- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- บาเจาะเดือด! วันเดียวฆ่า 9 ศพ ผู้นำศาสนาหวั่นตอกลิ่ม "พุทธ-มุสลิม"
บาเจาะเดือด! วันเดียวฆ่า 9 ศพ ผู้นำศาสนาหวั่นตอกลิ่ม "พุทธ-มุสลิม"
แวดาโอ๊ะ หะไร
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
บาเจาะเดือด วันเดียวฆ่า 9 ศพ คนร้ายควบปิกอัพกราดเอ็ม 16 อาก้าถล่มร้านน้ำชากลางดึก ชาวบ้านมุสลิมตาย 3 เจ็บ 9 เผยเพิ่งเกิดเหตุสังหารหมู่พรานหาของป่าชาวไทยพุทธ 6 ศพเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า เจ้าหน้าที่เชื่อฝีมือแก๊งเดียวกัน สงสัยกลุ่ม "มะรอโซ จันทรวาดี" รางวัลนำจับ 2.5 ล้าน กอ.รมน.ชี้ฝ่ายก่อความไม่สงบหันเล่นงานเป้าหมายอ่อนแอ ผู้นำศาสนาหวั่นตอกลิ่ม "พุทธ-มุสลิม"
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะพื้นที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ยังคงเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากเมื่อบ่ายวันที่ 1 เม.ย.2553 คนร้ายเพิ่งใช้อาวุธสงครามยิงถล่มพรานหาของป่าซึ่งเป็นชาวไทยพุทธจนเสียชีวิตทั้งหมด 6 ศพ บริเวณเชิงเขาบูโด ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ จากนั้นในช่วงกลางดึกคืนเดียวกันเกิดเหตุกราดยิงชาวบ้านมุสลิมเสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย
โดยเมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 1 เม.ย. ร.ต.อ.สุชาติ หมีลำพอง ร้อยเวร สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายยิงถล่มร้านน้ำชาไม่มีเลขที่ ซึ่งเป็นของ นายเยาะมะ สะแม ตั้งอยู่ติดกับบ้านเลขที่ 34/1 หมู่ 4 ต.ลูโบะสาวอ อ.บาเจาะ มีชาวบ้านเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
อย่างไรก็ดี เมื่อไปถึงพบว่าชาวบ้านได้ช่วยกันนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลบาเจาะแล้ว เจ้าหน้าที่จึงตามไปที่โรงพยาบาล พบว่ามีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ นายหะแว ตาเกอารี นายฮารง ตาเกอารี ซึ่งทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน และ นายนิเย๊ะ ต่วนเวาะ
นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 9 ราย ทราบชื่อ 7 รายคือ นางซือมะ มูนา ภรรยาของนายเยาะมะ เจ้าของร้านน้ำชา นายแวอาเซ็ง วาเต๊ะ นายฮาเล็ม ยาสะมะแม นายอิสมะแอ ตะมารา นายสือแม อูมารอ นายมะรา สาและ นายซูอารี อาแวสาและแม ส่วนที่เหลือยังไม่ทราบชื่อ โดยทั้ง 7 รายที่ทราบชื่ออาการสาหัส แพทย์ต้องส่งตัวไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส
สอบสวนทราบว่า ขณะที่นางซือมะกำลังยืนชงน้ำชาให้ลูกค้า ซึ่งมีชาวบ้านนั่งอยู่ในร้านกว่า 10 คน มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนขับรถกระบะสีดำ 4 ประตู ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนมาจอดที่หน้าร้าน จากนั้นคนร้าย 2 คนซึ่งนั่งอยู่ในกระบะหลัง ใช้อาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 และอาก้า ยิงใส่กลุ่มชาวบ้านในร้านน้ำชา จากนั้นได้ขับรถหลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ตร.ฟันธงทั้ง2เหตุฝีมือกลุ่ม"มะรอโซ"
ต่อมาเมื่อเวลา 07.30 น.วันศุกร์ที่ 2 เม.ย. พ.ต.อ.จำลอง งามเนตร ผู้กำกับการ สภ.บาเจาะ นำกำลังเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุสังหารหมู่พรานหาของป่า 6 ราย และเหตุยิงถล่มร้านน้ำชาจนมีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บอีก 9 คน เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง และพบปลอกกระสุนปืนเอ็ม16 และ อาก้าเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง โดยในเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายที่ปฏิบัติการทั้ง 2 เหตุการณ์เป็นกลุ่มเดียวกัน และใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกัน
จากนั้น พ.ต.อ.จำลอง ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินสถานการณ์ และสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มของ นายมะรอโซ จันทรวาดี อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีความมั่นคงหลายคดี มีรางวัลนำจับถึง 2.5 ล้านบาท จากข้อมูลของฝ่ายความมั่นคง เชื่อว่านายมะรอโซเคยก่อเหตุลอบวางระเบิดทหารหน่วยนาวิกโยธินเสียชีวิต 2 นายเมื่อเดือน พ.ค.2548 และร่วมกันใช้อาวุธปืนยิง นายอรุณ ศิริรังสี และนายประสิทธิ์ สุขเจริญ เจ้าหน้าที่หน่วยรังวัดที่ดิน จ.ปัตตานี เสียชีวิตในพื้นที่ อ.บาเจาะ เมื่อวันที่ 5 ส.ค.2552 โดยคนร้ายได้ขโมยรถยนต์ของนายอรุณไปประกอบระเบิดเป็น "คาร์บอมบ์" นำไปก่อเหตุที่ร้านอาหารสวนกล้วยในเขต อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ปีเดียวกัน จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากด้วย
ค้นบ้าน"มะรอโซ"เจอโสร่งเปื้อนเลือด
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ได้สนธิกำลังกันออกติดตามไล่ล่ากลุ่มคนร้ายเพื่อเชื่อว่ายังกบดานอยู่ในพื้นที่ ขณะที่กำลังทหารจากหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุดปฏิบัติการ ชุดหนึ่งเดินเท้าขึ้นเทือกเขาบูโด ส่วนอีกชุดหนึ่งกดดันบนพื้นราบ และเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมาย 8 หลัง ในท้องที่บ้านดูกู หมู่ 7 ต.บาเจาะ
ทั้งนี้ จากการตรวจค้นบ้านเลขที่ 274/2 ซึ่งเป็นบ้านของนายมะรอโซ พบผ้าโสร่งสีเหลืองอ่อนของผู้ชาย 1 ผืน มีรอยคล้ายคราบเลือด ซุกอยู่ในถังพลาสติกทรงกลมสีดำ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 50 เซนติเมตร สูง 90 เซนติเมตร โดยด้านบนของถังปิดทับด้วยถุงพลาสติกอย่างดี เจ้าหน้าที่จึงยึดผ้าโสร่งไปตรวจหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
ทหารชี้กลุ่มป่วนมุ่งเล่นงานเป้าหมายอ่อนแอ
ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.บรรพต พูลเพียร หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ในฐานะโฆษก กอ.รมน.ภ.4 ส่วนหน้า แถลงว่า เหตุรุนแรงทั้งสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นับว่าเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมต่อราษฎรที่ไม่มีทางต่อสู้ โดยน่าจะเป็นการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรงเพื่อโต้ตอบปฏิบัติการเชิงรุกด้านมวลชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่องของเจ้าหน้าที่รัฐ จนทำให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงสูญเสียมวลชนบางส่วน
นอกจากนั้น ยังอาจเป็นตอบโต้เจ้าหน้าที่จากกรณีเมื่อวันที่ 16 ก.พ.2553 เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นเป้าหมายที่บ้านคลอแระ หมู่ 3 ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ จนเกิดการยิงปะทะกัน เป็นเหตุให้ นายมูฮัมมัดนาวารี แมยู แกนนำคนสำคัญของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต
พร้อมกันนี้ พ.อ.บรรพต ยังได้แจ้งเตือนไปยังพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังตนเองมากขึ้น เพราะคนร้ายมักก่อเหตุต่อเป้าหมายที่อ่อนแอ หรือประชาชนที่อาจไปรู้เห็นความเคลื่อนไหวและสถานที่หลบซ่อนของผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ป่าเขา
“ทั้งสองเหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่เดียวกัน เชื่อว่าน่าจะเป็นการกระทำของคนร้ายกลุ่มเดียวกันซึ่งเป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.บาเจาะ และ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กำลังติดตามจับกุมอยู่ โดยเหตุการณ์ครั้งนี้กลุ่มคนร้ายมุ่งหวังทำร้ายเป้าหมายที่มีความอ่อนแอ ที่ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้"
"หลังจากเกิดเหตุ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้เร่งรัดให้หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสลงพื้นที่ทันที เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน รวมทั้งร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการหาข้อมูลกลุ่มคนร้ายเพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด” โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าว
พ.อ.บรรพต กล่าวด้วยว่า ช่วงนี้อาจจะมีข่าวลือหรือใบปลิวของฝ่ายตรงข้ามออกมาโจมตีการทำงานของฝ่ายเจ้าหน้าที่ ซึ่งทาง กอ.รมน.ภาค 4 ขอทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ทางราชการไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองในพื้นที่ จะดูแลรักษาความปลอดภัยพี่น้องประชาชนอย่างถึงที่สุด และยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่กระทำต่อเป้าหมายที่อ่อนแออย่างแน่นอน
ผู้นำศาสนาเชื่อหวังตอกลิ่มพุทธ-มุสลิม
วันเดียวกัน ที่มัสยิดดารุลอีมาน บ้านบลูกาสนอ หมู่ 4 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส นายอับดุลเราะห์มาน อับดุลสมัด อดีตประธานคณะกรรมอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ได้นำชาวบ้านจำนวนกว่า 300 คน ละหมาดฮายัตและขอดุอาให้กับผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิงร้านน้ำชาที่ อ.บาเจาะ ซึ่งมีชาวบ้านเสียชีวิต 3 รายและบาดเจ็บอีก 9 คน
นายอับดุลเราะห์มาน กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 เม.ย. ไม่ว่าจะเป็นเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงคนหาของป่าซึ่งเป็นชาวไทยพุทธเสียชีวิต 6 ราย บริเวณเชิงเขาบูโด บ้านบาดง หมู่ 6 ต.บาเจาะ อ.บาเจาะ และกราดยิงชาวบ้านในร้านน้ำชาที่บ้านบือราแง ต.ลูโบะสาวอ อ.บาเจาะ เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีก 9 รายนั้น นับเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญประชาชนในพื้นที่อย่างที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ฉะนั้นต้องดูในส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ว่าขาดตกบกพร่องอย่างไรบ้าง
"ทั้งสองเหตุการณ์ จากการพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่ต้องการก่อเหตุเพื่อสร้างความเข้าใจผิด ความบาดหมาง หวาดระแวง และให้เกิดช่องว่างสร้างความแตกแยกระหว่าง 2 ศาสนา ถือเป็นสิ่งที่อันตรายมาก ดังนั้นทางรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจะต้องเร่งทำความเข้าใจให้เกิดขึ้นกับประชาชนด้วยสันติวิธีโดยด่วน" นายอับดุลเราะห์มาน ระบุ
-------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : ภาพจากศูนย์ภาพเนชั่น
บรรยายภาพ : ทหารจากหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านต้องสงสัยเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุสังหารประชาชนในท้องที่ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส
อ่านประกอบ : ระอุ! รัวอาก้า-เอ็ม 16 ถล่มพรานหาของป่า 6 ศพ