ลามค่าอาหารถวายเพล-จัดสงกรานต์วัดดัง! สตง.สั่งเรียกเงินเทศบาลทับคล้อคืนล้านเศษ

ไม่หยุดแค่ปมอนุมัติเมียดูงานต่างปท.-ใช้รถหลวง! สตง. สั่งเทศบาลตำบลทับคล้อ เรียกคืนเงินอุดหนุนค่าถวายเพลพระสงฆ์-จัดงานสงกรานต์ วัดอารามหลวง อีกกว่าล้านเศษ ชี้ไม่ใช่หน้าที่ -เบิกจ่ายซ้ำซ้อน  

เทศบาลตำบลทับคล้อ อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร มิได้ถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบปัญหากรณี นายอัศม์เดช บูรนนท์ธวัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลทับคล้อ อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เซ็นอนุมัติให้ นางรัชต์วดี บูรนนท์ธวัฒน์ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลทับคล้อ ภรรยาเดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศเยอรมันนี เช็ก สโลวัค ฮังการี และออสเตรีย ในช่วงวันที่ 19-27 ก.พ. 2556 ทั้งที่ไม่มีอำนาจ และกรณี นายอัศม์เดช บูรนนท์ธวัฒน์ นำรถยนต์ส่วนกลางมาใช้ส่วนตัวเท่านั้น หากแต่ยังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่วัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง ในการจัดกิจกรรมและงานต่างๆ ในช่วงปี 2553-2555 และถูกสั่งเรียกคืนเงินเป็นจำนวนล้านเศษด้วย (อ่านประกอบ : เบื้องลึก! จว.พิจิตรชง‘มท.1’ปลดนายกฯทับคล้อ ปมดูงาน&ใช้รถหลวง-8เดือนแล้ว ไฉนเรื่องเงียบ?)

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในช่วงปลายปี 2557 สตง. ได้ส่งข้อสังเกตเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณของเทศบาลตำบลทับคล้อ แจ้งให้ นายกเทศมนตรีตำบลทับคล้อ ได้รับทราบ โดยมีประเด็นเกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่วัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง จำนวน 3 กรณี คือ 

1. การเบิกจ่ายเงิน เมื่อวันที่ 22 ก.พ.2553 เพื่ออุดหนุนให้แก่วัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง จำนวน 9 แสนบาท ตามโครงการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ตรุษไทย ซึ่งเทศบาลได้จัดงานประเพณีสงกรานต์ ณ วัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวงเช่นกัน โดยเบิกจ่ายเงินเป็นจำนวน 800,000 บาท เพื่อจ่ายค่าดนตรี นักร้อง หางเครื่อง ถึงแม้ว่าจะเป็นคนละกิจกรรมกับรายการที่วัดใช้จ่ายจากเงินอุดหนุนก็ตาม แต่รายการดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่ร่วมกัน เช่น การจ้างนักดนตรี นักร้อง ต้องมีเวที และเครื่องเสียง ดังนั้น กิจกรรมดังกล่าวถือเป็นกิจกรรมเดียวกัน ซึ่งเทศบาลสามารถดำเนินการเองได้ การอุดหนุนเงินให้วัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง และการจัดงานประเพณีสงกรานต์ของเทศบาล จึงเป็นการจัดงานเดียวกัน ดังนั้น การที่เทศบาลอุดหนุนเงินให้กับวัดจึงเป็นการซ้ำซ้อนกัน 

2. การเบิกจ่ายเงินเมื่อวันที่ 11 เม.ย.2554 เพื่ออุดหนุนให้แก่วัดมงคลทบคล้อ พระอารามหลวง จำนวน 5 แสนบาท ตามโครงการจัดงานเทศบาลสงกรานต์วัดมงคลทับคล้อ ประจำปี 2554 ซึ่งเทศบาลได้จัดงานประเพณีสงกรานต์ที่วัดแห่งนี้เช่นกัน โดยเบิกจ่ายเงินเป็นจำนวน 258,000 บาท ซึ่งการที่เทศบาลอุดหนุนให้กับวัดจึงเป็นการซ้ำซ้อนกัน เพราะเทศบาลสามารถดำเนินการเองได้ ไม่จำเป็นต้องเบิกจ่ายเงินอุดหนุนแก่วัดเพื่อร่วมจัดงานแต่อย่างใด  

3. การเบิกจ่ายเงิน จำนวน 2 หมื่นบาท เมื่อวันที่ 19 พ.ย.2555 ตามโครงการส่งเสริมจารีตประเพณีศิลปวัฒนธรรมด้านต่างๆ งานกฐินพระราชทาน ประจำปี 2555 เพื่อจ่ายเป็นค่าจ้างเหมาประกอบอาหารสำหรับถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์และผู้เข้าร่วมงาน ณ วัดมงคลทับคล้อ พระอารามหลวง ซึ่งการเบิกจ่ายเงินดังกล่าว มิใช่ภารกิจที่อยู่ในอำนาจของเทศบาล จึงถือเป็นการเบิกจ่ายที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 

เบื้องต้น สตง. พิจารณาแล้วเห็นว่า การที่เทศบาลทับคล้อเบิกจ่ายเงินเป็นค่าจ้างเหมาประกอบอาหาร และจัดงานทั้ง 3 กรณี รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่าล้านบาทเศษ เป็นการดำเนินการที่ไปไม่ถูกต้อง และขอให้ส่งเงินคืนคลังเทศบาลตำบลทับคล้อให้เสร็จสิ้น หากนายกเทศมนตรีทับคล้อ หรือผู้บังคับบัญชา หรือผู้ควบคุมกำกับดูแล หรือผู้รับผิดชอบละเลยไม่ดำเนินการ อาจมีความผิดตามนัยมาตรา 63 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 ด้วย (http://www.oag.go.th/sites/default/files/files/about-us/oag-2542.pdf)