ครม.ไฟเขียวพัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศ4.7พันล.

ครม. เห็นชอบโครงการพัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศพร้อมอนุมัติกรอบวงเงินสนับสนุน 5 ปีจำนวน 4.7 พันล้านบาท

ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบโครงการพัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยมีกรอบวงเงินสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์ความเป็นเลิศ 11 ศูนย์ ระยะเวลา 5 ปี จำนวน 4,720 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวมีขอบข่ายการดำเนินงานที่มุ่งเน้นการสร้างความเป็นเลิศจากการวิจัย เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ตามความก้าวหน้าทางวิชาการในการพึ่งพาตนเอง เพื่อประยุกต์ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ และเป็นการเพิ่มสมรรถภาพการแข่งขันของประเทศในเวทีสากล อีกทั้ง ศูนย์ความเป็นเลิศต้องสามารถเป็นที่พึ่งด้านความรู้และปัญญาให้กับสังคม รวมทั้งเป็นแหล่งวิชาการที่มีความน่าเชื่อถือสูง ทั้งนี้ ศูนย์ความเป็นเลิศดังกล่าวยังเป็นเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการระหว่างหน่วยวิชาการ จำนวน 68 หน่วยที่กระจายอยู่ตามสถาบันอุดมศึกษา 25 แห่งทั่วประเทศและอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของสำนักพัฒนาบัณฑิตศึกษาและวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สบว.)

สำหรับแผนงานและเป้าหมายในการดำเนินงานมี ดังนี้ 1.การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม จะมีทรัพยสินทางปัญญา จำนวน 125 ชิ้นงาน มีผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี 110 ชิ้นงาน การถ่ายทอดเทคโนโลยีและบริการวิชาการ1,185 โครงการ 2.การวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้ จะมีผลงานตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ 2,940 ชิ้นงาน ผลงานตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติ 1,360 ชิ้นงาน ผู้ช่วยวิจัยระดับปริญญาดุษฎีบัณฑิต 1,290 ทุน และผู้ช่วยวิจัยระดับปริญญามหาบัณฑิต2,620 ทุน พัฒนาครูสอนคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ 750 ทุน

“ในการประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้กำชับว่าอยากเห็นศูนย์ความเป็นเลิศทำโครงการที่มุ่งสู่การต่อยอดเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและเกษตรกรรมของประเทศให้มากขึ้น”ดร.กฤษณพงศ์ กล่าว

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบตามที่ ศธ.เสนอแต่งตั้งข้าราชการระดับ10 จำนวน 2 ราย ได้แก่ นายสุภัทร จำปาทอง ผู้ตรวจราชการ ศธ.เป็น รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) และ นายอนุสรณ์ ฟูเจริญ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็น รองเลขาธิการ กพฐ.

 ขอบคุณข่าวจาก