- Home
- Isranews
- เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา
- คำต่อคำ "สุเทพ"เจรจาลับ"ยิ่งลักษณ์" ครั้งแรก และครั้งสุดท้าย!!
คำต่อคำ "สุเทพ"เจรจาลับ"ยิ่งลักษณ์" ครั้งแรก และครั้งสุดท้าย!!
"..ได้บอกกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หมดความชอบธรรมาทางกฎหมายตั้งแต่วันที่ ประกาศไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งนั่นหมายความว่า รัฐบาลนี้ปฏิเสธที่จะเคารพและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ (รธน.) จึงเป็นรัฐบาล ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายอีกต่อไป.."
หมายเหตุ: นายสุเทพ เทือกสุบรรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ได้นั่งปราศรัยถึงผลการเดินทางไปเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ ร.1 พ.4 ถ.วิภาวดี – รังสิต เพื่อหารือเกี่ยวกับกรณีสถานการณ์ความขัดแย้ง ในช่วงหัวค่ำของวันที่ 1 ธันวาคม 2556 ที่ผ่ีานมา
00000000
นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ได้มีการเจรจาต่อรองใด ๆ ได้เรียนต่อหน้า ผบ. 3 เหล่าทัพว่า ผมไม่ได้รับมอบหมายจากพี่น้องประชาชนให้มาเจรจาต่อรองใด ๆ กับรัฐบาลทั้งสิ้น เพียงแต่จะมาบอกกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ (ชินวัตร) นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมว่า บัดนี้ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ได้ลุกขึ้นแสดงความเป็นเจ้าของประเทศไทย ประชาชนคนไทยซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง ได้ประกาศตัวลุกขึ้นทวงคืนประเทศไทย จากระบอบทักษิณ ในวันนี้แล้ว อย่างเปิดเผย และกล้าหาญ
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ได้บอกกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หมดความชอบธรรมาทางกฎหมายตั้งแต่วันที่ ประกาศไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งนั่นหมายความว่า รัฐบาลนี้ปฏิเสธที่จะเคารพและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ (รธน.) จึงเป็นรัฐบาล ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายอีกต่อไป
“นอกจากจะเป็นรัฐบาลที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว รัฐบาลนี้ก็หมดความชอบธรรมในทางการเมืองที่จะบริหารประเทศอีกต่อไป เพราะประชาชนเจ้าของประเทศ ได้ลุกขึ้นยืนปฏิเสธอำนาจในการบริหารราชการบ้านเมืองของรัฐบาลชุดนี้แล้วในวันนี้ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวต่ออีกว่า ได้บอกกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์อีกว่า ประชาชนมีความประสงค์ที่จะใช้อำนาจปฏิบัติใหม่ของประชาชน ซึ่งจะเป็นประชาธิปไตยทางตรง และยังมีเจตนารมย์ร่วมกันแน่วแน่ว่า จะเข้ามาจัดการแก้ไขบ้านเมืองด้วยมือของประชาชนเอง และถ้านายกฯ ยอมฟังเสียงประชาชนยอมส่งมอบอำนาจให้กับประชาชนโดยดี เราก็จะปฏิบัติต่อยิ่งลักษณ์ ด้วยความเป็นสุภาพชน เพราะพวกเราทั้งหลายล้วนแต่เป็นพลเมืองดีทั้งสิ้น
“เหตุที่ประชาชนทั้งหลายได้พร้อมใจลุกขึ้นประกาศตน ที่จะเข้ามาจัดการบริหารบ้านเมืองด้วยมือของประชาชนเอง เพราะประชาชนไม่สามารถที่จะอดทนต่อระบอบทักษิณได้อีกต่อไป” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ ยังกล่าวต่ออีกว่า ขอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ฟังเสียงประชาชนและยอมที่จะคืนอำนาจให้กับประชาชน เพราะประชาชนไม่พึงพอใจที่จะให้มีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ไม่พึงพอใจเพียงแค่ยุบสภา หรือนายกฯ ลาออก แต่ประชาชน ประสงค์ที่จะเข้ามาดำเนินการด้วยอำนาจของประชาชน เพื่อให้ประเทศไทยนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันสมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และนี่คือสิ่งที่ประชาชนต้องการให้ผมบอกกับยิ่งลักษณ์ โดยตรง ซึ่งหน้า และชัดเจนที่สุด
นายสุเทพ กล่าวต่อไปว่า ได้บอกกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อหน้า ผบ. ทั้ง 3 เหล่าทัพว่า ประชาชนลุกขึ้นกระทำการครั้งนี้ เพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญ และเพื่อประเทศไทย ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง หรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ต่อไปนี้ ป็นเรื่องของประชาชน ไม่ใช่เรื่องของพรรคการเมืองใดทั้งสิ้น จนกว่าประชาชน จะได้จัดตั้งสภาประชาชน และรัฐบาลของประชาชน เพื่อดำเนินการเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ปฏิรูปบ้านเมือง ให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็จะคืนอำนาจให้เป็นการตัดสินตามกระบวนการประชาธิปไตย พรรคการเมืองใดจะลงมาสมัครรับเลือกตั้ง ก็ต้องอยู่ภาทยใต้กฎเกณฑ์กติกาที่เป็นประชาธิปไตยอันบริสุทธิ์ และอำนจประชาชนจะสิ้นสุดลงเมื่อบ้านเมืองได้รับการจัดการเรียบร้อยอย่างที่เรียนมา
ทั้งนี้นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ได้แจ้งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ทราบว่า ทางออกของประเทศไทยมีอย่างเดียว คือให้ประชาชน ได้เข้ามามีอำนาจในการจัดการประเทศตามเจตนารมย์ของประชาชน โดยรวมทั้งประเทศที่ลุกขึ้นในคราวนี้ไม่มีทางเลือกอื่น ไม่มีข้อต่อรองใด ๆ ทั้งสิ้น และยืนยันว่าสิ่งที่ประชาชนได้ดำเนินการมาและดำเนินการต่อไป จะต้องเสร็จสิ้นเรียบร้อยภายใน 2 วันนี้
“จึงไม่มีข้อเรียกร้อง ข้อต่อรองใด ๆ ที่ต่อรองกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์จะยินยอมโดยดี มอบอำนาจคืนให้ประชาชน หรือจะดำเนินการอย่างไรก็เป็นเรื่องของยิ่งลักษณ์ และคณะ ส่วนประชาชนจะเดินหน้าต่อไปจนกว่าจะมีอำนาจในการบริหารจัดการประเทศได้เต็มที่ และบรรลุเป้าหมายตามเจตนารมย์ที่ประชาชนได้กำหนดรวมกันในครั้งนี้เท่านั้น”
นอกจากนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้ตอบข้อที่ผมได้กราบเรียนไปแต่อย่างใด ผมถือว่าผมได้เป็นตัวแทนของประชาชน บอกเจตนารมย์ที่แท้จริงของมวลมหาประชาชนต่อยิ่งลักษ์ และได้บอกอีกว่านี่จะเป็นการพบกันครั้งเดียว ระหว่างตนกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และจะไม่มีการพบกันอีก จนกว่าชัยชนะจะเป็นของประชาชน
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ได้บอก น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า ประชาชนกระทำการครั้งนี้จะยึดหลักสันติ สงบ และปราศจากอาวุธ จะใช้วิธีการอหิงสาเท่านั้น ไม่ว่ารัฐบาลจะใช้วิธีการอย่างไรกับเรา เราก็จะเดินหน้าด้วยวิธีการสันติ สงบ ปราศจากอาวุธ ต่อไปและไม่กลัวรัฐบาล
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ได้แจ้งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ทราบว่า ถ้าหากฝ่ายรัฐบาลใช้มาตรการรุนแรงกับประชาชน มีผู้บาดเจ็บ มีผู้เสียชีวิต แบบที่รัฐบาลทำกับ นศ.รามคำแหง เมื่อคืนนี้ ประชาชนจะไม่ยอมอีกต่อไป และจะลุกขึ้นโดยพร้อมกันทั้งประเทศ
“ได้บอกยิ่งลักษณ์ว่า ถ้านายกฯคิดปราบปรามประชาชน จะจับกุมผม หรือจะฆ่าผม ก็จะมีประชาชนอีกหลายสิบล้านคนลุกขึ้นมาทำการแทนผม จนกว่าจะบรรลุผลตามเจตนารมย์ของประชาชน” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวต่อไปว่า ให้นายกฯได้พึงสดับว่าประชาชนทั้งประเทศ ไม่อดทนอีกต่อไป และไม่มีเวลาให้รัฐบาล ยืดเยื้อ เจรจา ด้วยประการใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะนี้ไม่ใช่เงื่อนไข ไม่ใช่การต่อรอง แต่เป็นเจตนารมย์ร่วมกันของคนไทยทั้งประเทศ ที่ไม่ยอมให้มีระบอบทักษิณขึ้นในแผ่นดินนี้อีกต่อไปแล้ว
“การตัดสินใจไปพบยิ่งลักษณ์ เพราะเป็นการพบกันต่อหน้า ผบ. 3 เหล่าทัพ ไม่มีอะไรที่จะเป็นความลับ ไม่มีเรื่องลับลมคมใน เป็นเรื่องที่จะสื่อสารให้เข้าใจว่าประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศคิดอย่างไร และต้องการอย่างไรเท่านั้นเอง” นายสุเทพ กล่าว
ทั้งนี้นายสุเทพ กล่าวว่า จะไม่ขอพูดถึงรายละเอียดของการเจรจาตอบโต้ แต่จะเรียนว่าเป็นโอกาสดีที่ตนในฐานะตัวแทนของประชาชน ได้ประกาศจุดยืนของประชาชนในการกระทำการครั้งนี้ต่อหน้า ผบ. 3 เหล่าทัพ อย่างเปิดเผย ชัดแจ้ง และตรงไปตรงมา
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ได้บอก น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่าสำหรับพี่น้องตำรวจ ถ้าวางอาวุธไม่ทำร้ายประชาชนอีกต่อไป เราก็พร้อมที่อ้าแขนต้อนรับ เพราะตำรวจเหล่านั้นก็เป็นข้าราชการของประชาชนเช่นเดียวกัน
“ได้บอกยิ่งลักษณ์ว่า ที่วันนี้ประชาชนต้องไปล้อมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) เพราะไม่ต้องการให้ตำรวจเหล่านั้นยกกำลังพร้อมอาวุธ ยกมาทำร้ายประชาชน เป็นการป้องกันตนโดยชอบตามกฎหมายเป็นประเพณีตามอารยะขัดขืนโดยแท้
นายสุเทพ กล่าวต่อไปว่า ในการพบกันคราวนี้ ตนคิดว่าเป็นข่าวดี เพราะ ผบ. 3 เหล่าทัพ ได้แสดงเจตนารมย์ชัดเจนว่ากองทัพยืนหยัดข้างประเทศไทย และ ผบ.ทบ. ได้พูดต่อหน้า ผบ. ทุกเหล่าทัพ และนายกฯ ว่า กองทัพไม่ต้องการเห็นประชาชนบาดเจ็บล้มตาย เพราะกองทัพยืนอยู่ข้างประเทศไทย
“ผมได้เรียนกับ ผบ. 3 เหล่าทัพว่า พวกเราที่ลุกขึ้นกระทำการครั้งนี้ มีเจตนารมย์ทีแน่วแน่ ทำงานครั้งนี้เพื่อประเทศ เพื่อลูกหลานของเรา และเราจะยึดหลักสันติ อหิงสา เราไม่บีบบังคับข้าราชการกลุ่มใดทั้งสิ้นข้าราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ให้ใช้ดุลยพินิจ และตัดสินใจอยู่ข้างประชาชน” นายสุเทพ กล่าว
ทั้งนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ฉะนั้นขอกราบเรียนไปถึงพี่น้องประชาชน ผู้รักชาติว่า เราจะเดินหน้าปฏิบัติการของเราต่อไป ขอเรียนไปถึงข้าราชการทุกกรมกอง ทุกแผนกการ ไม่ว่าจะเป็นพลเรือน ตำรวจ ทหาร ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ต้องหยุดปฏิบัติราชการ ไม่ทำตนเป็นสมุนรับใช้ระบอบทักษิณอีกต่อไป และจงมายืนอยู่ข้างประชาชน
“ที่ได้ปฺฏิบัติการ สตช. บชน. ว่าขอให้พี่น้องอดกลั้น อดทน อยู่ที่นั่น และไม่แสดงอาการที่รุนแรงใด ๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งพี่น้องทั้งหลายที่ได้รวมตัวกันอยู่บริเวณรอบ ๆ ทำเนียบรัฐบาล และได้บอกกับยิ่งลักษณ์ และ ผบ. 3 เหล่าทัพว่า เรารู้ดีว่าการที่จะต้องกระทำการอย่างนี้ หรือแม้แต่ต้องล่วงล้ำในพื้นที่ราชการเป็นความจำเป็น และเราพร้อมที่จะรับการดำเนินคดี พิจารณาคดี ตามกฎหมาย โดยไม่หลีกเลี่ยง ขอให้ชาติอยู่รอด เดินหน้าไปได้ประชาชน พอใจแล้ว” นายสุเทพ กล่าว