วัดอุณหภูมิ 45 วันกับระบบสธ.ไทย สู้การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ให้อยู่ในระดับต่ำ

เขียนวันที่

วันอาทิตย์ ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 13:47 น.

เขียนโดย

thaireform

หมวดหมู่

รายงาน-สกู๊ป | Isranews | สารคดีเชิงข่าว | สาธารณสุขและสุขภาพ

Tags

"เรือทุกลำที่เข้ามาสู่ทางเรือของไทย ทางด่านทำงานร่วมกับหน่วยงาานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบความเสี่ยงว่า ได้เดินทางไปประเทศที่มีการแพร่ระบาดหรือไม่ ช่วงระยะเวลา 14 วัน รวมถึงการคัดกรองจะทำอย่างเข้มข้น ทั้งขาเข้า และก่อนกลับขึ้นเรือไป เราทำด้วยความระมัดระวัง ทำตามมาตรฐาน และทำอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประเทศไทยอยู่ในสภาวะมีผู้ป่วยอยู่ในระดับต่ำอย่างนี้ต่อไป"

cov1602

เป็นเวลากว่า 45 วันแล้ว สำหรับการติดตามและป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาลไทย โดยกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งประเทศไทยถือว่า เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเสี่ยงสูงที่สุด เนื่องจากเป็นจุดศูนย์กลางของการเดินทางของคนจีน และคนในภูมิภาคเอเชีย

ขณะที่การแพร่ระบาดจากคนสู่คนเริ่มปรากฎชัดขึ้น เมื่อพบคนไทยติดเชื้อไวรัสนี้โดยที่ไม่เคยเดินทางไปประเทศจีนเลย

ในหลายประเทศก็เริ่มมีตัวเลขการแพร่ระบาดของโรคชัดเจนแล้ว แต่บ้านเรายังคงรักษาระดับการระบาดให้ต่ำอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้

หากดูตัวเลขทั่วโลก จะพบว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใกล้แตะ 7 หมื่นคน (ตัวเลข ณ 16 กุมภาพันธ์ 2563) เสียชีวิตเข้าใกล้หลัก 2 พันคน โดยผู้ป่วยพบมากที่สุด ยังคงอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่

การติดเชื้อในชุมชนนั้น นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ประเทศไทยจึงมีความเสี่ยง จึงได้เข้มมาตรการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศดังกล่าวทุกช่องทาง และเข้มมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 จัดอบรมให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านช่วยกันเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของโรค ถ่ายทอดความรู้ สู่ครอบครัว บุคคลใกล้ชิด และชุมชน เป็นเกราะป้องกันตนเอง ลดการระบาดของโรคฯ ในชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ ยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพแข็งแรง

"การที่เราเริ่มเจอคนไข้เริ่มป่วย โดยไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ ทำให้ไทยต้องเฝ้าระวังในประเทศ และผู้เดินทางที่เข้ามาจากต่างประเทศอย่างเข้มข้นต่อไป ซึ่งสถานการณ์ ถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 ณ เวลา 08.00 น. ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 19 ราย กลับบ้านแล้ว 15 ราย รวมสะสม 34 ราย"

นายแพทย์ธนรักษ์ กล่าวถึงเรือทุกลำที่เข้ามาสู่ทางเรือของไทย ทางด่านทำงานร่วมกับหน่วยงาานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบความเสี่ยงว่า ได้เดินทางไปประเทศที่มีการแพร่ระบาดหรือไม่ ช่วงระยะเวลา 14 วันก่อนเดินทางมาถึงประเทศไทยหรือไม่ รวมถึงการคัดกรองจะทำอย่างเข้มข้น ทั้งขาเข้า และก่อนกลับขึ้นเรือไป

"เรื่องพวกนี้เราทำด้วยความระมัดระวัง ทำตามมาตรฐาน และทำอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประเทศไทยอยู่ในสภาวะมีผู้ป่วยอยู่ในระดับต่ำอย่างนี้ต่อไป"

ประเด็นนี้ สอดคล้องกับ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญไวรัสวิทยา ที่ก่อนหน้านี้ออกมาชี้แนะถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสฯ ดังกล่าว ว่า หากบ้านไม่ทำอะไรเลย มีการแพร่ระบาดระบบสาธารณสุขไทยจะรับไม่ไหว หนทางเดียว คือ การป้องกันให้เต็มที่ ยึดเวลาการระบาดให้ยาวขึ้น คนไข้ต้องไม่เยอะ ค่อย ๆ รักษาไป แทนที่หมอต้องทำงาน "สั้น เยอะ หนัก" (อ่านประกอบ:ศ.นพ.ยง แนะไทยป้องกันการระบาดไวรัสอู่ฮั่น ยืดให้เต็มที่ - นานสุด จะสูญเสียน้อย)

สำหรับกรณีเรือสำราญ Westerdam ซึ่งทางรัฐบาลไทยตัดสินไม่ได้อนุญาตให้เทียบท่า ก่อนหน้านี้ และถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถูกต่อว่า ระบบป้องกันภัยทางสาธารณสุขบ้านเราดี แต่ไฉนกลับเลือกที่จะไม่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

จากข่าวล่าสุดสื่อมาเลเซีย อ้างรายงานของกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียเปิดเผยว่า พบหญิงชาวอเมริกันวัย 83 ปี ที่เดินทางไปกับเรือสำราญกับสามีวัย 85 ปี ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (อ่านประกอบ:อนุทิน ยันสาธารณสุขไทย พร้อมช่วยกัมพูชาป้องกันการระบาดไวรัสโควิด-19) ก็นับว่า กระทรวงสาธารณสุขของไทยตัดสินใจได้ถูกต้อง เพราะคำนึงถึงสุขภาพคนไทยเป็นหลัก

ปัจจุบัน กระทรวงสาธารณสุข มิได้นิ่งนอนใจ ข่าวว่า ได้มีการประสานข้อมูลผู้โดยสารเรือสำราญลำนี้ทั้งลำส่งให้กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อร่วมมือในการเฝ้าระวังแล้ว

"วันนี้มีผู้เดินทางเข้าประเทศมาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพิ่มอีก 35 เป็นชาวต่างชาติ 34 ราย เพื่อต่อเครื่องบินไปยังประเทศปลายทางอื่น และเป็นคนไทย 1 ราย ทุกคนได้รับการตรวจคัดกรองไม่มีไข้ สำหรับคนไทยที่เดินทางเข้าประเทศจะมีการดูแลติดตามเฝ้าระวังตาม มาตรฐานป้องกันควบคุมโรค รวมแล้วขณะนี้มีคนไทยจากเรือสำราญดังกล่าว 2 คน ทุกคนไม่มีไข้ จะต้องมีการติดตามเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องจนครบ 14 วัน"

ขณะที่ The Center for Systems Science and Engineering (CSSE) มหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอปกินส์ (Johns Hopkins) ซึ่งสร้างแผนที่ข้อมูลการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 โชว์ให้เห็น ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ พบว่า 10 อันดับแรก ได้แก่ จีน ตามด้วย สิงคโปร์ ฮ่ฮงกง ญี่ปุ่น ไทย เกาหลีใต้ มาเลเซีย ไต้หวัน เยอรมนี และเวียดนาม

ขณะที่พบผู้ป่วยติดเชื้อเสียชีวิตนอกประเทศจีน แล้ว ทั้งที่ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น ฟิลิปินส์ ฮ่องกง

วิกฤตโรคไวรัสโควิด-19 ไม่มีใครรู้จะยืดเยื้อยาวนานแค่ไหน แต่หากยืดเยื้อ เป็นปี ก็หวังว่า เราจะสูญเสียน้อยที่สุด...

cov16027