- Home
- Isranews
- เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา
- ป.ป.ช.เรียก"ยิ่งลักษณ์" รับทราบข้อกล่าวหาคดีไม่ยับยั้งจำนำข้าว27 ก.พ.นี้
ป.ป.ช.เรียก"ยิ่งลักษณ์" รับทราบข้อกล่าวหาคดีไม่ยับยั้งจำนำข้าว27 ก.พ.นี้
ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์เรียก "ยิ่งลักษณ์" รับทราบข้อกล่าวหาคดีไม่ยับยั้งจำนำข้าว ทำชาติเสียหาย 27 ก.พ.นี้ เวลา 14.00 น. ยันยืนทำงานตามขั้นตอนรอบคอบ ไม่มีลำเอียง
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. แถลงว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้เรียก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาพบและแจ้งข้อกล่าวหาในคดีถูกกล่าวหาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และระบายข้าว โดยเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ทางราชการ ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 14.00 น.
นายวิชา กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มารับทราบข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการแล้ว ป.ป.ช. จะเปิดโอกาสให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ใช้สิทธิ์ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ก่อนที่จะมีการสอบผลชี้มูลความผิดในขั้นตอนต่อไป
ส่วนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกมาเรียกร้องให้ ป.ป.ช. พิจารณาคดีรับจำนำข้าวอย่างเป็นธธรรม ไม่เหลือปฏิบัติ ไม่ลำเอียงมีวาระซ่อนเร้นนั้น นายวิชากล่าวว่า ในการประชุมวันนี้ ป.ป.ช. ได้พิจารณาแล้ว และขอยืนยันว่าป.ป.ช.ได้ดำเนินการกระบวนการตรวจสอบคดีนี้ ตามขั้นตอนทางกฎหมาย ไม่มีการลำเอียงแต่อย่างใด ฝากเรียนไปถึงนายกฯ ด้วยว่า เรื่องนี้ ป.ป.ช. ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว
นายวิชา ยังระบุด้วยว่า การไต่สวนคดีนี้ ได้ดําเนินการไต่สวนมาระยะหนึ่งแล้วปรากฏว่า จากการไต่สวน มีพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคลและพยานเอกสารยืนยันชัดเจนว่า ผู้ถูกกล่าวหาในฐานะ นายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ได้รับหนังสือจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ทักท้วงว่าโครงการดังกล่าวจะก่อให้เกิดปัญหาทุจริตอย่างมหาศาล โดยเฉพาะการทุจริตทุกขั้นตอน และทุกกระบวนการในการดําเนินการ นอกจากนี้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบเรื่องทุจริตในการดําเนิน โครงการจากการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร
อีกทั้งยังได้รับรายงานเรื่องผลของการดําเนินโครงการจาก ประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจํานําข้าวเปลือกว่าเสียหายถึงสองแสนล้านบาท รวมทั้ง ชาวนาที่ร่วมโครงการยังไม่ได้รับเงินอีกเป็นจํานวนมากทําให้เดือดร้อนเสียหายอย่างหนัก ประกอบกับมี หนังสือจากสํานักงานตรวจเงินแผ่นดินถึงผู้ถูกกล่าวหาให้ทบทวนและยุติโครงการดังกล่าว ซึ่งการ ดําเนินการในปัจจุบันได้เกิดปัญหาทุจริตในการรับจํานําข้าว การระบายข้าว และการชําระหนี้ให้แก่ เกษตรกรผู้ร่วมโครงการ แทนที่ผู้ถูกกล่าวหาจะระงับยับยั้งโครงการตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร ราชการแผ่นดินฯ มาตรา 11 (1) กลับยืนยันที่จะดําเนินโครงการต่อไป
จึงแสดงถึงเจตนาของ ผู้ถูกกล่าวหาที่จะปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ หรือโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และเป็นการจงใจใช้อํานาจหน้าที่ขัดต่อ บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 178 อันเป็นเหตุแห่งการถอดถอนออกจากตําแหน่งตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 270
นายวิชา ยังกล่าวด้วยว่า ในที่ประชุม ป.ป.ช. ครั้งนี้ พลตำรวจเอกสถาพร หลาวทอง กรรมการ ป.ป.ช. ได้แจ้งที่ประชุมขอถอนตัวจากการพิจารณาคดีรับจำนำข้าว เนื่องจากในสมัยที่ยังรับราชการเป็นตำรวจ เคยทำหน้าที่เป็นอนุกรรมการตรวจสอบการทุจริตโครงการนี้ เพื่อไม่ให้การทำหน้าที่ไต่สวนคดีนี้ ถูกกล่าวหาว่ารู้เห็นในเรื่องนี้มาก่อน
นายวิชา ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำหนังสือทักท้วงไม่ให้ตนเข้าร่วมไต่สวนด้วยนั้น เพราะเห็นว่าไม่เป็นกลาง ที่ประชุม ป.ป.ช. ได้พิจารณาแล้วว่าข้อทักท้วงของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เข้าเหตุในการร้องคัดค้านเนื่องจากเวลาที่ตนแถลงข่าวต่อสื่อทำหน้าที่ในฐานะโฆษก และไม่ได้พาดพิงถึงรักษาการนายกฯ แต่อย่างใด
เมื่อถามว่า หากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มารับทราบข้อกล่าวหาจะทำอย่างไร นายวิชาตอบว่า "ท่านรักษาการนายกฯ คงจะมารับทราบข้อกล่าวหาแน่ เพราะท่านเพิ่งส่งตัวแทนมาขอคัดเอกสาร ที่เกี่ยวข้องไป ชี้ให้เห็นว่าท่านพร้อมที่จะชี้แจงข้อกล่าวหา ป.ป.ช. อย่างแน่นอน "
นายวิชา ยังระบุด้วยว่า ในการไต่สวนข้อมูลที่ผ่านมา ป.ป.ช. ได้พบกับตัวแทนชาวนาทุกกลุ่ม และก็เป็นกลุ่มชาวนาเอง ที่ช่วยทำให้การไต่สวนข้อมูลของ ป.ป.ช.เร็วขึ้น ถ้าไม่ได้ชาวนางานก็คงไม่ออกมาเร็วแบบนี้
เมื่อถามว่า หลังการชี้แจงข้อกล่าวหา หากมีการชี้มูลความผิดอะไรจะเกิดขึ้นกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายวิชาตอบว่า ในส่วนของกระบวนการถอดถอนจากตำแหน่งก็คงจะถูกส่งไปที่วุฒิสภาให้พิจารณา ส่วนคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก็จะมีการส่งเรื่องที่อัยการ
ส่วนความคืบหน้าการไต่สวนคดีการระบายข้าว ในยุครัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นั้น นายวิชา ยืนยันว่า ในช่วงปลายเดือนนี้ น่าจะมีความชัดเจนออกมา อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ป.ป.ช. กำลังทำงานตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเต็มที่เช่นกัน แต่ติดขัดเรื่องการขอเอกสารหลักฐานมาใช้ประกอบการพิจารณา มีการอ้างจากผู้เกี่ยวข้องว่าน้ำท่วมทำให้เอกสารเสียหาย ค้นไปโน่นไปนี่
"เกี่ยวกับความทุกข์ร้อนของชาวนา ป.ป.ช.ยืนยันว่า เราคิดถึงหัวอกของชาวนา ที่กำลังเดือนร้อนด้วย ไม่ว่าเราจะทำอะไร เราไม่ได้คิดถึงแต่หัวอกของเราเพียงอย่างเดียว" นายวิชาระบุ
ขอบคุณภาพจาก rsunews.net