- Home
- Isranews
- รายงาน-สกู๊ป
- ใต้วิกฤติ!บอมบ์ห้างดังหาดใหญ่ -ย่านธุรกิจยะลาตายเจ็บนับร้อย รอง ผกก.แม่ลานหวิดสิ้นชื่อ
ใต้วิกฤติ!บอมบ์ห้างดังหาดใหญ่ -ย่านธุรกิจยะลาตายเจ็บนับร้อย รอง ผกก.แม่ลานหวิดสิ้นชื่อ
ชายแดนใต้สุดวิกฤติ วันเดียวเกิดระเบิดใหญ่ 2 จุด คาร์บอมบ์ลานจอดรถอาคารห้างสรรพสินค้าและโรงแรมชื่อดังกลางเมืองหาดใหญ่ ตาย 4 เจ็บกว่าร้อย เชื่อยังมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ ส่วนในย่านธุรกิจเมืองยะลา คนร้ายทั้งวางคาร์บอมบ์-มอเตอร์ไซค์บอมบ์ 3 ลูกซ้อน สังเวย 11 ศพเจ็บอีกเพียบ ส่วนที่ อ.แม่ลาน พื้นที่นำร่องเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ บึ้มหวังสังหารรองผู้กำกับ โชคดีแค่เจ็บ วุ่นหนักมือมืดยิงเอ็ม 79 ถล่มบ้าน"นัจมุดดิน"
สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมาวิกฤติอีกครั้งหลังจากเงียบสงบมาร่วม 1 สัปดาห์ โดยล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ 31 มี.ค.2555 เกิดระเบิดอย่างรุนแรงหลายจุด ทั้งที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง และที่ อ.เมือง จ.ยะลา รวมทั้งอำเภอนำร่องยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงโดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) อย่าง อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี
โดยเมื่อเวลา 13.00 น.วันเสาร์ที่ 31 มี.ค.2555 ร.ต.ท.ภูวดล วิริยะวรางกูล ร้อยเวร สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งเหตุระเบิดที่อาคารลีการ์เดนส์พลาซ่า ถนนเสน่หานุสรณ์ ซึ่งเป็นโรงแรมและห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ในย่านเศรษฐกิจกลางเมืองหาดใหญ่ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุวิทย์ เชิญศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา (ผบก.ภ.จว.สงขลา) นายเสรี พานิชกุล นายอำเภอหาดใหญ่ โดยได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และรถดับเพลิงจากเทศบาลนครหาดใหญ่เข้าไปควบคุมสถานการณ์
เมื่อไปถึงพบว่าผู้คนในอาคารกำลังแตกตื่นหนีตายกันอย่างโกลาหล มีเพลิงไหม้บริเวณชั้น 1 และชั้น 3 ของห้างฯ ซึ่งเปิดเป็นศูนย์อาหารและร้านจำหน่ายเสื้อผ้า กระจกภายในห้างชั้น 1 แตกกระจาย เบื้องต้นพบว่ามีผู้บาดเจ็บจากการถูกไฟคลอก และกระจกบาดจำนวนมาก จึงได้ลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ จำนวน 40 ราย โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (โรงพยาบาล ม.อ.) จำนวน 120 ราย โรงพยาบาลกรุงเทพ 10 ราย โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี 30 ราย โรงพยาบาลท่งเซี่ยเซี่ยงตึ๊ง 3 ราย และโรงพยาบาลศิครินทร์ 19 ราย
ส่วนผู้เสียชีวิตพบเบื้องต้นจำนวน 4 ราย ยังไม่สามารถยืนยันเพศและสัญชาติได้ เนื่องจากสภาพศพถูกไฟคลอกจนเกรียม โดยเจ้าหน้าที่พบศพบริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดิน และคาดว่ายังมีผู้เสียชีวิตอีกจำนวนหนึ่ง
จากการตรวจสอบพบกลุ่มควันและเปลวเพลิงยังคงพวยพุ่งเต็มไปทั้งห้างฯ รวมทั้งชั้นบนของอาคารที่เปิดเป็นโรงแรม มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศติดอยู่ภายในและมีอาการสำลักควันไฟจำนวนกว่า 200 ราย โดยยังไม่สามารถฝ่าควันไฟและเปลวเพลิงออกมาได้ เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงฉีดน้ำเข้าไป และใช้พัดลมขนาดใหญ่ดูดควันออกมา แต่ก็ไม่สามารถช่วยได้มากนัก เนื่องจากกลุ่มควันหนาแน่น และมีคนติดอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก
ต่อมาเทศบาลนครหาดใหญ่ได้ส่งรถกระเช้ามา 1 คัน แต่ความสูงของกระเช้าแค่ตึก 4 ชั้น จึงไม่สามารถช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในอาคารได้ทั้งหมด ต้องส่งนักผจญเพลิงเข้าไปทุบหน้าต่างของอาคารทุกชั้นเพื่อระบายควันออกจากตัวอาคาร ขณะที่ตามหน้าต่างแต่ละชั้นมีผู้ที่ติดอยู่โบกมือขอความช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา และมีการติดต่อทางโทรศัพท์ของความช่วยเหลือจากญาติๆ ทำให้ญาติจำนวนหนึ่งเดินทางมายังที่เกิดเหตุ กลายเป็นความโกลาหลมากขึ้น
หลังจากเวลาผ่านไปแต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เจ้าหน้าที่จึงต้องประกาศให้ผู้ที่ติดอยู่ในอาคารไปรวมตัวที่สระน้ำและดาดฟ้าของโรงแรมเพื่อรอความช่วยเหลือ แต่ทางโรงแรมไม่มีลานจอดเฮลิคอปเตอร์
ผู้ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์รายหนึ่ง เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุยืนอยู่ที่ชั้น 2 ของห้างฯ ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นที่ชั้น 3 และชั้น 1 พร้อมทั้งเห็นคนจำนวนมากล้มทั้งยืนและมีเพลิงลุกไหม้ ขณะที่ผู้คนตามชั้นต่างๆ ยังไม่รู้เรื่อง และกว่าจะรู้ก็ไม่สามารถออกจากโรงแรมได้แล้ว ยิ่งเมื่อไฟฟ้าดับ ลิฟต์ใช้การไม่ได้ ทำให้เกิดเป็นความโกลาหลวุ่นวายคล้ายจลาจล
นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ แถลงข่าวในเบื้องต้นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าลีการ์เด้นส์ เป็นเหตุระเบิด อย่างไรก็ดี ข้อมูลยังค่อนข้างสับสน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุได้
ผู้สื่อข่าวหลายสำนักที่เดินทางไปทำข่าวยังที่เกิดเหตุให้ข้อมูลตรงกันว่า ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงขอความร่วมมือในการนำเสนอข่าว โดยให้ระบุว่าเป็นเหตุการณ์แก๊สระเบิด
ทั้งนี้ ภาพรวมของการให้ความช่วยเหลือเป็นไปอย่างล่าช้า โดยเฉพาะเทศบาลนครหาดใหญ่แทบไม่มีแผนเผชิญเหตุ ทำให้ พล.ต.ต.สุวิทย์ ต้องสั่งการให้เสริมกำลังเจ้าหน้าที่จากสถานีตำรวจรอบนอกเข้ามารักษาความปลอดภัยในพื้นเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ขณะที่ พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ส่งกำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 42 เข้าร่วมรักษาความสงบ และตรวจสอบย่านการค้า ศูนย์การค้าและโรงแรมต่างๆ เพราะเกรงว่าจะมีการวางระเบิดซ้ำซ้อนขึ้นอีก
ตะลึงเจอจุดคาร์บอมบ์ที่ลานจอดรถชั้น B2
ต่อมาเมื่อเวลา 18.45 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) สามารถลงไปตรวจสอบบริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดินของอาคารลีการ์เด้นส์พลาซ่า ชั้น B2 ปรากฏว่าพบหลุมระเบิดขนาดใหญ่บนพื้นซีเมนต์ จากชั้น B2 ทะลุลงไปถึงชั้นจอดรถ B3 รอบๆ หลุมดังกล่าวมีซากรถหลายคันถูกแรงอัดของระเบิดจนกระเด็นเป็นรัศมีประมาณ 10 เมตร สภาพรถแต่ละคันเสียหายอย่างหนัก และมีคันหนึ่งพังยับเยิน คาดว่าคนร้ายน่าจะประกอบระเบิดใส่ไว้ในรถคันดังกล่าว โดยเป็นระเบิด "คาร์บอมบ์" แต่เบื้องต้นยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นรถชนิดอะไร เพราะภายในลานจอดรถมืดและมีไอความร้อนกับกลุ่มควันหนาแน่น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เสียงระเบิดและเพลิงไหม้เกิดจาก "คาร์บอมบ์" บริเวณลานจอดรถชั้น B2 ของอาคาร ทำให้ท่อส่งแก๊สที่เดินภายในอาคารโรงแรมและห้างสรรพสินค้าระเบิดตาม ส่งผลให้ร้านรวงต่างๆ ที่ใช้แก๊สในอาคารเกิดระเบิดต่อเนื่อง แม้กระทั่งภายในครัวของอาคารห้องจัดเลี้ยงซึ่งตั้งอยู่ชั้น 8 โซนโรงแรมก็ยังเกิดเพลิงไหม้จากแรงระเบิดของแก๊ส
กระทั่งในช่วงค่ำ เจ้าหน้าที่ชุดค้นหาผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตได้ยุติการค้นหาลงชั่วคราว เนื่องจากไม่ปลอดภัย และจะดำเนินการค้นหาต่อในวันอาทิตย์ที่ 1 เม.ย. อย่างไรก็ดี ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เข้าไปรักษาความปลอดภัยโดยรอบตัวอาคาร และตั้งจุดตรวจบนถนนสายต่างๆ เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำซ้อน
คาร์บอมบ์-จยย.บอมบ์ 3 ลูกซ้อนกลางยะลาตายเจ็บครึ่งร้อย
เวลา 12.15 น.วันเดียวกัน ร.ต.ท.จิตนัย รัตนไพบูลย์ ร้อยเวร สภ.เมืองยะลา รับแจ้งเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ (ระเบิดที่บรรทุกมาในรถยนต์) บริเวณหน้าร้านข้าวมันไก่ ถนนรวมมิตรตัดกับถนนจงรักษ์ ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยนายตำรวจระดับสูง ฝ่ายทหาร นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี)
อย่างไรก็ดี ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังนำกำลังรุดไปยังจุดเกิดเหตุนั้น ปรากฏว่ามีเสียงระเบิดดังขึ้นอีก 1 ครั้งบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ห่างจากหน้าร้านข้าวมันไก่ประมาณ 100 เมตร เมื่อเข้าที่เกิดเหตุได้ เจ้าหน้าที่พบว่าคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องประกอบใส่ในถังแก๊ส น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม ซุกซ่อนไว้ในรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีบรอนซ์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน โดยคนร้ายนำไปจอดไว้หน้าร้าน และจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ทำให้อาคารร้านค้าซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ชื่อ "จงรักษ์สแควร์" ทั้งสองฟากถนนได้รับความเสียหาย โดยชั้นล่างเสียหายอย่างหนัก และบางส่วนของชั้น 2 ทรุดตัวลงมา ส่วนรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถบัสสีเขียวของทหารที่จอดอยู่บริเวณใกล้เคียงก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน มีคนถูกไฟคลอกและถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บหลายสิบราย
ทว่าระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลอยู่นั้น ได้เกิดระเบิดขึ้นอีก 1 ลูกหน้าร้านสะดวกซื้อที่เพิ่งเกิดระเบิด จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายนำระเบิดบรรจุในถังแก๊ส น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม ติดตั้งไว้ในรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน และจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสารเช่นกัน แรงระเบิดครั้งนี้สร้างความเสียหายมากกว่าจุดแรก ทั้งยังมีรถยนต์เก๋งติดแก๊สระเบิดตามอีก 1 ครั้ง
หลังเกิดเหตุมีรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดราว 10 ราย ในจำนวนนี้ 2 รายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุเนื่องจากถูกไฟคลอก และมีผู้บาดเจ็บรวม 69 ราย ความคืบหน้าหลังเจ้าหน้าที่เคลียร์พื้นที่เกิดเหตุจนปลอดภัยแล้ว นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้สั่งให้เก็บกวาดพื้นผิวถนน และตรวจสอบวัถตุระเบิดที่อาจมีซุกซ่อนอยู่อีก จากนั้นจึงได้ตั้งโต๊ะรับลงทะเบียนทั้งจากญาติผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้ที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือเยียวยาต่อไป สำหรับเจ้าของอาคารบ้านเรือนที่พังเสียหาย เจ้าหน้าที่ได้มอบปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้นก่อน
พบเบาะแส "คาร์บอมบ์" – แฉจุดเกิดเหตุเป็น "เซฟตี้โซน"
สำหรับความคืบหน้าทางคดี พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (ผบก.ภ.จว.ยะลา) ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อหาตัวกลุ่มคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เบื้องต้นพบว่ารถกระบะยี่ห้ออีซูซุที่คนร้ายใช้เป็นคาร์บอมบ์จุดแรกนั้น น่าจะเป็นของกลุ่มนายเปเล่ หรือรอฮิง ดาอีซอ ซึ่งเคยใช้รถคันนี้พ่นสัญลักษณ์ตราโล่ของตำรวจบริเวณข้างประตูรถ และนำไปใช้ก่อเหตุยิงถล่มจุดตรวจร่วมอาสารักษาดินแดน (อส.) และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่บ้านกาลอ ต.กาลอ อ.รามัน จ.ยะลา เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนรถกระบะยี่ห้อโตโยต้าที่คนร้ายใช้เป็นคาร์บอมบ์จุดที่ 2 นั้น เป็นรถที่คนร้ายโจรกรรมไปจากชุมชนย่านตลาดเก่า ในเขตเทศบาลนครยะลา เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมานี้เอง โดยคาดว่ารถยนต์ทั้งสองคันถูกนำไปประกอบเป็นคาร์บอมบ์ในพื้นที่รอบนอก ก่อนจะขับเข้ามาก่อเหตุในเขตเทศบาลนครยะลา ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการแจ้งเตือน
มีรายงานด้วยว่า ในวันเดียวกันนี้ ทางจังหวัดยะลาได้จัดกิจกรรมวันข้าราชการพลเรือน โดยในช่วงเช้ามีการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ และช่วงบ่ายมีกิจกรรมแข่งขันกีฬา ส่วนพื้นที่บริเวณถนนรวมมิตรนั้น เป็นย่านธุรกิจของเมือง เคยเกิดระเบิดอย่างรุนแรงมาแล้วหลายครั้ง โดยในสมัยที่ นายกฤษฎา บุญราช เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา (ปัจจุบันเป็นผู้ว่าฯสงขลา) ได้เคยประกาศให้เป็น "เซฟตี้โซน" (เขตปลอดภัย) มีการตั้งด่านตรวจเข้มการเข้าออกและการใช้เส้นทาง พร้อมจัดระเบียบการจราจรใหม่เป็นระบบวันเวย์ (เดินรถทางเดียว) แต่ชาวบ้านและผู้ประกอบการไม่ยินยอม กระทั่งมาเกิดเหตุอีกครั้งดังกล่าว
เปิด 11 รายชื่อผู้เสียชีวิต
สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิต ตรวจสอบล่าสุดถึงช่วงค่ำวันเดียวกัน มีทั้งสิ้น 11 ราย ประกอบด้วย 1.นางกรรณิกา บัวจันทร์ 2.นายสมัย ลีลา 3.นายสมเกียรติ พยากรณ์ 4.นายสุชาติ พรหมญาบ 5.ส.ต.อ.สุรชาติวัฒนพันธ์ 6.นางธีรนุช รอดทา 7.นางปราณี พิมพ์ปรุ 8.นางอ้อยใจ พิมพ์ปรุ 9.นางสมใจ ชูโรจน์ ที่เหลืออีก 2 รายเป็นชายไม่ทราบชื่อ ส่วนผู้บาดเจ็บมียอดสูงถึง 110 ราย มีทั้งที่อาการสาหัสและบาดเจ็บเล็กน้อย
บึ้มรองผู้กำกับแม่ลาน-พื้นที่นำร่องเลิก พ.ร.ก.
เมื่อเวลา 13.00 น.วันเดียวกัน หลังเกิดเหตุระเบิด 3 จุดกลางเมืองยะลา และก่อนเกิดเหตุคาร์บอมบ์ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพียงไม่นาน มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดที่บริเวณหน้าร้านขายข้าวแกง ชื่อร้านสุกัญญาอาหารตามสั่ง เลขที่ 136/16 หมู่ 4 บ้านนางโอ ต.แม่ลาน อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ซึ่งเปิดอยู่ในตึกแถวเล็กๆ มีร้านรวงกว่า 10 ห้อง ตั้งอยู่ปากทางเข้าที่ว่าการอำเภอแม่ลาน ห้องสมุด และโรงพัก สภ.แม่ลาน
หลังจากจอดรถเรียบร้อยแล้ว คนร้ายรายนั้นได้เดินไปนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่งซึ่งมีเพื่อนอีกคนสตาร์ทรถรออยู่ แล้วก็ขี่ออกไป คล้อยหลังไม่ถึง 1 นาที ได้เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวจากรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายนำไปจอดไว้ (มอเตอร์ไซค์บอมบ์) แรงระเบิดทำให้ พ.ต.ท จิตรการณ์ เกื้อก่อยอด รองผู้กำกับการฝ่ายป้องกันและปราบปราม (รอง ผกก.ป.) สภ.แม่ลาน ซึ่งกำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ภายในร้านพร้อมลูกค้าคนอื่นๆ รวม 6 คน ได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และนำคนเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลแม่ลาน โดยทุกคนอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว รวมทั้ง พ.ต.ท.จิตรการณ์ ด้วย
จากการตรวจจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ หมายเลขทะเบียน กพม 420 สงขลา อยู่สภาพแหลกละเอียดทั้งคัน คาดว่าคนร้ายประกอบระเบิดชนิดแสวงเครื่องซุกซ่อนไว้ใต้เบาะหรือในถังน้ำมัน แรงระเบิดยังทำให้รถกระบะสี่ประตูของ พ.ต.ท.จิตราการณ์ และรถยนต์ของพี่น้องประชาชนในละแวกดังกล่าวได้รับความเสียหายรวม 4 คัน โดยรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายนำไปติดตั้งระเบิด เป็นรถที่ถูกขโมยมาจากตลาดสะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อ 2 เดือนก่อน คาดว่าเป้าหมายต้องการทำร้ายรอง ผกก.ป.สภ.แม่ลาน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดบริเวณใกล้เคียงไปตรวจสอบเพื่อหาเบาะแสคนร้ายแล้ว
อนึ่ง อ.แม่ลาน เป็นอำเภอเดียวจาก 33 อำเภอในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เป็นพื้นที่นำร่องยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงโดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตั้งแต่ปลายปี 2553 ในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปัจจุบันประกาศเป็นพื้นที่ความมั่นคงตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551
ทหารแจงใต้ป่วนหนักตอบโต้รัฐเดินถูกทาง
พ.อ.ปริญญา ฉายดิลก โฆษกประจำตัวแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า เหตุระเบิดหลายจุดในวันเสาร์ที่ 31 มี.ค.เห็นได้ชัดว่าคนร้ายต้องการสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้เดินหน้าพัฒนาพื้นที่จนสามารถสร้างความไว้วางใจให้กับประชาชนได้ในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ดี ปัญหาในพื้นที่มีหลายมิติมาก แต่ที่สำคัญคือเรื่องยาเสพติด ซึ่ง ศอ.บต.และ กอ.รมน.ภาค 4 สน.กำลังเดินหน้าแก้ปัญหาอย่างจริงจัง นอกจากนั้น พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต.ก็กำลังเดินหน้าเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบอยู่ด้วย จึงมีการตอบโต้จากกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยโดยใช้ความรุนแรง
ยิงเอ็ม 79 ถล่มบ้าน "นัจมุดดีน"
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 23.30 น.วันศุกร์ที่ 30 มี.ค.คนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายหามะ วานิ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/1 หมู่ 3 ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี กระสุนปืนถูกบริเวณหน้าผากทะลุท้ายทอยเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะ นายหามะ วานิ พร้อมภรรยาและลูกชายวัยเพียง 5 ขวบ กำลังเดินอยู่บนถนนในหมู่บ้านโคกพันต้น หมู่ 7 ต.แม่ลาน อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบสังหาร
เวลา 02.40 น.วันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้เครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ยิงระเบิดใส่บ้านของ นายนัจมุดดีน อูมา อดีต ส.ส.นราธิวาสหลายสมัย เลขที่ 5 บ้านตลาดตันหยงมัส หมู่ 7 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทำให้หลังคาบ้านได้รับความเสียหาย แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุเช่นกัน
ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายสมพงษ์ อโนทัย อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ซอย 1 ศิริวัฒน์ ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา ได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับจากทำธุระในเขตเทศบาลนครยะลา กำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน เหตุเกิดบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 64/28 ซอยบุญสวัสดิ์ ถนนตรีมิตร ต.สะเตงนอก เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการลอบยิง
ส่วนที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกขนาด .38 ยิง นายสุพจน์ ยีจิ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/3 บ้านห้วยบอน หมู่ 2 ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะนายสุพจน์กำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่ในท้องที่บ้านห้วยบอน หมู่ 2 ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย มุ่งหน้ากลับบ้าน เบื้องต้นตำรวจตั้งประเด็นที่ความขัดแย้งส่วนตัว
บึ้มทหารพรานเจ็บ 2 ที่ระแงะ
ช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ 30 มี.ค.เวลา 08.20 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดดักสังหารทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 1107 (ร้อย.ทพ.1107) หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 11 เป็นเหตุให้มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ทราบชื่อคือ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ประสาน แก้วเขียว และ อส.ทพ.นันทวัฒน์ ก้องทอง เหตุเกิดขณะทหารพรานชุดดังกล่าวซึ่งมีกำลังพล 8 นาย กำลังลาดตระเวนเดินเท้าในท้องที่บ้านบองอ หมู่ 4 ต.บองอ อ.ระแงะ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
วันพฤหัสบดีที่ 29 มี.ค.เวลา 19.20 น.คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้ระเบิดขว้างแบบ เอ็ม 26 ขว้างใส่ป้อมตำรวจ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลบันนังสตา อ.บันนังสตา แต่โชคดีที่ลูกระเบิดไปติดกับตาข่ายที่เจ้าหน้าที่กั้นไว้เพื่อป้องกันที่ตั้ง จึงไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบ หรือกลุ่มวัยรุ่นขี่รถเร็วในพื้นที่ที่เพิ่งถูกกวาดจับเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา
ช่วงเย็นวันเดียวกัน คนร้าย 4 คนมีรถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิงเยาวชนอายุ 16 ปีและ 17 ปี ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนสายพระยาระแงะ บ้านตลาดตันหยงมัส หมู่ 7 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทำให้เยาวชนทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บ หลังก่อเหตุคนร้ายได้ชิงรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไปด้วย เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ หรือเป็นฝีมือของวัยรุ่นคู่อริ
ยิง จนท.องค์การสะพานปลา - ดับ อรบ.บาเจาะคาโรงเรียน
ช่วงเช้าวันเดียวกัน คนร้าย 4 คน มีรถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกขนาด 11 มม.ยิง นายนพพร วงษาคง อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่ธุรการองค์การสะพานปลา จ.ปัตตานี อยู่บ้านเลขที่ 286/58 หมู่ 8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี เสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะนายนพพรกำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนสราญรมย์ ท้องที่บ้านยูโย หมู่ 8 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน หลังเสร็จภารกิจเข้าเวรที่สำนักงานองค์การสะพานปลา
ก่อนหน้านั้นเมื่อวันพุธที่ 28 มี.ค.เวลา 20.00 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิง นายอับดุลเลาะ แมเร๊าะ อายุ 18 ปี อาสาสมัครรักษาหมู่บ้าน (อรบ.) อยู่บ้านเลขที่ 40/1 บ้านตันหยง หมู่ 4 ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตภายในโรงเรียนบ้านตันหยง หมู่ 4 ต.บาเระใต้ เหตุเกิดขณะที่นายอับดุลเลาะกำลังขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปที่โรงเรียนเพื่อเข้าเวรรักษาความปลอดภัย โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้ชิงรถจักรยานยนต์ของผู้ตายหลบหนีไปด้วย
วันอังคารที่ 27 มี.ค.เวลา 17.15 น.คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นายมูฮัมหมัด อับดุลลาเต๊ะ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 หมู่ 10 ต.สากอ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส และ นายอับดุลลอแม สาแม อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/4 หมู่ 2 ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ทำให้ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดขณะนายมูฮัมหมัดขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อเบนซ์ หมายเลขทะเบียน ฏต 8243 กรุงเทพมหานคร อยู่บนถนนเจริญเขต ซอย 5 ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยมีนายอับดุลลอแม และเพื่อนอีก 2 คนนั่งมาด้วย แต่เพื่อน 2 คนไม่ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจยังไมสรุปสาเหตุการลอบยิง
พบหลุมระเบิดเตรียมบึ้มที่ยะรัง
ด้านปฏิบัติของฝ่ายความมั่นคง เมื่อวันศุกร์ที่ 30 มี.ค.เวลา 08.30 น.ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารราบที่ 1333 (ร้อย.ร.1333) หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 21 ออกลาดตระเวนเส้นทางในพื้นที่ ต.สะดาวา อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อถึงบริเวณรอยต่อระหว่างท้องที่หมู่ 3 บ้านอีบุ๊ กับหมู่ 4 บ้านศาลาสอง ต.สะดาวา พบหลุมระเบิด 2 หลุม มีดินและหญ้าปิดทับไว้เพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ คาดว่าเป็นหลุมที่คนร้ายเตรียมลอบวางระเบิด เจ้าหน้าที่จึงกลบหลุมดังกล่าว และเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อหาเบาะแสคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
ช่วงวันอังคารที่ 27 มี.ค.ต่อเนื่องวันพุธที่ 28 มี.ค.เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้ใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกควบคุมตัว นายสุเด็ง อูมา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 2 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ตามหมายจับของศาลจังหวัดนราธิวาส ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน จากเหตุการณ์คนร้ายลอบยิงสถานีตำรวจยุทธศาสตร์ตันหยงลิมอ บ้านตอหลัง หมู่ 3 ต.ตันหยงลิมอ เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2552 นอกจากนั้นยังมีหมายจับและหมาย ฉฉ. ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อีกหลายหมาย
ต่อมา ทหารพรานได้ใช้อำนาจกฎอัยการศึกควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยอีกหลายรายในพื้นที่ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ ซึ่งมีหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อไปซักถามและพูดคุยปรับทัศนคติ นอกจากนั้นกำลังผสม 3 ฝ่ายยังเข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่บ้านกูจิงรือปะ หมู่ 4 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และได้เชิญตัวชายวัย 22 ปี ซึ่งเป็นบุคคลต้องสงสัยเกี่ยวโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบ ไปซักถามที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 อีกด้วย
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 สภาพบริเวณลานจอดรถชั้น B2 ของอาคารลีการ์เด้นส์พลาซ่า มีหลุมระเบิดขนาดใหญ่ รถยนต์เสียหายเพราะแรงระเบิดและเพลิงไหม้หลายสิบคัน (ภาพโดย สุเมธ ปานเพชร)
2 เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบความเสียหายของอาคารบ้านเรือนและทรัพย์สินอื่นๆ จากเหตุคาร์บอมบ์และมอเตอร์ไซค์บอมบ์ 3 ลูกซ้อนในย่านเศรษฐกิจกลางเมืองยะลา (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)