- Home
- Isranews
- เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา
- "ส.ส." ลาออก ...เสียอะไรบ้าง?
"ส.ส." ลาออก ...เสียอะไรบ้าง?
มีข้อสงสัยกันว่า การลาออกจากตำแหน่ง “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)” ของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” กับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อีก 8 คน จะทำให้เสียอะไรไปบ้าง
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า นอกจาก “เอกสิทธิ์” ที่บัญญัติไว้ใน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 131 ที่ระบุว่า “ในระหว่างสมัยประชุม ห้ามมิให้จับ คุมขัง หรือหมายเรียกตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา ไปทำการสอบสวนในฐานะที่สมาชิกผู้นั้นเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา เว้นแต่ในกรณีที่ได้รับอนุญาตจากสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิก หรือในกรีที่จับในขณะกระทำความผิด”
“อดีต ส.ส.” เหล่านั้นยังจะเสียสิทธิและประโยชน์หลายประการ
ทั้งนี้ ตาม พระราชกฤษฎีกา (พรฎ.) เงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานและรองประธานวุฒิสภา ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และกรรมาธิการ พ.ศ.2555
ส.ส.จะได้เงินประจำตำแหน่ง เดือนละ 71,230 บาท และเงินเพิ่ม เดือนละ 42,330 บาท รวม 113,560 บาท
ส.ส.มีสิทธิได้รับเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งตามจำนวนที่จ่ายจริงไม่เกินอัตราที่กำหนดไว้ในบัญชีท้าย พ.ร.ฎ.นี้อาทิ กรณีรักษาพยาบาลผู้ป่วยใน ค่าห้องและค่าอาหารต่อวัน (ไม่เกิน 31 วันต่อครั้ง) ไม่เกิน 4,000 บาท ค่าห้องไอซียู/ซีซียูต่อวัน (สูงสุด 7 วันต่อครั้ง) ไม่เกิน 10,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลทั่วไปต่อครั้ง ไม่เกิน 100,000 บาท ค่ารถพยาบาล ไม่เกิน 1,000 บาท ค่าแพทย์ผ่าตัดต่อครั้ง ไม่เกิน 120,000 บาท ค่าการคลอดบุตร ตามธรรมชาติ ไม่เกิน 20,000 บาท โดยการผ่าตัด ไม่เกิน 40,000 บาท ค่าการรักษาทันตกรรมต่อปี ไม่เกิน 5,000 บาท ฯลฯ
ส.ส.มีสิทธิได้รับการประกันสุขภาพกลุ่มในระหว่างดำรงตำแหน่งตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเกี่ยวกับการประกันสุขภาพของสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2540 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ส.ส.มีสิทธิเบิกค่าโดยสารรถไฟ รถยนต์ประจำทาง และเครื่องบิน เพื่อใช้ในการไปปฏิบัติหน้าที่
ส.ส.มีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ โดยการนำ พรฎ.ว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการในส่วนที่เกี่ยวกับการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราวมาใช้บังคับโดยอนุโลม
นอกจากนี้ หาก ส.ส.ดังกล่าวเป็นกรรมาธิการ (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร ไม่ว่าจะเป็น กมธ.สามัญหรือ กมธ.วิสามัญ ยังจะได้รับสิทธิประโยชน์บางประการเพิ่มเติม อาทิ เบี้ยประชุมเป็นรายครั้งๆ ละ 1,500 บาท
(ดู พรฎ.เงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นฯ ฉบับเต็ม ได้ที่ www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2555/A/050/1.PDF)
ไม่เพียงเท่านั้น ส.ส.ที่ลาออกจากตำแหน่ง ยังเสีย "อำนาจและหน้าที่" สำหรับการทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วย
1.อำนาจในการตรากฎหมาย ทั้งการเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การพิจารณาร่าง พ.ร.บ. การอนุมัติหรือไม่อนุมัติพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ การพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ฯลฯ
2.อำนาจในการควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งการตั้งกระทู้ถาม การเสนอญัตติ โดยเฉพาะการเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ฯลฯ
3.สิทธิเข้าชื่อเพื่อถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
4.อำนาจในการควบคุมการตรากฎหมายหรือขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ เช่นการเข้าชื่อเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.ที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้วฉบับใดขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่
5.อำนาจในการให้ความเห็นชอบ
- การให้ความเห็นชอบในการสืบราชสมบัติ
- การให้ความเห็นชอบในการแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
- การให้ความเห็นชอบในการเปิดสมัยประชุมสามัญก่อนครบกำหนดเวลา 120 วัน
- การให้ความเห็นชอบในการประกาศสงคราม
- การให้ความเห็นชอบในการทำหนังสือสัญญาระหว่างประเทศ
(อ้างอิงข้อมูลจาก http://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/parliament_parcy/ewt_w3c/ewt_dl_link.php?nid=8464)
ภาพประกอบ - สุเทพ เทือกสุบรรณ (ที่ 2 จากขวา) ขณะนำ ส.ส.ปชป.อีก 8 คน ที่ประกาศลาออกจากตำแหน่ง มาปรากฎตัวบนเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 จากแฟนเพจ Suthep Thaugsuban