บุกสำรวจ หจก.คว้าประมูลกระดาษโรงงานไพ่ 90.7 ล้าน-แค่ร้านตึกแถว!
ลุยตรวจ 2 หจก.เข้าร่วมประมูลจัดซื้อกระดาษโรงงานไพ่ พบใช้ตึกแถวเป็นที่ตั้งออฟฟิศ ขณะที่ บ.“ต.กิจวิบูลย์” ผู้แพ้การเสนอราคา อาคารสำนักงานใหญ่โต ฟันรายได้ปีเดียวทะลุหลัก 600 ล้านบาท !
กรณีสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ตรวจสอบพบว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) พรรณรักษ์เปเปอร์ และห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ลิ้มง่วนไถ่ ซึ่งเป็นกลุ่มเอกชนเดียวกัน เนื่องจากมีหุ้นส่วนใหญ่รายเดียวกัน คือ นางรวีวรรณ ธนบดีกุศล สลับกันเข้าประกวดราคาจัดซื้อกระดาษเพื่อนำไปใช้ในการผลิตไพ่ชนิดต่างๆ ของโรงงานไพ่ กรมสรรพรสามิต นับตั้งแต่ปี 2551 -2555 และได้รับงานไปทั้งหมด จำนวน 13 ครั้ง คิดเป็นวงเงินทั้งสิ้น 90,766,388 บาท (อ่านรายละเอียดในเรื่อง พบ 2 หจก.“กลุ่มเดียวกัน”สลับหน้าคว้าประมูลกระดาษโรงงานไพ่ 90.7 ล้าน)
เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2555 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้เดินทางไปยังหจก. พรรณรักษ์เปเปอร์ ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คือ เลขที่ 358-360 ถนนไมตรีจิตต์ แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 10100 พบว่าเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 2 คูหา ภายหลังตัวอาคาร มีสินค้ากระดาษชนิดต่างๆ วางเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ในร้านรายหนึ่ง ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้ช่วยของนางรวีวรรณ ได้รับการเปิดเผยว่า นางรวีวรรณ มีชื่อเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของ หจก.ทั้งสองแห่งอยู่จริง แต่ปัจจุบันนางรวีวรรณ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับ หจก.พรรณรักษ์เปเปอร์แล้ว เพราะแยกไปดูแลงาน หจก.ลิ้มง่วนไถ่เพียงอย่างเดียว และตอนนี้นางรวีวรรณก็อายุมากแล้ว คงให้ข้อมูลอะไรไม่ได้มาก
“คุณรวีวรรณตอนนี้เขาแก่มากแล้ว เขาแยกไปดูงาน หจก.ลิ้มง่วนไถ่ เพียงอย่างเดียว ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับ หจก.พรรณรักษ์เปเปอร์อีกแล้ว ส่วนที่ยังมีชื่อปรากฏอยู่อาจจะเป็นเพราะยังไม่ได้มีการถอนชื่อออกไปเท่านั้น”
เมื่อถามถึงการประมูลจัดซื้อกระดาษให้กับโรงงานไพ่ ว่าทำไมในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา ถึงปรากฏชื่อ หจก.พรรณรักษ์เปปอร์ และ หจก.ลิ้มง่วนไถ่ เป็นผู้ชนะการประมูลงานเท่านั้น เจ้าหน้าที่รายนี้ระบุว่า เท่าที่ทราบการเปิดประมูลแต่ละครั้งมีเอกชนรายชื่อมาเข้าร่วม แต่สินค้าที่ทาง หจก.พรรณรักษ์เปเปอร์ เสนอไป เป็นสินค้าสั่งนำเข้าพิเศษมาจากต่างประเทศ ถึงทำให้เราได้รับงานไป
“เราคงตอบได้แต่การดำเนินงานในส่วนของเรา ส่วนเอกชนรายอื่นจะมีวิธีทำงานอะไรก็เป็นเรื่องของเขา ร่วมถึง หจก.ลิ้มง่วนไถ่ด้วย เขาก็ทำงานแบบของเขาเราก็ทำงานแบบของเรา ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ส่วนการดำเนินธุรกิจของเรา ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าสินค้า และชื่อบริษัทเอเยนต์ เป็นความลับทางการค้าไม่สามารถเปิดเผยได้ ”
เมื่อถามว่า ทำไมการประมูลงานของ หจก.ลิ้มง่วนไถ่ กับ หจก.พรรณรักษ์เปเปอร์ ถึงปรากฏชื่อ บริษัท ต.กิจวิบูลย์ เทรดดิ้ง จำกัด เข้าร่วมการประมูลงานด้วยทุกครั้ง แต่ไม่เคยชนะ เจ้าหน้าที่รายนี้กล่าวว่า “เราคงไปตอบแทนคนอื่นไม่ได้ แต่ส่วนของบริษัท ต.กิจวิบูลย์ เขาคงไม่สู้ราคาเองมั่ง ถึงไม่ได้รับงานไป”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางไปยัง หจก.ลิ้มง่วนไถ่ ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ คือ เลขที่ 994/4-5 หมู่ที่ 3 ถ.เทพารักษ์ ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พบว่า เป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 3 คูหา ตั้งอยู่หน้าปากซอยเทวา 2 ประตูทางเข้าอาคารมีรั่วเหล็กปิดกันอยู่ ภายในไม่มีคนงานทำงาน เบื้องต้นจากการสอบข้อมูลผู้พักอาศัยบริเวณใกล้เคียงได้รับการยืนยันว่า อาคารดังกล่าว เคยเปิดเป็นโรงพิมพ์ แต่ปิดไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ส่วนเจ้าของ ชื่อนายนิติ นิติพรรณรักษ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่ยื่นรออยู่บริเวณด้านหน้าอาคาร ได้รับแจ้งจากผู้พักอาศัยภายใน ว่า นายนิติ กำลังเดินทางออกไปนอกบ้าน จึงได้ไปดักรอพบ ทั้งนี้ เมื่อพบตัวนายนิติ จึงได้สอบถามข้อมูลการเข้าร่วมประมูลจัดซื้อกระดาษ ของโรงงานไพ่ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ หจก.ลิ้มง่วนไถ่
นายนิติ ได้ย้อมถามกลับมาว่า “คุณเป็นใครและทราบเรื่องประมูลไพ่ได้อย่างไร” ก่อนจะยอมรับว่า หจก.ลิ้มง่วนไถ่ได้เข้าร่วมประมูลด้วย แต่ขอตัวไปทำธุรกิจก่อน โดยระบุว่า หากสงสัยอะไรให้ติดต่อมาที่เบอร์ส่วนตัวอีกครั้ง ก่อนจะขับรถยนต์ส่วนตัวออกไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อกลับไปหานายนิติ หลายครั้ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงวันเดียวกัน ได้เดินทางไปยัง บริษัท ต.กิจวิบูลย์ เทรดดิ้ง จำกัด ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คือ เลขที่ 1/197 หมู่ที่ 1 ซอยวัดกก ถนนพระราม 2 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร 10150 พบว่า เป็นบริษัทขนาดใหญ่ ภายในมีพนักงานทำงานอยู่จำนวนมาก มีพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร ในการสต๊อกจัดกลับสินค้า และมีแผนงานที่จะย้ายไปตั้งโรงงานใหม่ที่บางบอน ซึ่งมาขนาดใหญ่กว่าโรงงานปัจจุบัน 4 เท่า
แต่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า นายชาญชัย เตชะกิจวิบูลย์ เจ้าของบริษัท ไม่อยู่ และไม่สามารถชี้แจงข้อมูลการเข้าร่วมประมูลจัดซื้อกระดาษของโรงงานไพ่ได้ พร้อมให้ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้ หากนายชาญชัย ต้องการจะชี้แจงข้อมูลจะติดต่อกลับมาเอง
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท ต.กิจวิบูลย์เทรดดิ้ง จำกัด จดทะเบียน 19 ตุลาคม 2530 ทุน 70,000,000 บาท (ทุนประเดิมครั้งแรก มีแรก มี 10 ล้านบาท ก่อนจะปรับเพิ่มเป็น 20 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 1 เมษายน 2536 และปรับเพิ่มเป็น 70 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2540) แจ้งประกอบธุรกิจจำหน่ายกระดาษ ขนาดใหญ่ ปรากฏชื่อ นาย ทวีศักดิ์ เตชะกิจวิบูลย์ และนาย ชาญชัย เตชะกิจวิบูลย์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ผู้ถือหุ้น มี 7 ราย ประกอบไปด้วย นายชาญชัย เตชะกิจวิบูลย์ 20% นางต้ากุย แซ่โง้ว 20% นายทวีศักดิ์ เตชะกิจวิบูลย์ 20 % นางสาวสุมาลี เตชะกิจวิบูลย์ 20% นายวิศิน เตชะกิจวิบูลย์ 10% นางสาวสมัยพร โพธิ์วรสุนทร 5 % นางสาวสุนทรี ศิริอุยานนท์ 5 %
ในช่วง 4 ปี ที่ผ่านมา แจ้งผลประกอบการว่า มีรายได้ทะลุหลัก 600 ล้านบาท ทุกปี โดยปี 2551 แจ้งว่ามีรายได้ 726,397,100.55 บาท มีกำไร 9,013,689.56 บาท ปี 2552 มีรายได้ 615,618,972.13 บาท มีกำไร 7,312,551.27 บาท ปี 2553 มีรายได้ 682,709,147.18 บาท มีกำไร 15,951,130.84 บาท ล่าสุดปี 2554 แจ้งว่า มีรายได้ จากการขาย 606,696,483.91 บาท มีกำไร7,410,181.90
ทั้งนี้ เมื่อนำรายได้และกำไรของบริษัท ต.กิจวิบูลย์เทรดดิ้ง จำกัด มาเปรียบเทียบกับ หจก.ผู้ชนะการประมูลงานทั้งสองแห่ง กลับพบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมาก
หจก. ลิ้มง่วนไถ่ แจ้งว่า มีรายได้จากการค้า ในปี 2551 จำนวน 9,600,099 บาท มีกำไร 803,890.88 บาท ปี 2552 มีรายได้ 12,231,590 บาท มีกำไร 913,231.07 บาท ปี 2553 มีรายได้ 6,182,790 บาท มีกำไร 180,127.68 บาท ปี 2554 มีรายได้ 2,860,000 บาท แต่ขาดทุน -709,948.83 บาท
ส่วน หจก. พรรณรักษ์เปเปอร์ แจ้งว่า ปี 2551 มีรายได้จากการขาย 32,458,991.94 บาท มีกำไร 1,803,714.17 บาท ปี 2552 แจ้งว่ามีรายได้ 33,784,801.36 บาท มีกำไร 1,899,545.24 บาท ปี 2553 แจ้งว่ามีรายได้ 30,453,348.01 บาท มีกำไร 1,803,044.26 บาท ปี 2554 มีรายได้ 29,884,386.04 บาท มีกำไร 1,748,718.86 บาท
น่าสังเกตว่า บริษัท ต.กิจวิบูลย์เทรดดิ้ง มีกำลังทรัพย์และศักยภาพการทำธุรกิจมากกว่า เหตุใด บริษัท ต.กิจวิบูลย์เทรดดิ้ง จำกัด ถึงต้องพ่ายแพ้ให้แก่ หจก. ทั้งสองแห่งทุกครั้ง