‘เสรีพิศุทธ์’ปล่อยกู้นักธุรกิจ 30 ล.-เครืออาณาจักรจิวเวอรี่ดังให้ยืมใช้ BENZ

เจาะทรัพย์สิน 135 ล้าน ‘พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส’ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เอกชนในเครือ ‘นิกร หงษ์ศรีสุข’ เจ้าของอาณาจักรร้านจิวเวอรี่-GMS Duty Free ให้ยืม BENZ S350 มูลค่า 1.5 ล. ใช้ตั้งแต่ปี’54 ปล่อยเงินกู้นักธุรกิจ 30 ล้าน

เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2562 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ ส.ส. จำนวน 415 ราย เป็นกรณีเข้ารับตำแหน่ง 414 ราย และกรณีพ้นจากตำแหน่ง 1 ราย (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) โดยมี ส.ส. อย่างน้อย 10 ราย ยังไม่ได้ติดต่อขอยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน และอีก 72 รายขอขยายระยะเวลาเพิ่มเติม ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2562 ที่ผ่านมา

รายชื่อที่น่าสนใจ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน กลับมามีชื่อเสียงโด่งดังอีกครั้งภายหลังวาทกรรม ‘ตัดพี่ตัดน้อง’ จากปาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายนโยบายของรัฐบาล

ประเด็นที่น่าสนใจ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีรถยนต์ BENZ S350 ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งให้ยืมใช้ด้วย ?

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ พบรายละเอียด ดังนี้

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แจ้งสถานะว่า หย่า มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 135,476,212 บาท ไม่มีหนี้สิน

แบ่งเป็น เงินฝาก 11 บัญชี 7,803,115 บาท เงินลงทุน 5 รายการ (ได้มาระหว่างปี 2558-2561 ส่วนใหญ่เป็นกองทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ และกองทุนธนาคาร) 19,847,747 บาท เงินให้กู้ยืม 3 ราย 37 ล้านบาท ที่ดิน 65 แปลง 49,021,550 บาท รถยนต์ 9 แสนบาท สิทธิและสัมปทาน 18,144,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 1,760,000 บาท

แจ้งรายได้ต่อปีรวม 3,550,704 บาท เป็นเงินบำนาญเดือนละ 67,332 บาทรวม 807,984 บาท เบี้ยประชุมบริษัท บี จี ทีฯ 1.8 แสนบาท ที่ปรึกษาบริษัท ไคฮวดจั่นโลหะกิจ มีนบุรี จำกัด 4.8 แสนบาท ดอกเบี้ยเงินกู้ 7.2 แสนบาท และเป็นเงินเดือน ส.ส. ประมาณ 1 ล้านบาทเศษ มีรายจ่ายต่อปีรวม 1.2 ล้านบาท เป็นค่าอาหาร น้ำ ไฟฟ้า โทรศัพท์ ค่าน้ำมันรถ งานสังคม และอื่น ๆ ประมาณเดือนละ 1 แสนบาท

ในส่วนเงินให้กู้ยืมมี 3 ราย ได้แก่ นายนิพันธ์ เทียมหงษ์ เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2562 มูลค่า 6 ล้านบาท นายกฤช ศศิสิริ เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2562 มูลค่า 1 ล้านบาท และนายยุทธพงษ์ พุ่มรินทร์ และบริษัท ดนัยมา จำกัด เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2558 มูลค่า 30 ล้านบาท

สำหรับนายยุทธพงษ์ พุ่มรินทร์ ปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 3 แห่งที่ยังดำเนินกิจการ (เท่าที่ตรวจสอบพบ) ได้แก่ บริษัท จีเนียส จีพีเอส เทคโนโลยี จำกัด ทำธุรกิจทดสอบและตรวจถังเก็บและจ่ายแก๊ส ถังขนส่งแก๊ส ระบบท่อก๊าซ บริษัท วีอาร์พี อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด ทำธุรกิจตัวแทนและนายหน้าประกันวินาศภัย และบริษัท วีอาร์พี อินเตอร์ โลจิสติกส์ (2010) จำกัด ทำธุรกิจขนส่งก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ น้ำมันเชื้อเพลง วัตถุไวไฟ

ส่วนของที่ดิน 65 แปลงของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีโฉนด น.ส.3 ก จำนวน 4 ฉบับ เลขที่ 5694, 319, 152 และ 153 อยู่ใน จ.มุกดาหารทั้งหมด

ขณะที่ยานพาหนะมี 2 รายการ ได้แก่ BENZ S350 ได้มาเมื่อปี 2554 มูลค่า 1.5 ล้านบาท ระบุหมายเหตุว่า บริษัท จี.จี.ทรานสปอร์ต จำกัด ให้ยืมใช้ตั้งแต่ปี 2554 นอกจากนี้ยังมีเรือกลเดินทะเล ได้มาเมื่อปี 2560 มูลค่า 9 แสนบาทด้วย

บริษัท จี.จี.ทรานสปอร์ต จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2537 ทุนปัจจุบัน 210 ล้านบาท แจ้งประกอบธุรกิจการขนส่งผู้โดยสารทางบกอื่น ๆ มีนายนิกร หงษ์ศรีสุข นายประเสริฐ อิศวพรชัย น.ส.ชนนิกานต์ หงษ์ศรีสุข นายณัฐพล หงษ์ศรีสุข และนายภัทรภณ หงษ์ศรีสุข เป็นกรรมการ

แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2561 มีรายได้รวม 713,818,385 บาท มีรายจ่ายรวม 698,626,533 บาท เสียภาษีเงินได้ 6,225,137 บาท กำไรสุทธิ 8,213,452 บาท

สำหรับนายนิกร หงษ์ศรีสุข คือนักธุรกิจเจ้าของบริษัทเครื่องประดับจิวเวอรี่ชื่อดังอย่าง ‘เจมส์ แกลอรี่’ นอกจากนี้ยังดำเนินธุรกิจดิวตี้ฟรีภายในชื่อ ‘GMS Duty Free’ ด้วย

ทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แจ้งครอบครองนาฬิกา 2 เรือน (Patex, Rolex) ได้มาระหว่างปี 2553-2554 รวมมูลค่า 1.5 ล้านบาท พระสมเด็จวัดระฆัง 1 องค์ ไม่ทราบราคา มีปืน 5 กระบอก แจ้งสูญหาย 1 กระบอก และงาช้าง 1 คู่ ไม่ทราบราคา

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ระบุตำแหน่งปัจจุบันว่า เป็นกรรมการอิสระ ประธานกรรมการตรวจสอบ บริษัท บี จี ที คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทแห่งนี้มีเครือญาติตระกูลธรรมวัฒนะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และเป็นที่ปรึกษาบริษัท ไคฮวดจั่นโลหะกิจฯ จำกัด ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2561 เคยเป็นประธานกรรมการบริษัท อินเตอร์ไพร์ส มีเดีย จำกัด ปี 2560 เคยเป็นที่ปรึกษาบริษัท ไคฮวดจั่นโลหะกิจฯ จำกัด

สำหรับอดีตคู่สมรสของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ คือ น.ส.พัสวีศิริ เทพชาตรี (สกุลเดิม) โดยเป็นกรรมการบริษัท 1 แห่ง ได้แก่ บริษัท ยาค้อบอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2528 ทุนปัจจุบัน 10 ล้านบาท แจ้งประกอบธุรกิจซื้อมา-ขายไปเครื่องแท้-หนังเทียม

ปรากฏชื่อ น.ส.พัสวีศิริ เตมียเวส (สกุลเดิม เทพชาตรี) เป็นกรรมการร่วมกับ นายทรรศน์พนธ์ เตมียเวส และ น.ส.ศศิภาพิมพ์ เตมียเวส 2 บุตรชาย-บุตรสาวของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ และ น.ส.พัสวีศิริ

แจ้งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2561 มีรายได้รวม 19,953,860 บาท มีรายจ่ายรวม 15,292,264 บาท กำไรสุทธิ 4,854,856 บาท

สำหรับนายทรรศน์พนธ์ ยังเป็นกรรมการอีก 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ภูไพรธารน้ำ จำกัด ทำธุรกิจรีสอร์ท ที่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี บริษัท สุขุมวิท อารี 26 จำกัด ธุรกิจให้เช่าที่ดินเพื่อสร้างอาคารให้ผู้ค้าขายเช่า

อ่านประกอบ : ควันหลงสับ‘บิ๊กตู่’ในสภา! 'เสรีพิศุทธิ์'เคยนั่ง3บอร์ดรัฐวิสาหกิจ-กก.บ.สกุล‘ธรรมวัฒนะ’

# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/

หมายเหตุ : ภาพประกอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จากไทยรัฐออนไลน์