ชูนโยบายปราบโกงคสช.นำ! หนังสือร้องสอบสวมสิทธิ์เบี้ยเลี้ยงนักกีฬาฮอกกี้ ถึงมือ สตง.แล้ว

เขียนวันที่

วันเสาร์ ที่ 19 มกราคม 2562 เวลา 11:30 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

Isranews | รายงาน-สกู๊ป | ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวสืบสวน

Tags

สมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย | สตง.

"...สํานักงานคณะกรรมการธรรมาภิบาลแห่งชาติ โดยสภาสมาคมธรรมาภิบาล ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง ว่า มีการสวมสิทธิ์นักกีฬา ปลอมแปลงรายมือชื่อ และมีการหักเงิน ที่นักกีฬาจะได้รับซึ่งเป็นเบี้ยเลี้ยงเก็บตัวฝึกซ้อมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ฤดู หนาว ครั้งที่ 8 ณ เมืองซับโปะโระ ประเทศญี่ปุ่น และกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศ มาเลเซีย รายละเอียดปรากฏตามเอกสารที่ส่งมาพร้อมนี้ อาศัยรัฐธรรมนูญมาตรา 78 และมาตรา 50 วรรค 10 ดังนั้นสํานักงานคณะกรรมการธรรมาภิบาลแห่งชาติ จึงเรียนมายังท่านซึ่งมีอํานาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญว่า ด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน โปรดตรวจสอบการเบิกจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงเก็บตัวฝึกซ้อมกีฬาฮอกกี้น้ําแข็ง เพื่อเป็นการ บริหารราชการแผ่นดินตามหลักธรรมาภิบาลต่อไป..."

paperrr

สืบเนื่องจาก นายณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ เลขาธิการสมาคมธรรมาภิบาล เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ในวันที่ 16 ม.ค.2562 ที่ผ่านมา จะไปยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ให้ตรวจสอบการเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงของนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย ที่ถูกสวมสิทธิ์รับเบี้ยเลี้ยงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ฤดูหนาว ที่เมืองซัปโปโระ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีนักกีฬาบางส่วนไม่ได้ไปร่วมการแข่งขัน แต่ปรากฏชื่อในใบเบิกงบประมาณของสมาคมฯ จากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายนักกีฬา ค่าเบี้ยเลี้ยงนักกีฬา และได้รับเงินไม่ครบจำนวนตามที่มีการทำเรื่องเบิกจ่ายเป็นทางการ รวมถึงการใช้จ่ายเงินงบประมาณสนับสนุนจากกกท. ซึ่งล่าสุดปรากฎคลิปเสียงบุคคลในสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย ที่โทรศัพท์มาล็อบบี้ไม่ให้กลุ่มนักกีฬาฟ้องร้องคดีความต่อสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งเกี่ยวกับปัญหาการสวมสิทธิ์รับเบี้ยเลี้ยงดังกล่าว ที่มีการยอมรับว่ามีกระบวนการซิกแซก นำเบี้ยเลี้ยงที่ไม่ได้ไปแข่งไปใช้จ่ายงานส่วนอื่นจริง ซึ่งทุกสมาคมกีฬาทำเหมือนกันหมด (อ่านประกอบ:ปูดคลิปเสียงปริศนาขู่นักกีฬาฮอกกี้ฟ้องผู้บริหารเหมาเข่ง-รับมีซิกแซกเบิกเบี้ยเลี้ยงจริง, 'คำต่อคำ' คลิปเสียงปริศนาขู่นักกีฬาฮอกกี้ฟ้องผู้บริหารเหมาเข่ง-ปมซิกแซกเบิกเบี้ยเลี้ยง?)

ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันจาก นายณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ เลขาธิการสมาคมธรรมาภิบาล ว่า เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2562 ที่ผ่านมา สมาคมธรรมาภิบาล ได้เข้ายืนหนังสือร้องเรียนต่อ นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าฯ สตง. เป็นทางการแล้ว

โดยมีผู้อำนวยการฝ่ายสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินด้านกีฬา เป็นผู้รับเรื่องแทน พร้อมรับปากว่าจะมีการบันทึกเรื่องนี้เข้าสู่ระบบการตรวจสอบของสตง.เป็นทางการต่อไป

สำหรับรายละเอียดของหนังสือสมาคมธรรมาภิบาล ที่ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ผู้ว่าฯ สตง. ระบุว่า

“ตามที่ คณะรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2557 โดยกําหนดให้ส่งเสริมการบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาลและการป้องกันปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบในภาครัฐ ประกอบกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีคําสั่งที่ 69/2557 ลงวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เพื่อกําหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ สําหรับเป็น กลไกในการต่อสู้เพื่อเอาชัยชนะปัญหาการทุจริต โดยมุ่งเน้นให้ทุกภาคส่วนร่วมกันบูรณาการแก้ไขปัญหาการ ทุจริตให้เกิดผลสัมฤทธิ์เพื่อสนองความต้องการของสังคมอย่างยั่งยืนโดยเร็ว นั้น

ในการนี้ สํานักงานคณะกรรมการธรรมาภิบาลแห่งชาติ โดยสภาสมาคมธรรมาภิบาล ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง ว่า มีการสวมสิทธิ์นักกีฬา ปลอมแปลงรายมือชื่อ และมีการหักเงิน ที่นักกีฬาจะได้รับซึ่งเป็นเบี้ยเลี้ยงเก็บตัวฝึกซ้อมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ฤดู หนาว ครั้งที่ 8 ณ เมืองซับโปะโระ ประเทศญี่ปุ่น และกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศ มาเลเซีย รายละเอียดปรากฏตามเอกสารที่ส่งมาพร้อมนี้ อาศัยรัฐธรรมนูญมาตรา 78 และมาตรา 50 วรรค 10 ดังนั้นสํานักงานคณะกรรมการธรรมาภิบาลแห่งชาติ จึงเรียนมายังท่านซึ่งมีอํานาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญว่า ด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน โปรดตรวจสอบการเบิกจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงเก็บตัวฝึกซ้อมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง เพื่อเป็นการบริหารราชการแผ่นดินตามหลักธรรมาภิบาลต่อไป” (ดูหนังสือประกอบ)

อนึ่งก่อนหน้านี้ นายณัฏฐ์ ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า นอกจากการยืนเรื่องให้สตง.เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้เป็นทางการแล้ว จะนำนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งไปยื่นเรื่องฟ้องร้องผู้บริหารสมาคมกีฬาฯ ต่อศาลอาญาเกี่ยวเนื่องคดีทางแพ่ง เพิ่มเติมในข้อหาปลอมลายเซ็นนักกีฬาด้วย โดยมีหลักฐานยืนยันเป็นรายละเอียดใบเบิกเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาที่ไปฝึกซ้อมในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งนักกัฬายืนยันว่าถูกปลอมลายเซ็น

ขณะที่ สำนักข่าวอิศรา ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจาก ผู้บริหารสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทยรายหนึ่ง ว่า ที่ผ่านมาเคยมีการนำปัญหาเรื่องการเบิกเงินเบี้ยเลี้ยงของนักกีฬาเข้ามาหารือกันในสมาคมฯ แล้ว โดยเฉพาะเรื่องการเซ็นรับเบี้ยเลี้ยงของนักกีฬา ที่ตัวนักกีฬาไม่ได้เซ็นชื่อเอง แต่มีบุคคลอื่นมาเซ็นชื่อแทนให้ ซึ่งส่วนตัวได้ทักท้วงไปแล้วว่า พฤติกรรมแบบนี้ไม่เหมาะสม อย่าทำ ต้องให้นักกีฬาเป็นคนเซ็นเอง เพราะเป็นสิทธิของนักกีฬา และถ้าไปทำแบบนั้น ก็เท่ากับว่าเป็นการทำเอกสารไม่ถูกต้อง และยังยืนยันข้อมูลที่ขัดแย้งกับทางสตาฟโค้ชอีกว่า การจ่ายเงินเบี้ยเลี้ยงที่ผ่านมานั้น ไม่เคยจ่ายเป็นแคชเชียร์เช็คเลย แต่จ่ายเป็นเงินสด ไม่ก็โอนเข้าบัญชีนักกีฬาโดยตลอด ส่วนประเด็นเรื่องที่สมาคมกีฬาฯ ได้เก็บเงินค่าฝึกซ้อมกับนักกีฬานั้น ส่วนตัวไม่ทราบ เพราะไม่ได้เข้าประชุมมาประมาณ 2-3 ปีแล้ว

เบื้องต้น หากจะสรุปภาพรวมสถานการณ์ข่าวเรื่องนี้ ในปัจจุบัน จะพบว่า มีแง่มุมที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องเร่งตรวจสอบข้อมูลให้เกิดความกระจ่างโดยเร็วก็คือ

1. การนำชื่อของนักกีฬา ที่ไม่ได้เดินทางไปร่วมแข่งขันในต่างประเทศ มาใช้ในการเบิกจ่ายเงินเป็นข้อมูลจริงหรือไม่ ถ้ามีการดำเนินการลักษณะนี้จริง ถือเป็นการฝืาฝืนระเบียบการใช้จ่ายเงินหรือไม่? นอกจากนี้จำนวนเงินที่นักกีฬาแต่ละรายได้รับ ตรงตามยอดจริง ที่มีการเบิกจ่ายหรือไม่?

2. ภายหลังได้รับเงินสนับสนุนมาแล้ว สมาคมกีฬาฯ นำเงินไปใช้ประโยชน์ในเรื่องอะไรบ้าง โดยเฉพาะเงินในส่วนเกินที่เบิกจ่ายมา โดยชื่อนักกีฬา ที่ไม่ได้เดินทางไปแข่งขันด้วย

3. งบประมาณที่ กกท. สนับสนุนให้เป็นค่าซ้อมมีจำนวนเท่าไร ทำไมจะต้องมีการเรียกเก็บจากนักกีฬาเพิ่มเติมอีกวันละ 500 บาท ถ้าจ่ายมาครบแล้ว เงินส่วนนี้หายไปไหน

4. การใช้จ่ายเงินของสมาคมกีฬาประเภทอื่น มีปัญหาแบบเดียวกันกับที่เกิดขึ้นสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งฯ หรือไม่ เนื่องจากสตาฟโค้ชสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งฯ ยืนยันว่า สมาคมกีฬาอื่น ก็ใช้วิธีการเบิกจ่ายงบประมาณแบบเดียวกัน?

ทั้งหมดนี่ จึงเป็นเงื่อนปมสำคัญ ที่รอให้ สตง. เข้ามาตรวจสอบเพื่อทำความจริงให้ปรากฎโดยเร็วที่สุด

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/