ไร้ชื่อ 'ฟิล์ม' ร่วมถือหุ้นแล้ว! ย้อนดูข้อมูล บ.เพย์ออลฯ ในวันถูกอัยการยื่นฟ้องคดีธุรกิจ

"...ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ย้อนกลับไปตรวจสอบข้อมูล บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด พบว่า ยังไม่ได้แจ้งเลิกกิจการ แต่มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการและโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ นาย ศราวุฒิ นนทะภา ปรากฎชื่อเป็นกรรมการผู้มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียว รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 19 เมษายน 2561 นาย ศราวุฒิ นนทะภา ถือหุ้นใหญ่สุด 70 % นาย ธเนศ จัตวาพรวนิช นาย ภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ ถืออยู่คนละ 10 % นางสาว กัญญาลัคน์ ภัคเครือพันธุ์ และ นาย สมภพ ปั้นศรี ถืออยู่คนละ 5 % นำส่งข้อมูลงบการเงิน ณ 31 ธันวาคม 2558 แจ้งว่ามีรายได้รวม 7,964,701.75 บาท รวมรายจ่าย 27,605,565.26 บาท ขาดทุนสุทธิ 19,693,410.30 บาท ไม่ปรากฎชื่อ 'ฟิล์ม-รัฐภูมิ' และคนในครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว..." 

"เห็นหัวข้อข่าว ตกใจทุกที เขียนดูน่ากลัวตลอดเลยนะครับ จริงๆมันคือเรื่อง ตั้งแต่ปีที่แล้วครับ ก็แค่ไปรับทราบข้อกล่าวหาครับ การเป็นดาราแล้วมาทำธุรกิจ ย่อมเป็นที่จับตาของสังคม และธุรกิจต่างๆของผมที่ผ่านมาก็เป็นเรื่องสร้างสรรค์ทางการตลาด หรือเกี่ยวของกับนวัตกรรมใหม่ๆ แต่แน่นอนมันก็มีเรื่องกฎหมายให้เราต้องคำนึง เรียนรู้และเป็นบทเรียนเยอะเยะไปหมด"

"ที่ผ่านมา ผมได้ดำเนินการแก้ไขตามคำแนะนำของภาครัฐทุกอย่างแล้ว จนวันนี้ธุรกิจของผมมีความสมบูรณ์มากขึ้นในเรื่องใบอนุญาตต่างๆ แต่ทั้งนี้ผมก็ต้องยืดอกรับในสิ่งที่อาจผิดพลาดไปบ้างที่ผ่านมา วันนี้ผมโตขึ้นและกำลังจะทำประโยชน์ให้สังคมที่กว้างขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น ผมสัญญาว่า จากนี้ไปผมจะทำธุรกิจของผมให้ตอบโจทย์ในการช่วยพี่น้องคนไทยที่ผมรักให้ได้มากที่สุด ให้สมกับที่สังคมได้มอบสิ่งดีๆให้ผมเสมอมา ฝากบอกต่อกันด้วยนะครับ"

คือ ข้อความ ของ 'ฟิล์ม' หรือ รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ดารานักร้องนักแสดงชื่อดัง ที่เปิดใจผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว @filmrattapoom หลังปรากฎเป็นข่าว ในช่วงเช้าวันที่ 17 ต.ค. 2561 ถูกพนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด ที่ฟิล์มเป็นหนึ่งในกรรมการบริษัท โดยร่วมตกเป็นจำเลยในความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันประกอบธุรกิจ บัตรชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้รับอนุญาต”

โดยจำเลยทั้งหมดให้การรับสารภาพไม่ต่อสู้คดี และศาลมีคำสั่งสืบเสาะฯ โดยให้พนักงานคุมประพฤติ สืบเสาะ ประวัติครอบครัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน และอื่นๆ ของพวกจำเลย แล้วรายงานให้ศาลทราบ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณา และนัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ ในวันที่ 6 ธันวาคม เวลา 09.00 น.ขณะที่ญาติได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 2 แสนบาทเพื่อขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยประกันตัวไป โดยตีราคาประกันคนละ 2 แสนบาท (อ้างอิงข่าวส่วนนี้จากแนวหน้า https://www.voicetv.co.th/read/HJVtJoSjX)

สำหรับที่มาที่ไปของคดีนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ ระบุว่า ได้ตรวจสอบพบว่า บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด ให้บริการแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือภายใต้ชื่อ payall โดยให้ผู้ใช้บริการสมัครเป็นสมาชิกในแอปพลิเคชัน และเติมเงินล่วงหน้าเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำ e-Money ดังกล่าว ไปใช้ในการชำระค่าสินค้าหรือบริการจากร้านค้าต่างๆ ที่กำหนดซึ่งมีลักษณะเป็นการให้บริการ e-Money อันเข้าข่ายเป็นการประกอบธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2544 ประกอบพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการควบคุมดูแลธุรกิจบริการการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2551 และประกาศคณะปฎิวัติ ฉบับที่ 58 ประกอบประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง กิจการที่ต้องขออนุญาตตามข้อ 5 แห่ง ประกาศของคณะปฎิวัติ ฉบับที่ 58 ( การประกอบธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์) ซึ่งเป็นความผิดและมีโทษตามกฎหมายดังกล่าว

เบื้องต้น ธปท. ได้ดำเนินการร้องทุกกล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับ บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด และบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2560 ในความผิดตามกฎหมายดังกล่าว

ขณะที่สำนักข่าวอิศรา เคยตรวจสอบข้อมูลบริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด พบว่า จดทะเบียน 29 กุมภาพันธ์ 2555 ทุน 10 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 230 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร

แจ้งประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าอุปโภคให้แก่สมาชิก

ปรากฎชื่อ นาย ชนะศักดิ์ ศรีสอาด นาย ชาญวิทย์ อนันต์พลาชัย เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ

นาย รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ (นักร้องนักแสดงชื่อดัง) นาย ภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ นาย ธเนศ จัตวาพรวนิช นาง สุภัสฐิณี ศรีสอาด ร่วมเป็นกรรมการ

รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 5 สิงหาคม 2559 นาย ธเนศ จัตวาพรวนิช ถือหุ้นใหญ่สุด 30,000 หุ้นมูลค่า 3 ,000,000 บาท นาย ภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ นาย รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ถือหุ้นอยู่คนละ 20,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ 2,000,000 บาท นางสาว ธมลพรรณ์ ประเสริฐวิทย์ นาย ภูริทัต โตคงทรัพย์ ถืออยู่คนละ 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ถืออยู่ คนละ 1,000,000 บาท นางสาว กัญญาลัคน์ ภัคเครือพันธุ์ และ นาง สุภัสฐิณี ศรีสอาด คนละ 5,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ถือคนละ 500,000 บาท

นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจล่าสุด ณ 31 ธันวาคม 2557 แจ้งว่ามีรายได้รวม 2,781,168.79 บาท รวมรายจ่าย 10,683,452.60 บาท ขาดทุนสุทธิ 7,902,283.81 บาท

ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ย้อนกลับไปตรวจสอบข้อมูล บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด พบว่า ยังไม่ได้แจ้งเลิกกิจการ

แต่มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการและโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ นาย ศราวุฒิ นนทะภา ปรากฎชื่อเป็นกรรมการผู้มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียว

รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ 19 เมษายน 2561 นาย ศราวุฒิ นนทะภา ถือหุ้นใหญ่สุด 70 % นาย ธเนศ จัตวาพรวนิช นาย ภูมิพัฒน์ ประเสริฐวิทย์ ถืออยู่คนละ 10 % นางสาว กัญญาลัคน์ ภัคเครือพันธุ์ และ นาย สมภพ ปั้นศรี ถืออยู่คนละ 5 %

นำส่งข้อมูลงบการเงิน ณ 31 ธันวาคม 2558 แจ้งว่ามีรายได้รวม 7,964,701.75 บาท รวมรายจ่าย 27,605,565.26 บาท ขาดทุนสุทธิ 19,693,410.30 บาท

ไม่ปรากฎชื่อ 'ฟิล์ม-รัฐภูมิ' และคนในครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว

ขณะที่ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า 'ฟิล์ม-รัฐภูมิ' ยังปรากฎชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นบริษัทเอกชนรายแห่ง ธุรกิจที่ดำเนินการ มีหลายประเภท เช่น ธุรกิจเสริมความงาม (คลีนิค ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง), ป้ายประชาสัมพันธ์, ธุรกิจนำเที่ยว, ผลิตซํ้าภาพยนตร์ วีดิทัศน์ และรายการโทรทัศน์ ,ขายเสื้อผ้าสำเสร็จรูป ,สื่อโฆษณา จำหน่ายสินค้าอุปโภคให้แก่สมาชิก ให้บริการชำระเงินทางอิเล็คทรอนิกส์ผ่านทางเครือข่าย

สำหรับลักษณะการทำธุรกิจ วงเงินที่ใช้ลงทุนตั้งบริษัท มีจำนวนไม่สูงมากนัก แค่หลักแสนหลักล้านบาท ผู้ร่วมลงทุนทำธุรกิจด้วยส่วนใหญ่เป็นคนกลุ่มเดิมๆ โดยเฉพาะคนในครอบครัว (อ่านประกอบ : เจาะข้อมูลบ.'ฟิล์ม-รัฐภูมิ'12แห่ง ก่อน 'เพย์ออล กรุ๊ป' โดนธปท.กล่าวโทษ)

และเมื่อวันที่ 3 ต.ค.2561 ฟิล์ม-รัฐภูมิ เพิ่งเปิดตัวสมัครเข้าร่วมพรรคพลังท้องถิ่นไท กับกลุ่ม นายชัชวาลย์ คงอุดม หรือชัช เตาปูน อดีตส.ว.กทม. ประกาศพร้อมลงสนามสู้ศึกเลือกตั้ง ครั้งใหม่ที่จะมาถึง

อนาคตทางธุรกิจ และทางการเมือง ของ ฟิล์ม-รัฐภูมิ นับจากนี้จะเป็นอย่างไร ต้องจับตาดูกันต่อไป  

หมายเหตุภาพประกอบจาก : 40plus รับวัยว้าวุ่น - โพสต์ทูเดย์