- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- ทหารแจงคุมตัว 2 วัยรุ่นเหตุต้องสงสัยลอบยิงฐาน ยันมีสิทธิจับอยู่แล้วแม้ “จีที 200” ไม่ชี้
ทหารแจงคุมตัว 2 วัยรุ่นเหตุต้องสงสัยลอบยิงฐาน ยันมีสิทธิจับอยู่แล้วแม้ “จีที 200” ไม่ชี้
ทีมข่าวอิศรา
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แจงข่าว 2 วัยรุ่นชายแดนใต้ร้องสภาถูก “จีที 200” ชี้จับ ยันไม่ได้ควบคุมตัวเพราะเครื่องตรวจระเบิดฉาว แต่อ้างเป็นผู้ต้องสงสัยเหตุยิงฐานทหาร มีสิทธิจับอยู่แล้ว ไม่ต้องใช้ “จีที 200” ยอมรับไม่ได้ดำเนินคดีเพราะไม่มีพยานหลักฐานยืนยัน จึงใช้การควบคุมและสั่งให้รายงานตัวเป็นระยะแทน
พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ชี้แจงข่าววัยรุ่น 2 คนจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการของทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ว่าถูกคุมขังและต้องรายงานตัวเป็นระยะกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เพียงเพราะถูกเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 ชี้เมื่อหลายเดือนก่อน ซึ่งเข้าข่ายการละเมิดสิทธิ
“เรื่องที่เป็นข่าวไม่น่าใช่ประเด็น เพราะวันที่เกิดเหตุมีการลอบยิงฐานของหน่วยพัฒนาสันติ ซึ่งหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 21 เข้าไปช่วยเหลือปิดกั้นทางเข้าออกที่เกิดเหตุ และระหว่างปิดกั้นได้มีวัยรุ่น 2 คนขี่จักรยานยนต์ ออกมา จึงเรียกให้หยุดรถ จากนั้นก็ดำเนินการตามขั้นตอน” พ.อ.บรรพต อ้างถึงเหตุการณ์ที่ตามคำร้องเรียนของวัยรุ่น 2 คนระบุว่าเกิดขึ้นราวปลายเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว
ส่วนเรื่องเจ้าหน้าที่ใช้เครื่อง จีที 200 ตรวจหาสารประกอบระเบิดและดินปืนตามร่างกาย กระทั่งถูกจับกุมนั้น พ.อ.บรรพต กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้นำเครื่อง จีที 200 มาใช้พิสูจน์อยู่แล้ว การตั้งข้อสงสัยและจับกุมนั้น ใช้เครื่องจีที 200 เพียงเป็นข้อมูลประกอบเหตุการณ์มากกว่า
“ไม่ว่าจีที 200 จะชี้หรือไม่ชี้ แต่คนที่อยู่ในเหตุการณ์เราต้องคิดว่าเป็นผู้ต้องสงสัยไว้ก่อน และกรณีที่เป็นข่าวก็เป็นการจับเพราะเป็นผู้ต้องสงสัยในเหตุการณ์ ยืนยันว่าไม่มีกรณีใช้ จีที 200 ชี้แล้วดำเนินคดี เพราะเราไม่เคยทำอยู่แล้ว”
โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทาง กอ.รมน.กำลังรอรายงานอยู่ว่าจะมีใครมาร้องเรียนเรื่องที่ได้รับผลกระทบจากการใช้เครื่องตรวจระเบิด จีที 200 หรือไม่ เพราะหากมีจะได้ชี้แจงให้เข้าใจ
“แต่จากข้อมูลของเรา ไม่มีกรณีแบบที่ว่าเลย และกรณีที่เรานำเครื่องจีที 200 ไปตรวจค้นนั้น จะใช้เฉพาะกรณีที่ว่ามีการข่าวแจ้งมา เราสงสัยอยูแล้วเราถึงกล้าเข้าไปค้น และยืนยันว่าการที่จะควบคุมผู้ต้องสงสัยก็ต้องมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ไม่ใช่เดินอยู่ดีๆ เอาเครื่อง จีที 200 ไปชี้...มันไม่ใช่ แต่กรณีมีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง แบบนั้นถือว่าเป็นผู้ต้องสงสัย เราไม่มีหลักฐานที่เป็นวัตถุพยานที่จะคุมขังได้ ก็เลยต้องเชิญรายงานตัวเป็นครั้งคราวไป เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้ปล่อยให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม”
ส่วนการเรียกไปรายงานตัวเป็นระยะ เป็นการดำเนินการโดยมีกฎหมายรองรับหรือไม่นั้น พ.อ.บรรพต กล่าวว่า ต้องขอตรวจสอบก่อน แต่เนื่องจากพื้นที่สามจังหวัดเป็นพื้นที่ใช้กฎหมายพิเศษ 2 ฉบับ คือพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ.2457 จึงต้องเข้มข้นกว่าพื้นที่อื่น แต่ยอมรับว่าการจะทำทุกอย่างต้องมีกฎหมายรองรับถึงจะทำได้
ด้าน พล.ต.จีระศักดิ์ ชมประสพ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี กล่าวว่า ไม่เคยใช้เครื่อง จีที 200 ตรวจสอบใครแล้วควบคุมตัว เรื่องที่เป็นข่าวกำลังให้เจ้าหน้าที่หาข้อมูลอยู่
ย้อนรอย 2 วัยรุ่นโวยถูก จีที 200 ชี้-จับ
อนึ่ง "ทีมข่าวอิศรา" ได้เปิดเผยข้อมูลซึ่งเป็นหนังสือร้องเรียนที่ผู้เสียหาย 2 คนทำถึงคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตามเร่งรัดประเมินผลการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ วุฒิสภา และคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ว่าถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงใช้เครื่อง จีที 200 ตรวจหาหลักฐาน และถูกควบคุมตัวโดยมิชอบ
หนังสือร้องเรียนของผู้เสียหายทั้ง 2 ราย ระบุว่า พวกเขาถูกจับกุมเมื่อปลายเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว ในท้องที่อำเภอหนึ่งของ จ.ปัตตานี โดยช่วงเย็นวันเกิดเหตุเขากำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน แต่ระหว่างทางพบเหตุการณ์ไม่ปกติบนเส้นทางสายหลักที่ใช้อยู่ จึงตัดสินใจใช้เส้นทางสายรองกลับบ้านแทน แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงซึ่งตรึงกำลังอยู่เรียกตรวจ และพาไปยังฐานปฏิบัติการของหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ 2 คนมาซักถาม แล้วก็นำตัวไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
หนังสือร้องเรียนยังระบุว่า ระหว่างถูกคุมตัวไปค่ายอิงคยุทธฯ เจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่อง จีที 200 มาตรวจผู้เสียหายทั้งสอง แต่เดินตรวจถึง 4 ครั้งเครื่องก็ไม่ชี้ จึงพยายามตรวจอีกรอบ กระทั่งสุดท้ายในรอบที่ 5 เครื่องชี้ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ในค่ายอิงคยุทธฯเป็นเวลา 7 วันจึงได้รับการปล่อยตัว
อย่างไรก็ดี แม้จะได้รับการปล่อยตัวแล้ว พวกเขายังต้องไปรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่เดือนละ 1 ครั้ง ทำให้ต้องสูญเสียอิสรภาพ ไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างปกติได้ ซ้ำยังต้องไปฝึกวิชาชีพตามโปรแกรมที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกำหนด และก็ยังคงต้องไปรายงานตัวทุกเดือนอีกด้วย ทำให้เสียทั้งค่าใช้จ่ายและเวลา กระทั่งล่าสุดได้ทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่า เครื่องจีที 200 ไม่สามารถใช้งานได้จริง และไม่ใช่เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ จึงได้ทำหนังสือร้องเรียนให้ผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือให้ฝ่ายความมั่นคงยุติการกระทำที่ทำให้สูญเสียอิสรภาพดังกล่าว
ยิงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน-ฆ่าโหดคุณลุงสิงห์มอเตอร์ไซค์
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปราย โดยเมื่อเวลา 06.30 น.วันเสาร์ที่ 6 มี.ค.2553 เกิดเหตุคนร้ายซึ่งใช้รถยนต์เก๋งเป็นพาหนะ ใช้อาวุธสงครามเอ็ม 16 ยิงถล่ม นายอาซิ กอมิง อายุ 42 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านหลังไปกรีดยาง เหตุเกิดบริเวณเชิงสะพานบาโงตา หมู่ 1 ต.บาโงสะโต เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 6 มี.ค. เกิดเหตุคนร้าย 4 คนใช้รถจักรยานยนต์ขี่ตามประกบ นายราหะมัน บินยะโกะ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/7 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งมีอาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ขณะขี่รถกลับบ้าน เมื่อสบโอกาสได้ใช้ปืนพกไม่ทราบขนาดยิงใส่จนหมดแม็ก จากนั้นใช้ของมีคมฟันที่ศีรษะจน นายราหะมัน เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณถนนหลังโรงเรียนบ้านซรายอ ต.ปาเสมัส เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบหรือเป็นเหตุล้างแค้นส่วนตัว
ประกบยิงสองพ่อลูกดับคาถนนกลางเมืองปัตตานี
วันศุกร์ที่ 5 มี.ค. คนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายมะยา ปูลา อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ 4 ต.ม่วงเตี้ย อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ขณะขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนในหมู่บ้านตันหยง หมู่ 3 ต.ม่วงเตี้ย เพื่อไปกรีดยาง ทำให้มะยาได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปเช่นกันว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบหรือเป็นการล้างแค้นส่วนตัว
ก่อนหน้านั้นเมื่อวันอังคารที่ 2 มี.ค. เกิดเหตุคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิง นายยูกิฟลี แวดอคอ อายุ 40 ปี ลูกจ้างชั่วคราวของสำนักงานที่ดิน จ.ปัตตานี ทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษา เสียชีวิตพร้อมกับ ด.ญ.ฮายัด แวดอคอ บุตรสาววัย 6 ขวบ เหตุเกิดในซอย 10 ถนนยะรัง ต.ตะลูโบะ อ.เมือง จ.ปัตตานี ขณะนายยูกิฟลีขี่รถจักรยานยนต์ไปรับลูกสาวที่โรงเรียน กำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน
วันเดียวกัน หน่วยเฉพาะกิจยะลา 14 รับผิดชอบพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา เข้าตรวจค้นพื้นที่บนเทือกเขาบูเก๊ะปิ บ้านซีรอ หมู่ 9 ต.ปะแต หลังรับแจ้งว่าพบแหล่งซุกซ่อนเสบียงอาหารของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ ผลการตรวจสอบ พบน้ำตาลทราย 13 ถุง เมล็ดถั่วเขียว 12 ถุง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 30 ซอง บรรจุอยู่ในถังพลาสติกสีฟ้าขนาด 60 ลิตร จำนวน 2 ใบ ฝังไว้ใต้ดิน คาดว่าเป็นของกลุ่ม นายฮูไบดีละห์ รอมือลี แกนนำผู้ผู้ก่อความไม่สงบระดับสั่งการ และผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคงหลายคดี ที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ ต.ปะแต อ.ยะหา และ อ.บันนังสตา จ.ยะลา
------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1. พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า
2. เสบียงของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบซึ่งฝังไว้ใต้ดินบนเทือกเขาบูเก๊ปิ ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดยะลา)
อ่านประกอบ :
- ไหนว่าไม่มี...เปิดหลักฐาน"เหยื่อ"ถูก จีที 200 ชี้-จับ!