- Home
- Isranews
- เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา
- น.ต.ประสงค์ ชี้! กปปส.ไป “สวนลุมฯ” เป็นยุทธวิธีปกป้องผู้ชุมนุม
น.ต.ประสงค์ ชี้! กปปส.ไป “สวนลุมฯ” เป็นยุทธวิธีปกป้องผู้ชุมนุม
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ชี้ กปปส.ยุบเวทีไปสวนลุมฯ เป็นยุทธศาสตร์รวมศูนย์-ยุทธวิธีเน้นความปลอดภัยของผู้ชุมนุม เชื่อ เวทีพระพุทธอิสระไม่โดดเดี่ยว เพราะในความเป็นจริง อยู่ใกล้ "ราบ 11" เจ้าหน้าที่ทหารให้ความคุ้มครองได้อย่างใกล้ชิดที่สุด
วันที่ 2 มีนาคม 2557 น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และเป็นหนึ่งในอดีตนายทหารที่เคยออกมาเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่มนายทหารนอกประจำการที่ภักดีต่อสถาบันฯ และยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ร่วมกับ พล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์ อดีตผบ.ทอ.,พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีต ผบ.ตร.
ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว "สำนักข่าวอิศรา" www.isranews ถึงมุมมองที่มีต่อการเคลื่อนไหวของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ที่ล่าสุด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ประกาศว่าในวันจันทร์ ที่ 3 มีนาคมนี้ จะยุบรวมเวทีต่างๆ ไปรวมกันที่สวนลุมพินี ว่าในความเห็นส่วนตน การเคลื่อนไหวดังกล่าวของ กปปส. คือยุทธศาสตร์การรวมศูนย์ เป็นยุทธวิธีที่ดำเนินไปเพื่อเน้นความปลอดภัยของผู้ชุมนุมเป็นหลัก ขณะที่เวทีแจ้งวัฒนะ ตนเชื่อว่าไม่โดดเดี่ยวเช่นที่ใครคิด เพราะในความเป็นจริง อยู่ใกล้กับกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ( ร.11 รอ.) ที่เจ้าหน้าที่ทหารให้ความคุ้มครองได้อย่างใกล้ชิดที่สุด
น.ต.ประสงค์กล่าวว่า “การยุบรวมเวทีของ กปปส. มาไว้ที่สวนลุมฯ แต่เพียงแห่งเดียวนั้น ผมมองในแง่ที่ว่าเป็นการปรับตัวของ กปปส. เพื่อที่จะสามารถให้ความปลอดภัยแก่ผู้ชุมนุม เพราะช่วงที่ผ่านมาเป็นฝ่ายถูกกระทำ ถูกยิง ถูกก่อกวน ครั้งนี้จึงเป็นการรวมตัวที่รัดกุมต่อการป้องกันความปลอดภัยให้มากขึ้น”
น.ต.ประสงค์ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า เหตุการณ์ที่เวที กปปส. เคยถูกยิงด้วยระเบิดเอ็ม 79 ก่อนหน้านี้ หรือถูกก่อกวนจากผู้ที่แฝงตัวเข้ามาโจมตีตามจุดต่างๆ เช่นที่เวทีลาดพร้าวหรืออนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แสดงให้เห็นว่าการที่แต่ละเวทีแยกกันอยู่นั้น ทำให้การป้องกันและการดูแลความปลอดภัยโดยเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างลำบาก
“ดังนั้น พื้นที่สวนลุมพินีจึงเป็นพื้นที่ที่เหมาะเพราะมีรั้วรอบขอบชิดและที่เป็นประโยชน์ประการต่อมาคือทำให้ประชาชนที่ไม่ได้รับความสะดวกจากเวทีราชประสงค์, เวทีอโศก, เวทีปทุมวัน จนนำมาซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเกิดผลกระทบกับการเดินทาง เป็นผลเสียต่อธุรกิจ จากนี้ เสียงวิจารณ์เหล่านี้จะลดน้อยไป การเดินทางของประชาชนก็จะสะดวกขึ้น การยุบเวทีต่างๆ เหล่านี้และคืนพื้นที่ให้ประชาชนจึงเป็นประโยชน์กับ กปปส. อีกทางหนึ่งด้วย และถึงแม้จะยุบเวทีอื่นๆ ก็ไม่ได้ทำให้เป้าหมายในการเดินไปข้างหน้าของ กปปส. เปลี่ยนแปลงไปจากจุดเดิม” อดีตข้าราชการทหารรายนี้ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามว่าเวทีแจ้งวัฒนะของพระพุทธอิสระที่คล้ายแลดูโดดเดี่ยว อยู่ห่างไกลจากเวทีอื่นๆ แท้จริงแล้ว จุดยุทธศาสตร์ในบริเวณดังกล่าว สะท้อนถึงนัยสำคัญใดบ้าง น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า
“เวทีแจ้งวัฒนะ ย่านหลักสี่ถือว่าอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทหาราบที่ 11 ซึ่งอยู่เลยไปไม่ไกล อยู่บนเส้นทางเดียวกันคือที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน และกรมทหารราบที่ 11 นี้ยังเป็นหน่วยงานที่ดูแลประชาชนอยู่อย่างใกล้ชิด และมีกำลังของเจ้าหน้าที่ทหารยกออกมาประจำตามจุดต่างๆ ดังนั้น แม้เวทีแจ้งวัฒนะจะอยู่ห่างไกล แต่ถือเป็นแห่งเดียวที่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากทหาร ผมมองว่าแม้จะมีการก่อกวน ก็ทำอะไรเวทีนี้ไม่ได้”
น.ต.ประสงค์กล่าวด้วยว่า เวทีแจ้งวัฒนะมีความสำคัญในทางยุทธศาสตร์ เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์สำคัญในการต่อต้านรัฐบาลรักษาการ
“เวทีแจ้งวัฒนะเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านส่วนราชการที่ กปปส. เชื่อว่ายังสนับสนุนระบอบทักษิณ เป็นหน่วยงานที่ยังมีคนต่อต้าน ดังนั้น ความไม่สะดวกของเจ้าหน้าที่ เช่น ดีเอสไอ จึงเป็นหน่วยงานที่ กปปส. เห็นว่าพวกเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมจากหน่วยงานนี้ ดังนั้น เหตุผลที่เวทีแจ้งวัฒนะยังยืนหยัด ไม่ย้าย ก็เพราะเขาเห็นว่ามีเหตุผลสมควร รวมไปถึงเวที คปท. ของเครือข่ายนักศึกษาฯ ที่ปักหลักที่ทำเนียบ เขาก็มีเหตุผลว่าจะขอปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล เพื่อไม่ให้รัฐบาลรักษาการเข้ามาทำงานได้ เหล่านี้ เป็นไปเพื่อกดดันรัฐบาล แต่บางคนอาจคิดไปว่าการยุบรวมเวที กปปส. เป็นเพราะคนน้อย แต่ผมไม่ได้มองอย่างนั้น ผมมองว่าเป้าหมายในการต่อสู้ของ กปปส. ยังดำรงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง นี่เป็นสิ่งสำคัญกว่า เพราะฉะนั้น การย้ายเวทีครั้งนี้ไปรวมเป็นแห่งเดียวจึงเป็นยุทธศาสตร์และเป็นยุทธวิธีเพื่อให้ดูแลกันได้อย่างทั่วถึง เพื่อนำการ์ดของแต่ละเวทีมารวมอยู่ด้วยกัน เพื่อให้ผู้ชุมนุมได้รับการดูแลได้อย่างสะดวก ทั้งนี้ ก็เป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของผู้ชุมนุม” น.ต.ประสงค์ระบุ
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าวเคยสอบถาม น.ต.ประสงค์ ว่ามีส่วนร่วมในกลุ่มรัฐบุคคลหรือไม่ เนื่องจากคณะดังกล่าวปรากฏมีพล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์ ที่เคยเคลื่อนไหวร่วมกับ น.ต.ประสงค์ อยู่ร่วมในคณะรัฐบุคคลด้วย แต่ น.ต.ประสงค์กล่าวว่า “ผมไม่ทราบเรื่อง ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกับรัฐบุคคลทั้งสิ้น”
ภาพประกอบ www.rsunews.net