ศธ.คลอดหลักเกณฑ์ "ปอเนาะดีต้นแบบ" ได้สิทธิรับงบสร้างอาคาร-สื่อการสอน

เมื่อเร็วๆ นี้มีประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาสถาบันศึกษาปอเนาะจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามโครงการ "ปอเนาะดีต้นแบบ" ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศและงานทั่วไป เล่ม 127 ตอนพิเศษ 126 ง. "ทีมข่าวอิศรา" เห็นว่าเป็นประเด็นน่าสนใจ และเกี่ยวพันกับสถาบันศึกษาปอเนาะในพื้นที่ชายแดนใต้ จึงนำมาเสนอไว้โดยละเอียด

ประกาศดังกล่าวลงนามโดย นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 18 ส.ค.2553 และลงในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 1 พ.ย.2553 ความว่า ด้วยกระทรวงศึกษาธิการเห็นสมควรให้มีการพัฒนาสถาบันศึกษาปอเนาะบางแห่งเพื่อให้เป็นต้นแบบที่ดีซึ่งมีความพร้อมในการจัดการเรียนการสอนที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม วิถีชีวิตในวัฒนธรรมอิสลาม และความต้องการของชุมชน พร้อมทั้งให้การดำเนินการในเรื่องนี้เป็นไปโดยสอดคล้องกับการบริหารจัดการศึกษาเอกชนในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้

อาศัยอำนาจตามความในข้อ 16 ของระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยสถาบันศึกษาปอเนาะ พ.ศ.2547 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2548 กระทรวงศึกษาธิการจึงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขไว้ดังต่อไปนี้

- สถาบันศึกษาปอเนาะที่มีสิทธิจะได้รับการคัดเลือกเพื่อพัฒนาตามโครงการปอเนาะดีต้นแบบตามประกาศนี้ ต้องเป็นสถาบันศึกษาปอเนาะที่ได้จดทะเบียนจากนายทะเบียน และตั้งอยู่ใน จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ จ.สงขลา เฉพาะใน อ.จะนะ นาทวี เทพา และสะบ้าย้อย แล้วเปิดดำเนินการและทำการสอนอย่างต่อเนื่องโดยถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปีนับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนถึงวันที่ 31 พ.ค. และมีคุณสมบัติตามที่โครงการปอเนาะดีต้นแบบกำหนดไว้

- การส่งเสริมและพัฒนาสถาบันศึกษาปอเนาะเพื่อให้เป็นสถาบันศึกษาปอเนาะดีต้นแบบ ด้านกายภาพ ด้านวิชาการและด้านเทคโนโลยีการศึกษา ให้กระทำโดยการให้การอุดหนุนในด้านต่าง ๆ ดังนี้

(1) พัฒนาปัจจัยพื้นฐานด้านกายภาพ เช่น อาคารเรียน (บาลัย) ที่พักอาศัย (ปอเนาะ) ห้องเรียน ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องโสตทัศน์ศึกษา และห้องปฏิบัติการ ภายใต้โครงการที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด

(2) พัฒนาด้านวิชาการ เช่น การส่งเสริมการสอนศาสนาและปฏิบัติศาสนากิจ การสอนวิชาสามัญ และการสอนวิชาชีพ ให้หมายความรวมถึงสื่อ วัสดุ ครุภัณฑ์ ที่ใช้ในการพัฒนาวิชาการ

(3) พัฒนาด้านเทคโนโลยีการศึกษาให้เป็นศูนย์สื่อเทคโนโลยีการศึกษาเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้แก่ชุมชน

การอุดหนุนดังกล่าวให้เป็นไปตามรายการและจำนวนเงินที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กำหนด ทั้งนี้ภายในวงเงินงบประมาณที่ได้รับในแต่ละปี

- ให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาคัดเลือกสถาบันศึกษาปอเนาะ เพื่อพัฒนาเป็นสถาบันศึกษาปอเนาะดีต้นแบบ ให้คณะอนุกรรมการมีอำนาจหน้าที่ ดังนี้

(1) กำหนดรายละเอียดการคัดเลือกสถาบันศึกษาปอเนาะให้สอดคล้องกับประกาศนี้

(2) คัดเลือกสถาบันศึกษาปอเนาะเพื่อพัฒนาเป็นสถาบันศึกษาปอเนาะดีต้นแบบ

(3) ประกาศผลการคัดเลือกสถาบันศึกษาปอเนาะดีต้นแบบ

(4) รายงานผลการดำเนินการต่อคณะกรรมการบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้
(5) ดำเนินการอื่นๆ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการมอบหมาย

- ให้สถาบันศึกษาปอเนาะที่ได้รับการคัดเลือกตามข้อ 5 ยื่นคำขอรับการอุดหนุนด้านกายภาพตามแบบที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนกำหนด พร้อมเอกสาร ดังต่อไปนี้
(1) ใบอนุญาตจดทะเบียนสถาบันศึกษาปอเนาะ
(2) หลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ สิทธิครอบครองตามกฎหมาย หรือสิทธิเหนือพื้นดินไม่น้อยกว่า 10 ปี
(3) แผนผังภูมิทัศน์ที่แสดงถึงการพัฒนาด้านกายภาพจากเงินอุดหนุนที่ได้รับ
(4) แบบแปลนการก่อสร้างอาคาร พร้อมประมาณราคาค่าก่อสร้าง

แบบแปลนการก่อสร้างอาคาร ตาม (4) โต๊ะครูจะต้องดำเนินการขออนุญาตก่อสร้างให้ถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อนดำเนินการก่อสร้าง

- ให้สถาบันศึกษาปอเนาะที่ได้รับการคัดเลือก ยื่นคำขอรับการอุดหนุนด้านเทคโนโลยีการศึกษาตามแบบที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนกำหนด พร้อมเอกสาร ดังต่อไปนี้
(1) ใบอนุญาตจดทะเบียนสถาบันศึกษาปอเนาะ
(2) รายการสื่อ วัสดุ ครุภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีการศึกษาตามความต้องการที่จำเป็นและเหมาะสม

- ให้สถาบันศึกษาปอเนาะที่ได้รับการคัดเลือก ยื่นคำขอรับการอุดหนุนด้านวิชาการ ตามแบบที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนกำหนด พร้อมเอกสารดังต่อไปนี้
(1) ใบอนุญาตจดทะเบียนสถาบันศึกษาปอเนาะ
(2) รายละเอียดการขอสนับสนุนด้านวิชาการตามความต้องการที่จำเป็นและเหมาะสม

- การยื่นคำขอดังกล่าว ให้ยื่นต่อสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอที่สถาบันศึกษาปอเนาะนั้นตั้งอยู่ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร เมื่อได้รับคำขอแล้วให้สำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอตรวจสอบความถูกต้องให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ แล้วรวบรวมคำขอพร้อมเอกสารเสนอสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับคำขอที่ถูกต้องครบถ้วน

- เมื่อสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดได้รับเอกสารแล้ว ให้รวบรวมและสรุปรายละเอียดตามแบบที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนกำหนด และจัดส่งให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้คำขอพร้อมเอกสารจากสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอ

- ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนตรวจสอบและพิจารณาจัดสรรเงินงบประมาณให้แก่สำนักบริหารยุทธศาสตร์และบูรณาการการศึกษาที่ 12 หรือสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดแล้วแต่กรณี เพื่อดำเนินการเบิกจ่ายตามระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง การเก็บรักษาเงิน และการนำเงินส่งคลัง พ.ศ.2551 และระเบียบแนวปฏิบัติอื่นที่เกี่ยวข้อง

- ให้สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดดำเนินการจัดซื้อ จัดจ้าง ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทั้งนี้ให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติที่กำหนดสำหรับเขตพัฒนาพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยอนุโลม

- ให้สำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอกำกับดูแล และดำเนินการส่งเสริมสถาบันศึกษาปอเนาะดีต้นแบบให้มีการพัฒนาให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการอุดหนุน

- ในวาระเริ่มแรกให้คณะอนุกรรมการพิจารณาคัดเลือกสถาบันศึกษาปอเนาะดีต้นแบบตามคำสั่งคณะกรรมการบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ 1/2553 ลงวันที่ 18 มี.ค.2553 เป็นคณะอนุกรรมการคัดเลือกสถาบันศึกษาปอเนาะตามประกาศนี้ เพื่อคัดเลือกสถาบันศึกษาปอเนาะประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2553 และปีงบประมาณ พ.ศ.2554

------------------------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณ : ภาพปอเนาะจากเว็บไซต์ www.pundok.com