กลายเป็นประเด็นร้อนข้ามเดือน สำหรับคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ 2 คดีที่สุดท้ายพรรคเก่าแก่ที่สุดของประเทศไทยพรรคนี้ก็รอดจากการถูกยุบ รายงานเบาๆ ชิ้นนี้ไม่ได้มีเจตนาทางการเมืองใดๆ นอกเสียจากอยากรู้ว่าคนเดินดินกินข้าวแกงที่เป็น "รากหญ้า" แท้ๆ ในชายแดนใต้ คิดอย่างไรกับคดีการเมืองที่แทบจะหยุดทุกๆ ความสนใจในประเทศไทยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
เหตุรุนแรงในวันครบรอบ 6 ปีตากใบ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2553 ผ่านไปอย่างเงียบเชียบ ทั้งๆ ที่ในวันนั้นพบ “กับระเบิด” ในสวนยางพาราทั่วสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ถึง 26 ลูก หลายชีวิตถูกทำร้ายจนกลายเป็นคนพิการ ต้องเผชิญกับวันเวลาที่เหลืออยู่อย่างสิ้นหวัง
ผลพวงจากพายุดีเปรสชั่นที่สร้างความสูญเสียอย่างหนักในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งพื้นที่เกษตรกรรม ถนนหนทาง และบ้านเรือน เสมือนซ้ำเติมปัญหาความรุนแรงที่ก่อตัวและยืดเยื้อมานานร่วม 7 ปีในดินแดนแห่งนี้ โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่ต้องสูญเสียที่อยู่อาศัยใหญ่น้อยกว่า 100 หลังคาเรือน พวกเขากำลังสิ้นหวังกับการรอคอยบ้านหลังใหม่ เพราะอีกแค่ไม่กี่วันก็จะถึงเทศกาลฮารีรายออิดิ้ลอัฎฮาแล้ว
อุทกภัยที่ชายแดนใต้มีเสียงวิจารณ์ตามมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ในช่วงแรกหลังวันที่ 1-2 พ.ย. ก็เริ่มได้ยินเสียงบ่นกันถึงการให้น้ำหนักความช่วยเหลือที่หยุดอยู่แค่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เท่านั้น ต่อเมื่อข่าวความเสียหายจากหลายพื้นที่ของสามจังหวัดชายแดนเผยแพร่ออกไป โดยเฉพาะชุมชนริมฝั่งทะเล คาราวานของบริจาคก็มุ่งตรงสู่ดินแดนปลายด้ามขวาน แต่นั่นก็ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการบริหารจัดการตามมาอีก
อุทกภัยในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น แม้น้ำจะลดระดับลงอย่างรวดเร็วจนสถานการณ์เกือบกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วในขณะนี้ แต่ความเสียหายจากพายุฝนและคลื่นลมแรงก็ทิ้งร่องรอยความเสียหายเอาไว้ไม่น้อย
“รัฐเลือกความต้องการของเขา แทนที่จะเลือกความต้องการของเรา...บางทีเราดิ้นรนมาก รัฐก็หาว่าเราก้าวก่าย ทั้งๆ ที่เราแค่เรียกร้องสิทธิ์ที่พึงได้ก็เท่านั้นเอง...รัฐเสริมอาชีพด้วยการให้เป็ด ให้วัวมาเลี้ยง ถามว่าคนพิการเลี้ยงได้ไหม”
สกู๊ปพิเศษที่ชื่อ “เปิดเส้นทางสายฮัจญ์...คราบน้ำตาของผู้แสวงบุญบนความทุจริตของผู้ประกอบธุรกิจและ จนท.รัฐ” ที่ศูนย์ข่าวอิศราเปิดประเด็นเอาไว้เมื่อต้นเดือน ต.ค.นั้น เป็นข้อเท็จจริงที่รวบรวมปัญหาจากผู้แสวงบุญตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าปีนี้สถานการณ์จะเลวร้ายเสียยิ่งกว่าที่ “ทีมข่าวอิศรา” รายงานเอาไว้เสียอีก
เส้นทางสายวิบากของการเดินทางไปแสวงบุญที่นครเมกกะ (มักกะฮ์) ประเทศซาอุดิอาระเบีย เพื่อประกอบพิธีฮัจญ์ของพี่น้องชาวไทยมุสลิมนั้น ไม่ได้มีปัญหาเฉพาะ “วีซ่า” อันสืบเนื่องมาจากประเด็นทางการเมืองจากปม พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม เท่านั้น แต่กระบวนการพาผู้แสวงบุญเดินทางไปซาอุฯ ซึ่งกลายเป็นธุรกิจมูลค่ามหาศาลไปแล้วในปัจจุบัน ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่พี่น้องมุสลิมต้องพบเจอ
ยุทธศาสตร์เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า หรือที่ล่าสุดใช้วลีเก๋ๆ ว่า “เปลี่ยนบังเกอร์ เป็นเคาน์เตอร์เศรษฐกิจ” โดยใช้ความคึกคักทางเศรษฐกิจเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและความไม่สงบ เป็นแนวคิดที่ใช้กันมาเนิ่นนาน และขณะนี้ได้ปรากฏอย่างเป็นรูปธรรมแล้วที่ภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย
“รายอแนปีนี้ได้กินตูป๊ะอีกแล้ว...” หลายคนอาจสงสัยว่า “รายอแน” คืออะไร และ “ตูป๊ะ” หน้าตาเป็นอย่างไร เกี่ยวข้องกับวันฮารีรายอหรือไม่…ล้อมวงเข้ามา จะเล่าให้ฟัง