- Home
- Isranews
- เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา
- มติครม.ถมเงินระบายข้าวถุง 7พันล.ชงผ่านกลั่นกรองชุด“กิตติรัตน์”
มติครม.ถมเงินระบายข้าวถุง 7พันล.ชงผ่านกลั่นกรองชุด“กิตติรัตน์”
เปิดเส้นทาง "มติ ครม."ถมเงินโครงการทุจริตระบายข้าวถุง 7,100 ล้าน พบชงผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองชุด “กิตติรัตน์” ก่อนไฟเขียวตามข้อเสนอกระทรวงพาณิชย์ ไร้ข้อทักท้วง?
ในการนำเสนอขอจัดสรรงบประมาณค่าใช้จ่ายในการขายข้าวสารที่ใช้ไปในโครงการตามนโยบายของรัฐบาล วงเงิน 7,100 บาท คืนให้กับกระทรวงพาณิชย์ ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่กำลังถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องความเหมาะสม หลังการดำเนินงานโครงการระบายข้าวถุงที่ถูกตรวจสอบพบปัญหาการทุจริต ปรากฏเป็นโครงการหนึ่งที่จะได้รับเงินส่วนนี้คืนด้วยเป็นวงเงินถึง 5,589,409 ล้านบาท
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า ในการนำเสนอโครงการขออนุมัติคืนเงินให้กับกระทรวงพาณิชย์ จำนวน 7,100 ล้านบาท ต่อที่ประชุมครม.ดังกล่าว แยกเป็น
1.จัดทำข่าวสารบรรจุถุงเพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน จำนวน 2,500,000 ตัน และได้มีการเบิกข้าวจากโกดังไปทำข้าวสารบรรจุถุง จำนวน 1,110,901 ตัน แต่ดำเนินการจริงจำนวน 593,047 ตัน เมื่อนำไปคำนวณกับราคาตลาด จะคิดเป็นเงินที่ขอรับการจัดสรร จำนวนทั้งสิ้น 5,589.409 ล้านบาท
2.ข้าวบริจาค ที่กขช.มีมติอนุมัติการจัดทำข้าวถุงเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดต่างๆ ปริมาณ 60,000 ตัน โดยจำหน่ายในราคาตันละ 1 บาท เป็นข้าวของ อคส.และอ.ต.ก.หน่วยละ 30,000 ตัน และอนุมัติช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติประเทศฟิลิปปินส์ ปริมาณ 500 ตัน โดยไม่คิดมูลค่า เมื่อนำไปคำนวณกับราคาตลาด จะคิดเป็นเงินที่ขอรับการจัดสรร จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 966.473 ล้านบาท
3.ข้าวจำหน่ายให้องค์กรของรัฐ กขช.และคณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว ได้มีมติอนุมัติให้จำหน่ายข้าวให้กรมราชทัณฑ์ เพื่อสำหรับใช้บริโภคของผู้ต้องขัง และจำหน่ายข้าวให้กับกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เพื่อสำหรับใช้บริโภคของเด็กและเยาวชนที่อยู่ในความควบคุม จำนวน 71,580 ตัน แต่มารับมอบข้าว จำนวน 58,165 ตัน เมื่อนำไปคำนวณกับราคาตลาด จะคิดเป็น เงินที่ขอรับการจัดสรร จำนวนทั้งสิ้น ประมาณ 492.309 ล้านบาท
มิได้เป็นการนำเสนอเรื่องตรงจากกระทรวงพาณิชย์ แต่มีการนำเรื่องผ่านที่ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองเพื่อพิจารณาความถูกต้องและความเหมาะสมอีกครั้งก่อน
โดยเรื่องนี้ ได้มีการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุม คณะกรรมการกลั่นกรองฯ คณะที่ 1 (ฝ่ายเศรษฐกิจ) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) เป็นประธานกรรมการพิจารณาเรื่องดังกล่าวในคราวประชุมครั้งที่ 1/2556 เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2556
โดยที่ประชุมมีประเด็นอภิปรายและมติ ดังนี้
1. กระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การบริจาคข้าวให้กับผู้ประสบภัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ การขายข้าวต่ำกว่าราคาตลาดในโครงการธงฟ้าและให้องค์กรของรัฐ เป็นการดำเนินงานเพื่อช่วยเหลือมนุษยธรรม และเพื่อช่วยลดค่าครองชีพของประชาชน
2.ฝ่ายเลขานุการฯ ให้ความเห็นว่า การดำเนินงานทั้ง 3 โครงการเป็นการช่วยเหลือประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศในภาวะจำเป็น จึงเห็นควรให้รัฐบาลจัดสรรเงินช่วยเหลือ ซึ่ง พณ. ยืนยันเรื่องการขอจัดสรรงบประมาณฯ เป็นไปตามมติ กขช. ในคราวประชุมครั้งที่ 9/2556 เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2556
3. การดำเนินงานทั้ง 3 โครงการของ พณ. เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และก่อให้เกิดผลการขาดทุนทางบัญชีจากส่วนต่างของราคาที่ขายได้ให้กับราคาตลาด ซึ่งไม่ได้เกิดจากผลของโครงการรับจำนำข้าวเปลือก รัฐบาลจึงควรจัดสรรงบประมาณมาคืนให้กับ พณ. ทั้งนี้ในระยะต่อไป มีความจำเป็นต้องดำเนินโครงการในลักษณะดังกล่าว เห็นควรให้หน่วยงานเจ้าของโครงการเสนอ ครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการ และขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป
ภายหลังการอภิปรายดังกล่าว คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี มีมติ เห็นควรเสนอ ครม. พิจารณาอนุมัติงบประมาณเพื่อชดเชยส่วนต่างขอราคาที่ได้รับอนุมัติให้จำหน่ายกับราคาตลาดจากการดำเนินโครงการข้าวสารบริจาค ข้าวสารธงฟ้า และข้าวสารจำหน่ายให้องค์กรของรัฐ ตามข้อเสนอของกระทรวงพาณิชย์
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าการพิจารณาเรื่องนี้ ของคณะกรรมการกลั่นกรอง ไม่ได้นำประเด็นปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้นในโครงการระบายข้าวถุง เข้ามาพิจารณาด้วยแต่อย่างใด ทั้งที่ ปรากฏข้อมูลผ่านสื่อมวลชนมานานหลายเดือนแล้ว