ทุ่ม 6,500 ล้าน สังคายนาโครงข่ายคมนาคมแก้น้ำท่วมใต้

กระทรวงคมนาคมทุ่ม 6,500 ล้านแก้น้ำท่วมภาคใต้ระยะยาว ทั้งสร้างเขื่อนบล็อกน้ำรอบสนามบินนครศรีฯ-ทำรางรถไฟยกระดับหนีน้ำ ขยายคอสะพาน ทำกำแพงคอนกรีตกันถูกซัดขาด ศึกษาเส้นทางเลียบชายทะเลเป็นถนนสายรองลงภาคใต้

เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ  รมว.คมนาคมเป็นประธานเปิดงาน  “มหกรรมฟื้นฟูใต้คนละไม้คนละมือ” มีผู้เกี่ยวข้องร่วมงานอาทิ นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) นายเสรีศุภราทิตย์  ผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค ในงานจัดเสวนาหัวข้อ “การฟื้นฟูระบบคมนาคม ขนส่งหลังน้ำลดในภาคใต้”พร้อมเปิดกิจกรรมเปิดรับบริจาคสิ่งของจากหน่วยภาครัฐและภาคเอกชนด้วย

นายอาคม กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ล่าสุดน้ำลดระดับเกือบหมดแล้ว ต่อไปกระทรวงคมนาคมต้องเร่งฟื้นฟูเส้นทางคมนาคมต่างๆ เช่น ถนนทางหลวง ถนนทางหลวงชนบท ทางรถไฟและสนามบินนครศรีธรรมราช ที่ได้รับผลกระทบ เบื้องต้นได้ประเมินความเสียหายทั้งหมด 6,500 ล้านบาท โดยแผนป้องกันน้ำท่วมระยะยาวสนามบินนครศรีธรรมราชที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้จัดงบ 400 ล้านบาทสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมรอบสนามบิน ประสานกรมชลประทานจัดเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ระบายน้ำหากเกิดปัญหาน้ำท่วมสนามบิน 

ส่วนทางรถไฟต้องปรับเส้นทางที่น้ำไหลผ่านให้เป็นทางยกระดับป้องกันน้ำท่วมราง กรมทางหลวง(ทล.) และกรมทางหลวงชนบท(ทช.) ให้แก้ไขแบบสะพานทั่วประเทศ ที่มีอายุเกิน 30-40 ปี ปรับปรุงไม่ให้ตอม่อขวางทางน้ำ ขยายคอสะพานให้ยาวขึ้นลดปัญหาคอสะพานขาดและสร้างกำแพงคอนกรีตป้องกันน้ำกัดเซาะ สร้างเขื่อนกั้นน้ำ รวมทั้งสร้างท่อระบายน้ำบนถนนให้มากขึ้น พร้อมให้นโยบายทล. และ ทช. ศึกษารูปแบบถนนเลียบชายทะเล  เป็นถนนสายรอง คู่ขนานทางหลวงหมายเลข4 (ถนนเพชรเกษม) ถนนหลักสายเดียวที่ลงภาคใต้ มีข้อแม้ห้ามกระทบกับพื้นที่ชุมชน กระทบพื้นที่อุทยานและไม่บรรจบกับถนนหมายเลข4 จะได้มีเส้นทางเลี่ยงกรณีน้ำท่วมถนน 

นายอาคม กล่าวต่อว่า  นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมจะร่วมมือกับกรมชลประทานด้วยการสร้างแผนที่น้ำคล้ายกับแผนที่ถนน  หลักการคือนำเส้นทางน้ำไหลเทียบกับแผนที่ถนนทางหลวง และทางหลวงชนบท ใช้ประชาสัมพันธ์ประชาชน  หากเกิดเหตุฉุกเฉิน เส้นทางขาด จะได้วางแผนใช้เส้นทางอื่นได้ โดยนำร่องเส้นทางน้ำภาคใต้ก่อนจัดทำแผนที่ทั่วประเทศ ใช้เวลาศึกษา 3-6 เดือน ส่วนแผนฟื้นฟูทั้งหมดใช้เวลาศึกษา 6 เดือนมาจัดทำแผนดำเนินการแก้ไขจุดที่เป็นปัญหาต่อไป

ขอบคุณข่าวจาก