- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- บึ้มปัตตานีทหารเจ็บ วิจารณ์แซ่ด“จีที 200”พลาดอีกแล้ว ระแงะเดือดถล่มตำรวจดับ 2 ศพ
บึ้มปัตตานีทหารเจ็บ วิจารณ์แซ่ด“จีที 200”พลาดอีกแล้ว ระแงะเดือดถล่มตำรวจดับ 2 ศพ
อะหมัด รามันห์สิริวงศ์
แวดาโอ๊ะ หะไร / อับดุลเลาะ หวังนิ
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
ใต้วุ่นหนัก ระเบิดหน้าตลาดนัดที่โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ทหารบาดเจ็บ ชาวบ้านวิจารณ์แซ่ด “จีที 200” ตรวจพลาดอีกแล้ว ฝ่ายทหารรีบแจงคนร้ายนำระเบิดมาวางทีหลัง จึงตรวจไม่พบ ระแงะเดือด ควงเอ็ม 16 อาก้ายิงถล่มตำรวจดับ 2 ขณะ รปภ.ร้านทอง ยะลาป่วนเกิดเหตุร้ายหลายจุดช่วงสุดสัปดาห์ ขณะที่ “กษิต” พาคณะทูตยุโรป-ละตินอเมริกาลงพื้นที่ชื่นมื่น
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีประเด็นวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการใช้เครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที 200 ด้วย โดยเมื่อเวลา 09.40 น.วันจันทร์ที่ 22 ก.พ.2553 พ.ต.อ.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้กำกับการ สภ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุระเบิดบริเวณตลาดนัดป่าไร่ ท้องที่หมู่ 2 ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จึงนำกำลังรีบรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีแดง หมายเลขทะเบียน บต 7729 ปัตตานี ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย ห่างกัน 5 เมตรพบหลุมระเบิดกว้าง 1 ฟุต มีสะเก็ดระเบิดกระจายเกลื่อน ฝั่งตรงข้ามยังพบรถยนต์ของชาวบ้านได้รับความเสียหายอีก 1 คัน ส่วนผู้บาดเจ็บมีเพื่อนทหารนำส่งโรงพยาบาลโคกโพธิ์แล้ว ทราบชื่อคือ ส.อ.สมหมาย หอมหวน อายุ 27 ปี เป็นทหารสังกัด ร้อย ร.15334 หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณลำตัว อาการไม่สาหัส
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ทหารหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 จำนวน 10 นาย ใช้รถกระบะคันที่ถูกสะเก็ดระเบิดและรถจักรยานยนต์อีก 3 คันเป็นพาหนะ ขับไปจอดบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนในตลาด โดยมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ใช้เครื่อง จีที 200 เดินตรวจหาวัตถุต้องสงสัยจากปากทางเข้าตลาดบริเวณที่จอดรถไปจนสุดตลาดด้วย แต่ไม่พบ จึงกระจายกำลังไปดูแลความปลอดภัยโดยรอบ จังหวะนั้นเองคนร้ายซึ่งคาดว่าซุ่มอยู่ในละแวกนั้น ได้ใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ลอบวางเอาไว้ใกล้กับจุดที่เจ้าหน้าที่จอดรถ เป็นเหตุให้ทหารได้รับบาดเจ็บ และมีรถยนต์เสียหายดังกล่าว
ทั้งนี้ ประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงความผิดพลาดของเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 เพราะค้นหาระเบิดไม่เจอทั้งๆ ที่วางอยู่ใกล้กับจุดที่ทหารจอดรถ ขณะที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก็ได้เป็นเจ้าภาพจัดทดสอบกลไกการทำงานแล้ว พบว่าเครื่อง จีที 200 ไร้ประสิทธิภาพในการค้นหาระเบิดอย่างสิ้นเชิง
อย่างไรก็ดี นายทหารจากหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดพลาดของเครื่องตรวจระเบิด จีที 200 เพราะตอนที่นำเครื่องไปเดินตรวจ คนร้ายยังไม่ได้นำระเบิดมาวาง แต่ลอบนำมาวางในภายหลัง
จีที 200 ชี้กล่องบรรจุก้อนอิฐ
ต่อมา ขณะที่ฝ่ายทหารนำกำลังออกติดตามสกัดจับคนร้าย ก็ได้ใช้เครื่องจีที 200 ตรวจหาวัตถุระเบิดในละแวกใกล้เคียง ปรากฏว่าเครื่องชี้ไปยังวัตถุต้องสงสัย เป็นกล่องกระดาษถูกวางไว้ริมถนน จึงปิดถนนไม่ให้รถผ่าน พร้อมแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ทำลายล้างวัตถุระเบิด (อีโอดี) ให้เข้าตรวจสอบ แต่เมื่อทำการเก็บกู้กลับพบว่าภายในกล่องเป็นก้อนอิฐ ไม่มีวัตถุระเบิดแต่อย่างใด คาดว่าคนร้ายนำมาวางไว้เพื่อถ่วงเวลาการไล่ติดตามของเจ้าหน้าที่
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงความผิดพลาดอีกครั้งของเครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที 200 เจ้าหน้าที่กลับอ้างว่า ไม่ได้มีการใช้เครื่องจีที 200 ตรวจกล่องวัตถุต้องสงสัย เพราะเมื่อพบกล่อง ก็รีบแจ้งเจ้าหน้าที่อีโอดี เข้าเก็บกู้ทันที
รัวเอ็ม 16 อาก้าดับ 2 ตำรวจ
เวลา 14.40 น.วันเดียวกัน ร.ต.อ.ศรเพชร ตันติอมรชัยกุล ร้อยเวร สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ขณะทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ห้างทองไทยย่งเต็ง เลขที่ 49 ถนนเทศบาล 10 เขตเทศบาลตันหยงมัส อ.ระแงะ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบ จ.ส.ต.สมเกียรติ แก้วเกื้อ ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม (ผบ.หมู่ ป.) สภ.ระแงะ และ ด.ต.สมพงษ์ นิลน้อย ผบ.หมู่ ป.โรงพักเดียวกัน นอนจมกองเลือดอยู่บริเวณม้านั่งหินอ่อนข้างห้างทองไทยย่งเต็ง โดยมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 และอาก้าพรุนไปทั้งร่าง จึงรีบนำตัวตำรวจทั้ง 2 นายส่งโรงพยาบาลระแงะ แต่เนื่องจากทั้งคู่อาการสาหัส จึงสิ้นใจระหว่างทาง
สอบสวนนายนิรันดร์ ลิขิตตาพงศ์ เจ้าของห้างทองไทยย่งเต็ง ทราบว่า ขณะที่ ด.ต.สมพงษ์ และ จ.ส.ต.สมเกียรติ กำลังปฏิบัติหน้าที่ รปภ.ร้านทองอยู่นั้น มีคนร้าย 4 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 2 คันเป็นพาหนะขี่โฉบเข้ามา โดยคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายถืออาวุธปืนเอ็ม 16 และอาก้าคนละกระบอก เมื่อได้จังหวะก็ยิงใส่ตำรวจทั้งสองนายกว่า 20 นัดท่ามกลางสายตาประชาชนจำนวนมาก จากนั้นก็เร่งเครื่องรถหลบหนีไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ใต้ป่วนช่วงสุดสัปดาห์ “บึ้ม-ยิง” หลายจุด
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วต่อเนื่องถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ยังมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปราย โดยเมื่อเวลา 11.00 น. วันอาทิตย์ที่ 21 ก.พ. เวลา 18.10 น. เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิง นายเจ๊ะมะ ตาเย๊ะ อายุ 74 ปี เสียชีวิตในสวนยางพารา ใกล้กับคอกแพะ ที่บ้านบันนังกูแว หมู่ 4 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา ขณะกำลังนำแพะออกมาจากคอก เพื่อให้อาหาร เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เวลา 20.00 น.วันศุกร์ที่ 19 ก.พ. เกิดระเบิดบริเวณหน้าร้านขายของชำและหนังสือพิมพ์ชื่อ “นานากิ๊ฟช็อพ” ตั้งอยู่ปากซอย 24 ถนนผังเมือง 4 ข้างบ้านมารดาของ นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย โดยคนร้ายติดตั้งระเบิดไว้ในรถจักรยานยนต์ซึ่งถูกโจรกรรมมาจาก อ.รามัน จ.ยะลา เมื่อปลายปีก่อน และใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวน
ทั้งนี้ แรงระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน คือ น.ส.รัตนา อมรรัตนทวีป อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/1 ถนนธนวิถี ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา นายสันชาย วันเพชร อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76/2 หมู่ 6 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา และ นายสุรพล ล้ำลิขิตการ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ซอยเย็นจิตร ต.สะเตง เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบเช่นกัน โดยคาดว่าคนร้ายเป็นกลุ่มเดียวกับที่เพิ่งก่อเหตุลอบวางระเบิดบริเวณปากทางเข้าตลาดพิมลชัย เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา จนมีทหารและประชาชนได้รับบาดเจ็บ
นอกจากนั้น ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ยังเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ยิงเข้าใส่จุดตรวจเมืองทองของเจ้าหน้าที่ในเขตเทศบาลนครยะลา โดยคนร้ายแต่งกายคล้ายชุดดาวะห์ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ส่วนที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายธีรยุทธ ช่วยประสม อายุ 37 ปี บันฑิตอาสา ทำงานประจำอยู่ที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ปุโละปูโย อ.หนองจิก เหตุเกิดบนถนนในหมู่บ้านโคกคอแห้ง หมู่ 4 ต.ปุโละปูโย ขณะนายธีรยุทธกำลังขี่รถจักรยานยนต์ออกจาก อบต.เพื่อเดินทางกลับบ้าน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบ
"กษิต”นำคณะทูตละตินอเมริกา-ยุโรปเยือนใต้
วันที่ 21 ก.พ.2553 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมศรียะลา ชั้น 3 อาคารศาลากลางจังหวัดยะลาหลังใหม่ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะเอกอัครราชทูตกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา และประเทศอื่นๆ รวม 12 ประเทศ ประกอบด้วย เอกอัครราชทูตประเทศเปรู อาร์เจนติน่า แอฟริกาใต้ ชิลี แคนาดา สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส รัสเซีย เคนย่า อินเดีย ยูเครน และเม็กซิโก เข้าร่วมประชุมและรับฟังการบรรยายสรุปการทำงานของสภาเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี นายวีระยุทธ สุขเจริญ รอง ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ฝ่ายยุติธรรม) นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายอาซีส เบ็ญหาวัน ประธานสภาที่ปรึกษาเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับและบรรยายสรุป
ข้อมูลที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ไทยรายงานให้คณะเอกอัครราชทูตทราบ เป็นการยืนยันว่า การแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาได้เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ เชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาเป็นสภาที่ปรึกษาเสริมสร้างสันติสุขฯ ขณะที่ผู้ว่าฯยะลา ให้ข้อมูลว่า เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากปี 2550 จำนวน 511 เหตุการณ์ ลดเหลือ 235 เหตุการณ์ในปี 2551 และ 155 เหตุการณ์ในปี 2552 คิดเป็นร้อยละ 57.35 และ 34.04 ตามลำดับ มีผู้ต้องสงสัยและผู้ต้องหาในคดีความมั่นคงเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ด้วยความสมัครใจจำนวน 41 คน
นายกษิต กล่าวว่า การนำคณะทูตเดินทางลงพื้นที่ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว โดยมีเป้าหมาย 2 ประการคือ 1.ให้คณะทูตได้รับทราบข้อมูลที่เป็นความจริงซึ่งแตกต่างจากที่เคยได้อ่านในหนังสือพิมพ์ หรือรับฟังจากสื่อต่างๆ และ 2.เป็นการสะท้อนว่าประเทศไทยเป็นสังคมที่เปิดกว้าง มีความเป็นประชาธิปไตย และมีความเสนอภาค พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับนานาชาติว่าการดำเนินการของรัฐบาลจะสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นได้ในเร็ววัน
------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1. เหตุระเบิดที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ซึ่งกำลังเป็นที่ถกเถียงกันว่า เครื่องตรวจระเบิด จีที 200 พลาดอีกครั้งใช่หรือไม่
2. เหตุระเบิดมอเตอร์ไซค์บอมบ์กลางเมืองยะลา เมื่อค่ำวันที่ 19 ก.พ.
3. นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา (เสื้อสีชมพู) ต้อนรับคณะทูตจากละตินอเมริกาและยุโรปที่เดินทางเยือนชายแดนใต้