- Home
- Isranews
- เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา
- "ณรงค์ชัย คุณปลื้ม"ชี้ไร้หลักฐานเอาผิด“มือวางน้ำมัน”หาดบางแสนลอยนวล
"ณรงค์ชัย คุณปลื้ม"ชี้ไร้หลักฐานเอาผิด“มือวางน้ำมัน”หาดบางแสนลอยนวล
"ณรงค์ชัย คุณปลื้ม" นายกเทศบาลเมืองแสนสุข เชื่อน้ำมันท่วมหาดบางแสน มาจากเรือขนถ่ายสินค้า ไม่เกี่ยวเหตุการณ์ทะเลระยองแต่คงจับตัวใครไม่ได้ ภาพถ่ายดาวเทียมมองไม่เห็นหลักฐาน - นักวิชาการจี้ ส่งตัวอย่างตรวจดีเอ็นเอ
(ภาพ นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม จากSiam Ocean World Club)
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข ตำบลแสนสุข อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าน้ำมันที่รั่วไหลเข้ามาในหาดบางแสน มาจากแหล่งไหน แต่เชื่อว่าไม่ใช่น้ำมันดิบ อาจเป็นน้ำมันเครื่องหรือน้ำมันเตาจากเรือขนถ่ายสินค้าซึ่งคงต้องรอผลการตรวจสอบที่แน่ชัดอีกครั้ง ว่าเป็นน้ำมันเครื่องชนิดใด ปัจจุบันยังไม่ได้รับทราบผลการตรวจพิสูจน์คราบน้ำมันจากมหาวิทยาลัยบูรพาและศูนย์วิจัยมาบตาพุด ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14 วัน
“เราได้รับข้อมูลมาว่าทาง GISDA ส่งข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมในวันที่เกิดเหตุมาให้แล้ว แต่ไม่เห็นหลักฐานอะไร คงจบได้ยากแล้ว จากนี้ก็คงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งเทศบาลตำบลแสนสุขในฐานะผู้เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรแล้ว เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา ”
นายณรงค์ชัย กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันคราบน้ำมันที่ชายหาดบางแสนเก็บได้หมดแล้ว แต่เมื่อวันที่ 12-13 ตุลาคม ที่ผ่านมา แต่ยังมีคราบน้ำมันปรากฏให้เห็นที่แหลมแท่น แต่ที่บางแสนน้ำทะเลใสแล้ว วันนี้นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้ตามปกติ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่คราบน้ำมันดังกล่าวจะมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลที่ จ.ระยอง นายณรงค์กล่าวว่า “น้ำมันนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับที่ระยอง เพราะเป็นน้ำมันเครื่องหรือน้ำมันเตา แต่ไม่ใช่น้ำมันดิบและปริมาณน้ำมันไม่ใช่ 50 ตันตามที่เป็นข่าว เป็นการเข้าใจผิด 50 ตันที่ว่านี้หมายถึงปริมาณขยะที่ปนเปื้อนน้ำมัน”
เมื่อถามถึงความเกี่ยวข้องของบริษัทไทยออยล์ ต่อกรณีนี้ นายณรงค์ชัยกล่าวว่า “การเก็บกู้คราบน้ำมันในครั้งนี้เป็นหน้าที่ของเทศบาล เราเก็บกู้เองทั้งหมด ไทยออยล์ไม่ได้มาช่วย เพียงแต่มาคอยดูว่าเรามีอะไรจะให้ช่วยไหม หากอนาคตต้องการให้ใช้สารขจัดคราบเขาก็พร้อมช่วยเหลือ แต่ในวันนี้ เรามองว่าเหตุการณ์ยังไม่ถึงขั้นต้องให้ไทยออยล์เข้ามาช่วยเพราะคราบน้ำมันที่เกิดขึ้นเป็นเพียงน้ำมันที่เข้ามาปนเปื้อนกับขยะ เราก็ใช้รถตักเก็บขยะไปเก็บไว้ในสถานที่มั่นใจว่าปลอดภัย วิธีการเก็บกู้ก็เป็นแบบนี้ในเบื้องต้น"
"ส่วนที่ถามว่ามีการใช้ทุ่นล้อมกักน้ำมันไหม ไม่เลยครับ เพราะเหตุการณ์มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น มีเพียงการเก็บขยะ เก็บฟิล์มน้ำมัน และเราคงไม่มีงบประมาณไปจ้างไทยออยล์หรือหากจะขอคำปรึกษาในอนาคต เราก็ต้องทำหนังสือแจ้งไปอย่างเป็นทางการ ตอนนี้ปัญหาก็เหลือเพียงคราบน้ำมันที่ยังติดอยู่ตามซีเมนต์”
ขณะที่ ดร.สมนึก จงมีวศิน นักวิชาการอิสระด้านสิ่งแวดล้อม อดีตวิศวกรด้านธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า การจะทราบว่าน้ำมันที่ไหล ปนเปื้อนหาดบางแสนมาจากแหล่งไหน วิธีการที่ดีที่สุด คือการตรวจ DNA น้ำมัน และตรวจสอบถึงคุณลักษณะทางกลิ่นของน้ำมันครั้งนี้
“คราบน้ำมันที่เกิดขึ้นในหาดบางแสน ขณะนี้ อาจมองได้ 3 ประการ ประการแรกอาจเป็นน้ำมันที่แอบทิ้งจากอับเฉาเรือแล้วไหลลงมายังหาดบางแสน ประการที่ 2 อาจเป็นน้ำมันที่ทิ้งจากในแถบนี้เอง และประการที่ 3 อาจมีความเป็นไปได้ที่เป็นน้ำมันดิบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วไหลในระยอง”
ดร.สมนึก ยังกล่าวต่อไปว่า “จริงอยู่ ที่นักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์และนักสมุทรศาสตร์ให้ข่าวว่าในทางวิชาการแล้วไม่มีทางเป็นไปได้ที่น้ำมันดิบจากระยองจะไหลมาถึงบางแสน แต่ชาวประมงหลายคนยืนยันกับผมว่าภูมิปัญญาชาวบ้านที่สืบต่อกันมาเขารู้ว่ามีคลื่นใต้น้ำ คือใต้ทะเลจะมีช่องทางที่กระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางและเป็นไปได้ที่อาจจะส่งผลให้มีคราบน้ำมันดิบลอยมาถึงนี่ แต่ก็เป็นเพียงภูมิปัญญาที่เขาเล่าสืบกันมา”
“เพราะฉะนั้น หลักฐานสำคัญที่จะพิสูจน์ได้ดีที่สุดว่าคราบน้ำมันที่บางแสนนี้เป็นน้ำมันจากที่ไหน และใช่น้ำมันดิบจากระยองหรือไม่ ควรต้องมีการส่งไปตรวจหา DNA น้ำมันที่ศูนย์วิจัยในต่างประเทศ เนื่องจากน้ำมันประเภทเดียวกัน ชนิดเดียวกันจากแหล่งเดียวกัน จะมี DNA เหมือนกัน ขณะนี้ ในเมืองไทยยังไม่มีเครื่องมือที่สามารถพิสูจน์ DNA น้ำมันได้ ทั้งที่ การพิสูจน์ DNA น้ำมันเป็นสิ่งสำคัญมากและรัฐบาลออสเตรเลียเคยใช้กรณีนี้พิสูจน์ความจริงมาแล้วในเหตุการณ์มอนทารา เนื่องจากมีการโต้แย้งว่าน้ำมันดิบที่ปนเปื้อนไปไกลถึงอินโดนีเซียไม่ใช่น้ำมันจากเหตุการณ์ที่มอนทารา”