- Home
- Isranews
- เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา
- ยิงอุสตาซดับที่ปัตตานี ทหารชี้ตอกลิ่ม - วิสามัญฯอีกศพที่รือเสาะ
ยิงอุสตาซดับที่ปัตตานี ทหารชี้ตอกลิ่ม - วิสามัญฯอีกศพที่รือเสาะ
ใต้ป่วนรายวัน ประกบยิงอุสตาซโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาเสียชีวิตที่หนองจิก ปัตตานี ทหารแถลงประณาม ชี้คนร้ายพยายามตอกลิ่ม "พุทธ-มุสลิม" เหตุปล่อยข่าวโยงฆ่าครูไทยพุทธเมื่อ 2 วันก่อน ลูกสาวครูที่เชียงใหม่เผยเคยขอพ่อ"อย่าไปได้ไหม" ส่วนที่รือเสาะยังเดือดไม่หยุด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมวิสามัญฯอีก 1 ศพ
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงร้อนระอุและเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 08.40 น.วันพุธที่ 21 ส.ค.2556 คนร้ายลอบกดจุดชนวนระเบิดหวังสังหารทหารชุดลาดตระเวนเส้นทางเพื่อรักษาความปลอดภัยครู สังกัดหน่วยเฉพาะกิจยะลา 15 บนถนนทางเข้าโรงเรียนบ้านวังหิน ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา ห่างจากโรงเรียน 2 กิโลเมตร แรงระเบิดทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ พลทหารราเชนทร์ ศรีจันทร์ และ พลทหารเอกพงษ์ อินภูธร
ช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ขณะที่ นายฮูมัยดี มูซอ อายุ 37 ปี ครูสอนศาสนา (อุสตาซ) โรงเรียนมุสลิมชุมชนอิสลามศึกษา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี กำลังขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นวีออส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กง 4232 ปัตตานี ออกจากบ้านที่หมู่ 3 บ้านบางทัน ต.บางเขา อ.หนองจิก เพื่อมุ่งหน้าไปสอนหนังสือที่โรงเรียน โดยใช้ทางหลวงชนบทหมายเลข 2007 (บ่อทอง-ยาบี) นั้น เมื่อเดินทางถึงหมู่บ้านปะแอลางา ต.บ่อทอง อ.หนองจิก ได้มีคนร้ายจำนวนประมาณ 4-5 คนใช้รถกระบะเป็นพาหนะขับตามประกบ จากนั้นใช้อาวุธปืนสงครามทั้งเอ็ม 16 และอาก้ายิงถล่มใส่ ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมถนนจนนายฮูมัยดีเสียชีวิต เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าทั้งสองเหตุการณ์เป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) กล่าวว่า การกระทำของคนร้ายที่ยิงครูสอนศาสนานับเป็นพฤติกรรมที่เลวร้ายมากที่พยายามสร้างสถานการณ์ให้ทวีความรุนแรง โดยเฉพาะการลอบทำร้ายครู ไม่ว่าจะเป็นครูไทยพุทธ (นายอธิคม อติวงศ์ ครูโรงเรียนบ้านประจัน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อ 2 วันก่อน) และครูมุสลิม ฉะนั้นต้องเร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่อย่าตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มขบวนการที่พยายามสร้างความแตกแยกในกลุ่มพี่น้องที่นับถือต่างศาสนาต่างกัน โดยเฉพาะการนำประเด็นยิงครูไทยพุทธมาเชื่อมโยง แล้วอ้างว่าการยิงครูมุสลิมเป็นการตอบโต้หรือแก้แค้นจากเหตุการณ์ยิงครูพุทธ
ครูอธิคมจากไป...ลูกสาววัย 14 ที่เชียงใหม่ต้องกำพร้า
ความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่ม ครูอธิคม อติวงศ์ ครูพละโรงเรียนบ้านประจัน จนเสียชีวิตเมื่อเย็นวันจันทร์ที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น เมื่อวันอังคารที่ 20 ส.ค. นายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้เป็นประธานในพิธีศพครูอธิคมที่วัดดอนตะวันออก ต.ดอน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี โดยมีเพื่อนครู และข้าราชการทหาร ตำรวจ ไปร่วมพิธีอย่างคับคั่ง ทั้งนี้ นางปนิดา สีลาภเกื้อ ภรรยาของครูอธิคม ซึ่งเป็นครูโรงเรียนบ้านปาลัส อ.ปะนาเระ อยู่ในอาการโศกเศร้าอย่างหนัก
สำหรับครูอธิคมมีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ มีบุตร 1 คน อายุ 14 ปี หลังเกิดเหตุ นายคุณวัฒน์ สุคันธะกุล นายอำเภอไชยปราการ ได้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัว และได้ประสานให้สมาคมวิชาชีพครูไชยปราการ กับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ให้ความช่วยเหลือ พร้อมพาครอบครัวของครูอธิคมไปร่วมงานฌาปนกิจศพที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ซึ่งจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันอาทิตย์ที่ 25 ส.ค.
นายพิทักษ์ จักรทอง นายกสมาคมวิชาชีพครู อ.ไชยปราการ กล่าวกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเนชั่นว่า ทุกคนเสียใจกับการจากไปของครูอธิคม เพราะเป็นคนดี มีความกตัญญู ส่งเสียเลี้ยงดูแม่ซึ่งมีอาการป่วย จากการเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของครูอธิคมพบว่ามีฐานะยากจน มีความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก แม่ของครูอธิคม คือ นางเจริญ ถนอมทรัพย์ อายุ 54 ปี มีความบกพร่องทางการได้ยิน ส่วนลูกสาววัย 14 ปีที่เป็นทายาทเกิดกับภรรยาเก่าก็อยู่ในวัยเรียน และอยู่ในความดูแลของนางเจริญ จึงอยากวิงวอนให้ทุกหน่วยงานให้ความช่วยเหลือ
ด.ญ.อริศรา ติวงค์ อายุ 14 ปี ลูกสาวของครูอธิคม ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนไชยปราการวิทยาคม กล่าวว่า รู้สึกเสียใจมากที่พ่อต้องเสียชีวิตไป ปกติพ่อจะโทรศัพท์มาหาทุกวันในช่วงเย็น ก่อนเกิดเหตุการณ์พ่อก็ยังโทรมาคุยเหมือนทุกวัน ไม่มีลางบอกเหตุอะไร เคยถามพ่อว่าทำไมต้องตัดสินใจไปสอนที่ภาคใต้ และขอร้องพ่อว่าอย่าไป เพราะเห็นข่าวเป็นประจำว่ามีเหตุยิงชาวบ้าน ครู และเจ้าหน้าที่รัฐ แต่พ่อบอกเสมอว่าถ้าไม่ใช่เพื่องานและเพื่อครอบครัวพ่อก็ไม่ตัดสินใจไป และการไปสอนที่ จ.ปัตตานี ก็เพื่อให้เด็กไทยที่อยู่ในภาคใต้ได้มีโอกาสเรียนหนังสือ
"พ่อเป็นเสาหลักของครอบครัว แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ก็ส่งเงินมาให้เป็นประจำทุกเดือน" ด.ญ.อริศรา กล่าว
ใบปลิวว่อน-โรงเรียน 12 แห่งผวาสั่งปิดชั่วคราว
เหตุการณ์คนร้ายสังหารครูอธิคม ทำให้โรงเรียนบ้านประจัน และโรงเรียนในกลุ่มเครือข่ายบราโอก้าวหน้าอีก 11 โรง รวมเป็น 12 โรง ในพื้นที่ 4 ตำบลของเขตพื้นที่การศึกษาปัตตานีเขต 2 ประกาศปิดการเรียนการสอนชั่วคราว คาดว่าจะเปิดการเรียนการสอนตามปกติอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 26 ส.ค.
ขณะที่การแข่งขันกีฬา-กรีฑานักเรียน "กาเซะห์ ซายังเกมส์" ครั้งที่ 2 ของเครือข่ายโรงเรียนในกลุ่มบราโอก้าวหน้า ที่โรงเรียนชุมชนบ้านสะนอ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ก็เลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดเช่นกัน เพราะครูและผู้จัดการแข่งขันไม่มั่นใจในความปลอดภัย เนื่องจากในเหตุการณ์สังหารครูอธิคม คนร้ายได้ทิ้งใบปลิวขู่ฆ่าชาวไทยพุทธเอาไว้ด้วย โดยอ้างว่าเป็นการแก้แค้นที่คนมลายูมุสลิมถูกฆ่า โดยเฉพาะ นายอับดุลรอฟา ปูแทน อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี ซึ่งถูกคนร้ายยิงถล่มจนเสียชีวิตเมื่อวันพุธที่ 14 ส.ค.2556 ที่ อ.ยะรัง
ขณะที่ นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า เหตุการณ์ยิงครูอธิคมนับเป็นความสูญเสียอีกครั้งหนึ่ง และเป็นครูรายที่ 162 แล้วที่ต้องสังเวยชีวิตเพราะไฟใต้ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงปัญหามากมายหลายมิติที่ต้องเร่งแก้ไขร่วมกันทั้งฝ่ายครูและหน่วยงานความมั่นคงตลอดจนทุกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยครู เนื่องจากหลังเกิดเหตุยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจครูในพื้นที่อย่างมาก เพราะเพิ่งเกิดเหตุคนร้ายยิงครูโรงเรียนบ้านแขนท้าว ต.เกาะจัน อ.มายอ จ.ปัตตานี ได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา
โปรยตะปูเรือใบล่อ จนท.ก่อนบึ้มที่แว้งเจ็บ 4
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนใต้ตลอดวันอังคารที่ 20 ส.ค.ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 11.30 น. วัยรุ่น 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ก่อเหตุโปรยตะปูเรือใบบนถนนสายแว้ง-สุคิริน อ.แว้ง จ.นราธิวาส ต่อมาเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำ อ.แว้ง พร้อมด้วยชาวบ้าน ได้ไปช่วยกันเก็บกวาด ระหว่างนั้นได้มีคนไปดึงถุงปุ๋ยที่วางอยู่ริมถนนซึ่งคนร้ายต่อชนวนระเบิดเอาไว้ บริเวณบ้านกรือซอ หมู่ 1 ต.กายูคละ อ.แว้ง จึงเกิดระเบิดขึ้นและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย คือ นายอาแว เจ๊ะโกะ นายสุไลมาน อาแว เป็น อส.แว้ง นายรอยาลี สะแลแม อายุ 62 ปี และ ด.ช.อิลฮัน สาเม็ง อายุ 8 ปี เป็นชาวบ้าน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เวลา 19.15 น.วันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิง นายรอเสะ สาแม อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 บ้านลูโบะบาตู หมู่ 3 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เสียชีวิตขณะขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนในหมู่บ้านเพื่อกลับบ้านหลังเสร็จจากพิธีละหมาด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
รวบ 3 ผู้ต้องสงสัยฆ่าตำรวจ - ปะทะที่รือเสาะวิสามัญฯ 1 ราย
ส่วนความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายยิงถล่มรถตำรวจ สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ทำให้ตำรวจเสียชีวิต 4 นาย เหตุเกิดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 3 ราย จากปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ในท้องที่หมู่ 3 ต.รือเสาะ โดยผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัว คือ นายสุกรี สาและ อายุ 22 ปี นายอับดุการิม สาและ อายุ 30 ปี ซึ่งทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน และ นายไพซู สาลาแม อายุ 24 ปี ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่มีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุ โดยจากการตรวจค้นบ้านพบเสื้อกีฬาลักษณะคล้ายกับที่คนร้ายสวมใส่ในวันเกิดเหตุ และเจ้าหน้าที่ยังได้ยึดรถกระบะยี่ห้อมาสด้า สีเขียว หมายเลขทะเบียน บล 419 ยะลา ไปตรวจสอบด้วย เบื้องต้นผู้ต้องสงสัยทั้งหมดอ้างว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ยิงถล่มตำรวจ
นอกจากนั้น ยังมีผลตรวจปลอกกระสุนปืนจากอาวุธปืนที่คนร้ายใช้ยิง ปรากฏว่าเคยก่อเหตุรุนแรงมาแล้วนับสิบเหตุการณ์ในพื้นที่ อ.รือเสาะ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส และ อ.รามัน จ.ยะลา
วันพุธที่ 21 ส.ค. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 สนธิกำลังกับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 และชุดสืบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) รวมทั้งตำรวจ สภ.รือเสาะ เข้าปิดล้อมตรวจค้นเพื่อจับกุมบุคคลเป้าหมายที่บ้านกือเล็งตก หมู่ 4 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ แต่ขณะเข้าปฏิบัติการ ผู้ต้องสงสัยติดอาวุธไหวตัวทัน พากันวิ่งหลบหนีขึ้นไปบนภูเขากือเล็ง เจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังไล่ติดตามและเกิดการยิงปะทะกันในช่วงค่ำ ทำให้ผู้ต้องสงสัยเสียชีวิต 1 ราย พร้อมยึดอาวุธปืนเอชเค 33 ได้ 1 กระบอก
จากการตรวจสอบประวัติผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายมะอีซอ ดอเลาะ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 4 บ้านรือเสาะ ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส มีหมายจับคดีความมั่นคง 5 หมาย เป็นหมายที่ออกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา)
อนึ่ง ในห้วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาในพื้นที่ อ.รือเสาะ มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากวันศุกร์ที่ 9 ส.ค. เจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นที่หมู่ 9 บ้านพงยือติ ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ และเกิดการยิงปะทะกับกลุ่มติดอาวุธต้องสงสัย ก่อนวิสามัญฆาตกรรม นายมูฮัมหมัดสะแปอิง แวกะจิ และ นายอุสมาน แวกะจิ ซึ่งเป็นพี่น้องกัน มีภูมิลำเนาอยู่บ้านสโล หมู่ 7 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ
ต่อมาวันศุกร์ที่ 16 ส.ค. คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มรถตำรวจ สภ.รือเสาะ บนถนนหน้าโรงเรียนอนุบาลรือเสาะ ทำให้ตำรวจเสียชีวิตในคราวเดียวถึง 4 นาย และล่าสุดวันพุธที่ 21 ส.ค. เจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นที่บ้านกือเล็งตก หมู่ 4 ต.รือเสาะออก และได้วิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องหาคดีความมั่นคง 1 รายดังกล่าว
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : สภาพรถยนต์ของ นายฮูมัยดี มูซอ อุสตาซโรงเรียนมุสลิมชุมชนอิสลามศึกษา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ที่เสียหลักพุ่งชนกำแพงบ้านชาวบ้านริมถนน หลังถูกคนร้ายประกบยิงจนเจ้าตัวเสียชีวิต
ขอบคุณ : ภาพจากเจ้าหน้าที่ชุดตรวจจุดเกิดเหตุ