- Home
- Isranews
- ตะกร้าข่าว
- โปรดเกล้าฯพ.ร.บ.อัยการฉบับใหม่ 65ปีเป็นอาวุโส นั่งเก้าอี้บริหาร-ก.อ.ไม่ได้
โปรดเกล้าฯพ.ร.บ.อัยการฉบับใหม่ 65ปีเป็นอาวุโส นั่งเก้าอี้บริหาร-ก.อ.ไม่ได้
โปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการฉบับใหม่ เปลี่ยนบทบาท 65 ปีขึ้นไปดำรงตำแหน่งอาวุโส ทำหน้าที่ทางวิชาชีพอย่างเดียว ดำรงตำแหน่งบริหาร-เป็น ก.อ.ไม่ได้
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2560 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 โดยระบุเหตุผลในการประกาศใช้คือ มีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนให้ข้าราชการอัยการที่มีอายุครบ 65 ปี ไปดำรงตำแหน่งอัยการอาวุโส ทำหน้าที่ในทางวิชาชีพพนักงานอัยการ โดยไม่ดำรงตำแหน่งด้านบริหารจนกว่าจะพ้นราชการ นอกจากนั้นสมควรปรับปรุงบทบาทและอำนาจหน้าที่ของอัยการอาวุโสให้เหมาะสมยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องตรา พ.ร.บ.ฉบับนี้
----
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคําแนะนําและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติทําหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560”
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการพ.ศ. 2553 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 22 ข้าราชการอัยการซึ่งดํารงตําแหน่งอัยการอาวุโสไม่มีสิทธิได้รับเลือกเป็นกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิใน ก.อ.”
มาตรา 4 ให้ยกเลิกความใน (4) ของวรรคหนึ่งของมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(4) เป็นกรรมการอัยการโดยตําแหน่ง ได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งอัยการอาวุโส หรือพ้นจากตําแหน่งข้าราชการอัยการ ในกรณีที่เป็นกรรมการอัยการตามมาตรา 18 (3) (ก)”
มาตรา 5 ให้ยกเลิกความในมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการพ.ศ. 2553 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา 39 ข้าราชการอัยการซึ่งมีอายุครบหกสิบปีขึ้นไปในปีงบประมาณใดอาจขอไปดํารงตําแหน่งอัยการอาวุโสได้ หากเป็นผู้ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่มาแล้วไม่น้อยกว่ายี่สิบปีในปีงบประมาณก่อนปีงบประมาณที่จะขอไปดํารงตําแหน่ง โดยให้แจ้งเป็นหนังสือต่ออัยการสูงสุดไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันก่อนเริ่มปีงบประมาณที่จะดํารงตําแหน่งอัยการอาวุโสข้าราชการอัยการซึ่งมีอายุครบหกสิบห้าปีในปีงบประมาณใด ให้พ้นจากตําแหน่งที่ดํารงอยู่เมื่อสิ้นปีงบประมาณนั้น และให้ไปดํารงตําแหน่งอัยการอาวุโสจนกว่าจะพ้นจากราชการตามมาตรา 56”
มาตรา 6 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 39/1 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553
“มาตรา 39/1 ข้าราชการอัยการซึ่งจะมีอายุครบหกสิบห้าปีในปีงบประมาณใด ให้ ก.อ. จัดให้มีการประเมินสมรรถภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการอัยการในปีงบประมาณนั้น แล้วเสนอผลการประเมินให้ ก.อ. พิจารณาประกอบการแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งต่อไป หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินสมรรถภาพในการปฏิบัติหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามระเบียบที่ ก.อ. กําหนด”
มาตรา 7 ให้ยกเลิกความในวรรคสองของมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้าราชการอัยการซึ่งดํารงตําแหน่งอัยการอาวุโสจะได้รับแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งหรือรักษาการในตําแหน่งตามมาตรา 32 อีกไม่ได้ รวมทั้งไม่อาจเป็นผู้รักษาราชการแทนหรือปฏิบัติราชการแทน”
มาตรา 8 ให้ยกเลิกมาตรา 104 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553
มาตรา 9 ข้าราชการอัยการซึ่งดํารงตําแหน่งอัยการอาวุโสผู้ใดเป็นกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ผู้นั้นอยู่ในตําแหน่งต่อไปจนกว่าจะครบกําหนดวาระ
มาตรา 10 มิให้นําบทบัญญัติมาตรา 39/1 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2553 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้ มาใช้บังคับแก่ข้าราชการอัยการที่ดํารงตําแหน่งอัยการอาวุโสหรือผ่านการประเมินสมรรถภาพในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งอัยการอาวุโสอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา 11 ให้อัยการสูงสุดรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี