เลขาฯ ป.ป.ช.สั่งเร่งสางปม หจก.คอนเทมโพรารีฯลูกบิ๊กติ๊กคว้างานรัฐ

เขียนวันที่

วันจันทร์ ที่ 18 มิถุนายน 2561 เวลา 13:30 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

Isranews | ข่าว | Investigative | จัดซื้อจัดจ้าง

Tags

เลขาฯ ป.ป.ช. สั่งเร่งรัดเดินหน้าแสวงหาข้อเท็จจริงปม หจก.คอนเทมโพรารี คว้างานรัฐกว่า 305 ล้านแล้ว ชี้สังคมให้ความสนใจ จนท.ตัดทิ้งประเด็นใช้อิทธิพล ‘พ่อ’ รับงาน เหตุพยานหลักฐานไม่พอ เหลือแค่ประเด็นมี-ไม่มีศักยภาพในการทำงานเท่านั้น

PIC worawit 18 6 61 1

จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่ระหว่างแสวงหาข้อเท็จจริง กรณี หจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น ของนายปฐมพล จันทร์โอชา บุตรคนโต พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีตแม่ทัพภาคที่ 3 กรณีเข้าไปรับงานของหน่วยงานรัฐหลายแห่ง รวมถึงกองทัพภาคที่ 3 ตั้งแต่ช่วงที่ พล.อ.ปรีชา ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 3 จนถึงปัจจุบัน (ระหว่างวันที่ 7 พ.ค. 2557-ช่วงเดือน มี.ค. 2561) วงเงินรวมกว่า 305 ล้านบาทนั้น (อ่านประกอบ : พลิกเงื่อนปม หจก.ลูก‘ปรีชา’ตั้งในค่าย-คว้างานกองทัพ ป.ป.ช.สอบ2ปีไม่คืบหน้า? )

เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวระดับสูงในสำนักงาน ป.ป.ช. ว่า ปัจจุบันขั้นตอนยังอยู่ระหว่างการแสวงหาข้อเท็จจริงอยู่ โดยรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวมาตั้งแต่ช่วงปี 2559 ทั้งนี้กำลังแสวงหาพยานหลักฐานเพื่อรวบรวมส่งให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาว่ามีมูล หรือไม่มีมูล

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2561 ที่ผ่านมา นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยสั้น ๆ ถึงกรณีนี้ว่า ขณะนี้ได้สั่งการเร่งรัดไปยังเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบเรื่องนี้แล้วว่า ให้เร่งดำเนินการแสวงหาพยานหลักฐานทั้งหมดโดยเร็ว เนื่องจากเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน

เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ได้เข้าไปตรวจสอบที่ตั้งของ หจก.คอนเทมโพรารีฯ ที่แจ้งตอนก่อตั้งว่า อยู่ภายในค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ (กองทัพภาคที่ 3) แล้ว ตกลงที่ก่อตั้งอยู่ในค่ายทหารหรือไม่ และมีลักษณะอย่างไร นายวรวิทย์ กล่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียด อยู่ในชั้นการแสวงหาข้อเท็จจริง ต้องรอการรวบรวมข้อมูลให้ครบถ้วนก่อน แต่ยืนยันว่า ได้สั่งการเร่งรัดให้ทำเรื่องนี้โดยเร็วแล้ว

ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี หจก.คอนเทมโพรารีฯ มีอยู่ 2 ประเด็น คือ 1.หจก.แห่งนี้ตั้งในค่ายทหาร และเจ้าของเป็นลูกนายทหารระดับสูง ตรงนี้มีการแอบอ้างชื่อ หรือใช้อิทธิพลเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ในการเข้าไปรับงานจากหน่วยงานรัฐหรือไม่ 2.หจก.แห่งนี้ มีศักยภาพดำเนินงานจริงหรือไม่ เพราะข้อเท็จจริงที่ตกเป็นข่าวคือ ช่วงที่รับงานหน่วยงานรัฐไปแล้วกว่า 168 ล้านบาท มีสินทรัพย์แค่อาคาร 1 แห่ง และรถยนต์ยี่ห้อซูซุกิ 1 คันเท่านั้น

ต่อมาช่วงปลายปี 2560 แหล่งข่าว เปิดเผยอีกครั้งว่า คณะทำงานแสวงหาข้อเท็จจริง สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ตัดประเด็นแรก คือ หจก.ตั้งในค่ายทหาร และอาจแอบอ้างชื่อนายทหารระดับสูงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์เข้าไปรับงานหน่วยงานรัฐต่าง ๆ ทิ้งไป เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ เหลือแค่แสวงหาข้อเท็จจริงประเด็น หจก.แห่งนี้มีศักยภาพรับงานของรัฐหรือไม่เท่านั้น