7 หน่วยงาน จับมือสร้างนวัตกรรมพัฒนาอาหารสุขภาพเพื่อสังคมผู้สูงอายุ
7 หน่วยงาน จับมือสร้างเครือข่ายกำหนดทิศทางการวิจัยสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตในสังคมสูงวัย พร้อมเร่งผลักดันให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ ตั้งเป้าให้ผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายได้จริงในเชิงพาณิชย์
เมื่อวันที่ 22 มี.ค 7 หน่วยงานภาครัฐ ประกอบด้วย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์กรมหาชน) (สวก) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.)มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ มหาวิทยาลัยมหิดล จับมือสร้างเครือข่ายแคร์ฟู้ด เพื่อจัดทำเส้นทางการพัฒนาเทคโนโลยี (Technology Road Mapping) กำหนดทิศทางการวิจัยสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตในสังคมสูงวัยของประเทศไทย และผลักดันให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ผู้ประกอบการสามารถผลิตและจำหน่ายได้จริงในเชิงพาณิชย์ ณ ห้องคอนเวนชั่น A และ B ชั้น โรงแรมแอมบาสเดอร์ สุขุมวิท 11 กรุงเทพฯ
ดร.จันทรวิภา ธนะโสภณ รองผู้อำนวยการ สกว. กล่าวว่า สกว.ได้ตระหนักและให้ความสำคัญแก่การสนับสนุนการวิจัย ในประเด็นการศึกษาการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ เพราะขณะนี้ประเทศไทยมีประชากรผู้สูงวัยอยู่ในอัตราเพิ่มขึ้นสูงมาก ประเทศไทยจึงต้องเตรียมความพร้อมทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องของอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นพื้นฐานที่ต้องคำนึงถึง เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพและมีความสุข และเพื่อให้เกิดเทคโนโลยีและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารและอื่นๆที่เกี่ยวข้องในเชิงพาณิชย์และเหมาะสมกับผู้สูงอายุในแต่ละกลุ่ม ได้แก่ กลุ่ม Pre-Aging ที่มีอายุตั้งแต่ 40-65 ปี กลุ่มผู้สูงอายุที่มีสรีระร่างกายเสื่อมตามวัย และกลุ่มผู้สูงอายุที่มีโรค ซึ่งการพัฒนานวัตกรรมต่างๆ จะดำเนินร่วมกับแพทย์ นักโภชนาการ ผู้ประกอบการ นักวิจัย และจะทำการทดสอบจริงกับผู้สูงอายุแต่ละกลุ่ม เพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่สามารถผลิตได้ในเชิงพาณิชย์และผู้บริโภคพึงพอใจ อีกทั้งเพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถบริโภคอาหารที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพ โดยยังคงรสชาติแบบเดิมที่เคยได้รับถึงแม้สภาวะร่างกายจะเปลี่ยนแปลงไป
“ความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมครั้งนี้ จะเป็นกลไกหนึ่งในการเตรียมความพร้อมของประเทศไทยในการก้าวสู่สังคม Aging Society ต่อไป”
ด้าน นางสาวกุลวรา โชติพันธุ์โสภณ รองผู้อำนวยการ สวก. กล่าวว่า สวก. ได้รับมอบหมายจากเครือข่ายองค์กรบริหารงานวิจัยแห่งชาติ (คอบช.) ให้บริหารจัดการทุนวิจัยกลุ่มเรื่องอาหารเพื่อเพิ่มคุณค่าและความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคและการค้า ซึ่งปัจจุบันมีวิจัยอยู่ 4 งานวิจัย คือ 1.การพัฒนาอาหารหลักพื้นบ้านให้มีคุณค่าทางโภชนาการ ความปลอดภัยและได้มาตรฐาน 2.การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับกลุ่มวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันโรคเรื้อรัง เช่น โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไต และผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการกลืนและการบริโภค 3.การนำวัสดุอาหารที่เหลือ จากกระบวนการผลิตอาหารมาใช้ปะโยชน์ 4.การบริหารจัดการองค์ความรู้ โดยจากงานวิจัยที่เสร็จสิ้นแล้ว เพื่อเป็นประโยชน์ทั้งในแง่ของการนำไปต่อยอด และการนำไปใช้กับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่ง (สวก.) มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับกลุ่มทุกวัย ที่มีคุณค่าทางโภชนาการเหมาะสมกับแต่กลุ่มวัย ปลอดภัย และได้มาตรฐานสำหรับผู้บริโภค รวมทั้งพร้อมผลักดันผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์
ทั้งนี้ เครือข่าย CARE FOOD จะดำเนินงานร่วมกันภายใต้แนวคิด “Health Food for Good Health” โดยในงานมีการนำเสนอตัวอย่างผลงานวิจัยผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อผู้สูงอายุมากกว่า 30 ผลงาน อาทิ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารฟรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์จากพืช ผลิตภัณฑ์อาหารผู้สูงอายุที่มีภาวะอ้วนลงพุง สารสกัดจากลูกเดือยต้านมะเร็ง อาหารข้นหนืดตำรับไทยสำหรับผู้สูงอายุที่กลืนลำบาก ผลิตภัณฑ์อาหาร Low GI และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนผสมของเอนไซม์ที่ช่วยย่อย เป็นต้น และยังมีตัวอย่างสินค้าอาหารสำหรับผู้สูงอายุจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้เห็นเป็นไอเดีย
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการเจรจาจับคู่ธุรกิจ ระหว่างผลงานวิจัยที่พร้อมถ่ายทอดกับผู้ประกอบการ เพื่อให้เกิดการต่อยอดผลิตจริงในเชิงพาณิชย์ต่อไป