- Home
- Isranews
- เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา
- “ปู" ให้การ ป.ป.ช. ลุยจำนำข้าวเพื่อชาวนาไม่มี "นักการเมือง"ได้ประโยชน์
“ปู" ให้การ ป.ป.ช. ลุยจำนำข้าวเพื่อชาวนาไม่มี "นักการเมือง"ได้ประโยชน์
ล้วงข้อมูลห้องไต่สวน ป.ป.ช.“ยิ่งลักษณ์” ยื่นหนังสือชี้แจงข้อกล่าวหาคดีปล่อยทุจริตจำนำข้าวกว่า 100 หน้า ยันลุยทำโครงการเพื่อชาวนา ไม่มีนักการเมืองคนใดได้รับประโยชน์ เปิดชื่อพยาน 10 ปาก "เฉลิม-ยรรยง-โอฬาร" ดึงนักวิชาการด้านตรวจสอบบัญชี โต้ข้อมูล “สุภา”
จากกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี เข้าชี้แจงข้อกล่าวหาคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในช่วงบ่ายวันที่ 31 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาชี้แจ้งข้อมูลประมาณ 30 นาที นั้น
(อ่านประกอบ:“ยิ่งลักษณ์”ใช้เวลา 30 นาทีแจงจำนำข้าว “ป.ป.ช.” ขอสอบพยานเพิ่มนับสิบ)
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2557 นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ในคดีนี้ เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ในการเข้าชี้แจงข้อกล่าวหาต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ยื่นหนังสือชี้แจงข้อกล่าวหาแทนการชี้แจงด้วยวาจา ความยาวประมาณ 100 หน้า เนื้อหาครอบคลุมทุกประเด็นที่ป.ป.ช. ตั้งข้อกล่าวหาไว้ และตอบคำถามเพิ่มเติมต่อป.ป.ช. ในบางประเด็นที่มีข้อสงสัย โดยไม่มีความหนักใจอะไร เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตนเอง
นายนรวิชญ์ กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีสาระสำคัญอยู่ที่การยืนยันว่าไม่ได้มีการปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการตามที่ ป.ป.ช.ตั้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด
“ โครงการรับจำนำเป็นนโยบายของรัฐบาล มุ่งเน้นการสร้างประโยชน์ให้กับชาวนา และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตชาวนาให้ดีขึ้น ทำให้เกิดระบบหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ และไม่มีนักการเมืองคนใดได้รับประโยชน์”
นายนรวิชญ์ กล่าวต่อไปว่า ขณะที่ข้อกล่าวหาทุจริตที่เกิดขึ้นจากการอภิปรายข้อมูลของฝ่ายค้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการตัดสินชี้ขาดว่ามีความผิดจริง และในขั้นตอนปฏิบัติก็ได้สั่งการให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้ว อาทิ ในเรื่องการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบของกระทรวงพาณิชย์ ก็สรุปผลการออกมาว่าเป็นจีทูจีจริง
“ท่านนายกฯ อยู่ข้างบน ส่วนการปฏิบัติงานอยู่ด้านล่าง มีผู้รับผิดชอบแต่ละส่วน ทุกครั้งที่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น นายกฯ ก็สั่งการให้มีการตรวจสอบข้อมูลทุกครั้ง และมีการเปลี่ยนแปลงตัวรัฐมนตรีใหม่ เพื่อให้การบริหารงานมีความรอบด้าน ไม่ย้ำอยู่กับที่ แล้วจะมาบอกว่าไม่ทำอะไรเลยมันไม่ถูกต้อง”
นายนรวิชญ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับรายชื่อพยานที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอให้ป.ป.ช. เชิญมาสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนใหญ่เป็น รัฐมนตรีในรัฐบาล รวมถึงข้าราชการ และนักวิชาการ จำนวน 11 ปาก อาทิ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. ดร.โอฬาร ไชยประวัติ และนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบบัญชี
“สาเหตุที่ต้องการให้ ป.ป.ช. เรียกตัวผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบบัญชี มาให้ปากคำ เพราะหนึ่งในประเด็นที่ ป.ป.ช. นำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบในการกล่าวหาคดีนี้ คือ รายงานผลการปิดบัญชีข้าว ของคณะทำงานชุดที่มี นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ที่ระบุว่าโครงการนี้ มีการขาดทุนเป็นจำนวนเงินหลายแสนล้านบาท เราจึงต้องการให้ ป.ป.ช. รับฟังข้อมูลจากนักวิชาการคนอื่น ว่า ระบบการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวมีปัญหาจริงตามข้อมูลของคณะทำงานชุดที่มี น.ส.สุภา เป็นประธานหรือไม่”
"ทราบมาว่าวันนี้(1 เม.ย.) ป.ป.ช. จะนำข้อร้องเรียนเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ชุดใหญ่ ท่านนายกฯ ก็คาดหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมจาก ป.ป.ช." นายนรวิชญ์ระบุ