกรรมการจำนวนหลายคน และแต่ละคนล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญในงานด้านต่าง ๆ หลายคนเข้าร่วมประชุมด้วยทุกครั้ง (ปัจจุบันมีการประชุม 9 ครั้ง) ประกอบกับสัญญาจ้างที่ปรึกษาในโครงการฯ มีบริษัทที่ปรึกษาถึง 5 บริษัท และเงื่อนไขของสัญญาจ้างก็ไม่ได้กำหนดห้ามไม่ให้บุคลากรของทั้ง 5 บริษัทเข้าไปมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการทำงานของบริษัทที่ปรึกษาด้วย ประกอบกับเงื่อนไขในสัญญาจ้าง ข้อ 5.2 การจัดคณะทำงานและแผนการทำงานของบุคลากรหลัก ระบุว่า

"ที่ปรึกษาได้จัดคณะทำงาน โดยพิจารณาบุคลากรหลักตามที่กำหนดไว้ ประกอบด้วยบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ตรงตามตำแหน่งที่กำหนด และสอดคล้องกับโครงสร้างการบริหารโครงการ ปริมาณงาน แผนการดำเนินงาน และการจัดส่งรายงาน โดยมีแผนการทำงานและจำนวนคน-เดือนของบุคลากรหลัก นอกเหนือจากที่เข้ามาปฏิบัติงานโครงการตามที่แสดงไว้แล้ว กลุ่มบริษัทที่ปรึกษายังมีผู้ชำนาญการด้านต่าง ๆ อีกเป็นจำนวนมากประจำการ ณ สำนักงานใหญ่ของกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ซึ่งพร้อมจะให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนการปฏิบัติงานในโครงการนี้ เมื่อมีความจำเป็นและได้รับการร้องขอ"

ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า นายสาธิต เป็นผู้ช่วยกรรมการบริหารของบริษัท ทีมคอนซัลติ้งฯ ซึ่งเป็น 1 ในบริษัทผู้รับจ้าง และในวันที่มีการลงนามทำสัญญาจ้างที่ปรึกษา นายสาธิตก็ได้ลงนามเป็นพยานในสัญญาด้วย ถือได้ว่า นายสาธิต เป็นบุคลากรของบริษัทที่ปรึกษาที่รับรู้และเกี่ยวข้องกับโครงการฯ มาตั้งแต่ต้น ฉะนั้น การที่นายสาธิตเพียงแต่นำเสนอรายงานการศึกษาฯ ต่อที่ประชุมคณะกรรมการกำกับงานฯ ทั้ง 3 ครั้ง ถือเป็นการสนับสนุนให้การดำเนินงานหรือกิจการของบริษัทที่ปรึกษาบรรลุวัตถุประสงค์ ไม่ได้เป็นการละเมิดเงื่อนไขข้อใดในสัญญาจ้าง แม้ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้มีอำนาจหรือหน้าที่ในการร้องขอได้มีการร้องขอให้ นายสาธิต นำเสนอผลงาน ก็เป็นเพียงการไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อสัญญาเฉพาะในส่วนของวิธีปฏิบัติ ซึ่งไม่ใช่สาระสำคัญเท่านั้น เพราะสัญญาข้อ 5.2 อนุญาตให้ผู้ชำนาญการด้านอื่น ๆ นอกเหนือจากบุคลากรหลักเข้าให้การช่วยเหลือและสนับสนุนการปฏิบัติงานได้ ประกอบกับผลงานการศึกษาที่นายสาธิตนำเสนอก็ไม่ได้มีพยานหลักฐานใดยืนยันว่า นายสาธิตเป็นผู้จัดทำขึ้นด้วยตนเอง โดยที่บุคลากรหลักตามสัญญาจ้างทั้ง 53 ราย ไม่ได้ร่วมกันกระทำการศึกษา มีเพียงพยานเอกสารของผู้ร้องที่กล่าวหาว่า นายสาธิตได้จัดทำรายงานฉบับกลาง (Interim Report) และรายงานการกำหนดแนวทางการออกแบบโครงการดังกล่าว (Conceptual Design Reports)

ซึ่งเมื่อพิจารณาเอกสารฉบับดังกล่าวแล้วเห็นว่า เนื้อหาของเอกสารเป็นกรณีที่ที่ปรึกษาโครงการฯ ได้นำเสนอรายงานการศึกษาฯ ผ่านบริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด โดยมีนายสาธิตลงนามในหนังสือนำ เพื่อจัดส่งรายงานดังกล่าวให้กับ สนข. เท่านั้น ไม่ได้ลงนามในฐานะผู้จัดการโครงการหรือวิศวกรของโครงการ แต่อย่างใด

ในชั้นนี้จึงยังฟังไม่ได้ว่า นายสาธิตได้จัดทำรายงานฉบับดังกล่าวด้วยตนเอง หรือนำเสนอให้ที่ประชุมรับฟังเพื่อพิจารณาอันจะไม่เป็นไปตามสัญญาจ้างที่ปรึกษา จึงน่าเชื่อว่าการนำเสนอดังกล่าวของนายสาธิตทั้ง 3 ครั้ง ก็เป็นเพียงการนำข้อเท็จจริงหรือรายละเอียดต่าง ๆ ในรายงานการศึกษาฯ ที่มีอยู่เเล้วของคณะที่ปรึกษาโครงการฯ มารายงานหรือนำเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับงานฯ และคณะกรรมการตรวจการจ้างรับฟังเพื่อพิจารณาเท่านั้น ซึ่งหากนำเสนอรายงานไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง อย่างใด กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาย่อมโต้แย้ง หรือชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบอย่างถูกต้อง

การนำเสนอรายงานการศึกษาฯ ของนายสาธิตจึงไม่อาจจูงใจหรือโน้มน้าวให้คณะกรรมการฯ และคณะที่ปรึกษาฯ ซึ่งมีทั้งผู้บริหารระดับสูง ข้าราชการ ผู้แทนจากหลายหน่วยงาน ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและชำนาญงานในด้านต่าง ๆ ที่มีเป็นจำนวนมากในแต่ละครั้งที่มีการประชุมทั้งหมด รับฟังหรือเชื่อถือโดยปราศจากข้อโต้แย้งใด ๆ ได้ และไม่อาจเปลี่ยนแปลงผลการศึกษาของคณะที่ปรึกษาโครงการฯ ได้ สนข. จึงไม่ได้รับความเสียหายจากเรื่องดังกล่าว พิจารณาเแล้วเห็นว่า ข้อกล่าวหาของผู้ร้องไม่มีมูลที่จะกล่าวหาว่า ข้าราชการ สนข. ทั้ง 6 ราย กระทำการทุจริตในโครงการดังกล่าว จึงให้ยุติเรื่องในประเด็นข้อกล่าวหานี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายงานการสืบสวนฯ ฉบับดังกล่าวยังระบุด้วยว่า การกล่าวหาว่าผู้ใดกระทำการทุจริตต้องกระทำการโดยเจตนาสุจริตเป็นที่ตั้ง ซึ่งสามารถพิจารณาเจตนาเหล่านี้ได้จากหนังร้องเรียนของผู้ร้อง การยกเรื่องที่ไม่มีสาระสำคัญและไม่ได้มีความเสียหายจริงมาตั้งเป็นประเด็นแล้วนำไปแจ้งสื่อสาธารณะและส่วนราชการอื่น ทั้งที่ผู้ร้องรับราชการและมีคุณวุฒิการศึกษาสูง แต่กลับกล่าวหาผู้อื่นว่าทุจริต โดยไม่แยกแยะว่าผู้ใดมีพฤติการณ์หรือกระทำการใดในการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฏหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่นอย่างใด เหมารวมว่าทุกคนต้องทุจริต ย่อมเกินเลยกว่าความเป็นจริง เป็นการกล่าวหาที่รุนแรง สร้างความเดือดร้อนเสียหาย และเสียชื่อเสียงให้กับผู้อื่น ซึ่งลักษณะดังกล่าวอาจเข้าข่ายไม่รักษาชื่อเสียงของตน และรักษาเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนมิให้เสื่อมเสีย หรือกระทำการอย่างใดที่เป็นการกลั่นแกล้ง กดขี่ หรือข่มเหงกันในการปฏิบัติราชการ ตามาตรา 82(10) และ 83(7) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ได้ อีกทั้ง หนังสือร้องเรียนของผู้ร้องเขียนที่ สนข. ในวันที่ปฏิบัติหน้าที่ราขการและมีการนำมายื่นที่กระทรวงคมนาคม และไปยื่นที่ส่วนราชการอื่นในวันและเวลาราชการด้วยตนเองเป็นจำนวนมาก อาจเป็นการเบียดบังเวลาราชการ ทั้งที่ผู้ร้องสามารถส่งทางไปรษณีย์ได้ ก็อาจเข้าข่ายเป็นการทอดทิ้งหน้าที่ราชการตามมาตรา 82(5) แห่ง พ.ร.บ.ฉบับเดียวกันได้อีกด้วย จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา

นี่คือข้อมูลผลสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของกระทรวงคมนาคม

อย่างไรก็ตาม หากนับตั้งแต่มีการร้องเรียนกรณีโครงการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบระบบรถไฟทางคู่ เด่นชัย-เชียงใหม่จนถึงปัจจุบัน ผ่านห้วงเวลามาเป็นเวลาประมาณ 1 ปีเต็ม ถึงจะมีการรายงานผลการสืบสวนข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามข้อความข้างต้น และถูกตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงไม่มีการนำประเด็นที่มีการกล่าวหาว่าอาจปลอมแปลงเอกสารโครงการหรือไม่ มาเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา

ต้องติดตามกันต่อไป

อ่านประกอบ :

ปิดจ๊อบ!ก.คมนาคมแจ้งผู้ร้อง ปมจ้างที่ปรึกษา'รถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงใหม่'ไม่ทุจริต

ผอ.สนข.แจงปมเอกสารโครงการรถไฟรางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงใหม่ ที่ปรึกษาดูแล

ดูชัดๆ!เอกสารโครงการรถไฟรางคู่ ‘เด่นชัย-เชียงใหม่’ถูกมือดี แก้ไข-ตัดต่อ?

ซี 7 ยื่นนายกฯ เอาผิด รมว.คมนาคม-ปลัดฯ นิ่งเฉย ปมจ้างที่ปรึกษารถไฟรางคู่

ไทม์ไลน์ 200 วัน ปมจ้างที่ปรึกษารถไฟรางคู่ ยื่นบิ๊กตู่ ซัดปลัดฯคมนาคม เพิกเฉย?

200 วันยังไม่คืบ!ซี 7 สนข.โวย ปลัด'คมนาคม' ไม่แจงปมจ้างที่ปรึกษารถไฟรางคู่

ซี 7 ยื่นร้องนายกฯโดน ย้ายไม่เป็นธรรม ปมปูดจ้างที่ปรึกษารถไฟฯ 117.6 ล.

ปธ.กก.ตรวจจ้าง'ที่ปรึกษา’ 117.6 ล.ขึ้นซี 9 !ปลัดก.คมนาคมตั้งเอง เหตุว่าง 1 อัตรา

ยุคบุกเบิก บ.ทีมฯ ‘10 วิศวกร-ขรก.’ก่อตั้ง ‘ทนง’ โผล่-อดีตอธิบดีกรมโยธาฯร่วมหุ้น

โยน สนข.แจง! ปมจ้างที่ปรึกษารถไฟรางคู่ 117.6 ล. 2 กก.กำกับฯยันเป็นแค่คนนอ