- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- ปัตตานีป่วนอีก "โชเล่ย์บึ้ม"ถล่มยีเอ็มซีทหารเจ็บ 14 นาย
ปัตตานีป่วนอีก "โชเล่ย์บึ้ม"ถล่มยีเอ็มซีทหารเจ็บ 14 นาย
อะหมัด รามันห์สิริวงศ์
แวดาโอ๊ะ หะไร และทีมข่าวอิศรา
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
ปัตตานียังป่วนไม่เลิก คนร้ายใช้ "โชเล่ย์บึ้ม" ซุกระเบิดในรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ดักบอมบ์รถยีเอ็มซีทหารขณะสับเปลี่ยนกำลังพลหน่วยเฉพาะกิจยะลา 16 ตูมสนั่นริมถนนสายใหม่ปัตตานี-ยะลา เจ็บระนาว 14 นาย เผยแก๊งป่วนใต้ปรับแผนบรรทุกระเบิดใส่รถโชเล่ย์ เหตุถนนเพิ่งสร้าง ฝังบึ้มไม่สะดวก ระบุ ฉก.ยะลา 16 เพิ่งถูกระเบิดลูกที่ 2 ร้อยโทขาขาดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา อีกรายควงเอ็ม 16 อาก้ายิงรถขนขยะเทศบาลนาประดู่ ตาย 1 เจ็บอีก 4 ครูถูกยิงสาหัสที่ยี่งอ
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียด และเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 10.30 น.วันจันทร์ที่ 26 เม.ย.2553 พ.ต.อ.กำธร จันที ผู้กำกับการ สภ.แม่ลาน จ.ปัตตานี รับแจ้งมีเหตุระเบิดบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 418 หรือถนนสายปัตตานี-ยะลาสายใหม่ บริเวณหมู่ 7 บ้านต้นกะท้อน ต.ป่าไร่ อ.แม่ลาน ซึ่งเป็นเขตรอยต่อของ จ.ปัตตานี กับ ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถยีเอ็มซีบรรทุกกำลังพล ทะเบียนกงจักร จอดเสียหลักอยู่ข้างทางในสภาพมีร่องรอยถูกสะเก็ดระเบิดหลายแห่ง และมีกองเลือดจำนวนมากบนกระบะรถ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นทหารจำนวน 14 นาย เพื่อนทหารช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลาแล้ว ประกอบด้วย พลทหารคณิต คาถา ส.อ.อุทิศ ภูเกสร ส.อ.ปิยะ พิมแป้น ทั้งสามนายนี้อาการสาหัส
ส่วนที่เหลือได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ได้แก่ พลทหารพันธสา เพ็งจันทร์ พลทหารวัชระ นะอิ พลทหารดำรง อุดเต็น พลทหารขวัญชัย แสงอ่อน ส.อ.ธีระวัฒน์ แสงจินดา จ.ส.อ.จำรัส ดำวิ่ง ส.อ.สมศักดิ์ แสงสุวรรณ พลทหารวิสิษฎ์ กลึงตา พลทหารสมโภช ปิ่นตาลี พลทหารภานุวัตร บุญจันทา และ พลทหารนภดล เพิ่มขัน
ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบซากรถจักรยานยนต์แบบพ่วงข้าง ยี่ห้อฮอนด้า หรือที่เรียกกันติดปากในพื้นที่ว่า "รถโชเล่ย์" ซึ่งคนร้ายนำระเบิดซุกเอาไว้ มีชิ้นส่วนถังแก๊สและสะเก็ดระเบิดกระจายไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า กำลังทหารชุดดังกล่าวสังกัดหน่วยเฉพาะกิจ (ฉก.) ยะลา 16 รับผิดชอบ อ.ธารโต จ.ยะลา เดินทางมาจาก จ.เพชรบูรณ์ เพื่อสับเปลี่ยนกำลังในการปฏิบัติภารกิจดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ ก่อนเกิดเหตุ ส.อ.อุทิศ ซึ่งเป็นพลขับ ได้ขับรถยีเอ็มซีนำกำลังทหารเดินทางไปยังฐานปฏิบัติการที่ อ.ธารโต เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุมีรถจักรยานยนต์พ่วงข้างจอดทิ้งไว้ข้างทาง มีกากมะพร้าวคลุมปิดถังแก๊สซึ่งคนร้ายบรรจุระเบิดน้ำหนัก 15 กิโลกรัมเอาไว้ เมื่อได้จังหวะคนร้ายไม่ทราบจำนวนซึ่งคาดว่าดักซุ่มอยู่ข้างทาง ได้กดจุดชนวนระเบิดด้วยรีโมทคอนโทรล แรงระเบิดทำให้รถยีเอ็มซีเสียหลัก และทหารได้รับบาดเจ็บ 14 นายดังกล่าว
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบที่หวังสังหารหมู่เจ้าหน้าที่ทหารขณะเคลื่อนย้ายสับเปลี่ยนกำลัง โดยคนร้ายรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ จึงลอบวางระเบิดเพื่อสร้างสถานการณ์
แฉแผนซุกบึ้มรถโชเล่ย์แทนฝังดิน
พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน.) กล่าวว่า การลอบวางระเบิดครั้งนี้แตกต่างจากการระเบิดรถเจ้าหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากคนร้ายไม่ได้ซุกระเบิดไว้ใต้ผิวพื้นถนน เนื่องจากถนนสาย 418 เป็นถนนยกระดับและสร้างใหม่ อีกทั้งมีเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนอยู่เป็นระยะ ทำให้ไม่สามารถขุดเจาะผิวถนนได้ แต่คนร้ายกลับไม่ละความพยายาม ได้หันมาซุกระเบิดไว้ในรถจักรยานยนต์พ่วงข้างแทน โดยรอจังหวะให้เป้าหมายมาถึงก่อนกดจุดชนวน ประเด็นนี้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความเข้มงวดกวดขันให้มากขึ้นเพื่อความปลอดภัย
"คนร้ายน่าจะทราบมาก่อนว่าจะมีรถบรรทุกกำลังพลวิ่งผ่าน อีกทั้งน่าจะมีการประสานงานค่อนข้างดี จึงได้นำรถซุกระเบิดมาจอดเตรียมการไว้ล่วงหน้าเพื่อรอจังหวะ เพราะเท่าที่ตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน ได้รับการยืนยันว่ารถที่นำมาจอดทิ้งไว้นั้นเพิ่งนำมาจอดแค่ไม่กี่นาที หากรถจอดทิ้งไว้นานผิดปกติ เจ้าหน้าที่ซึ่งลาดตระเวนเส้นทางอยู่ต้องเข้าตรวจสอบแล้ว" พ.อ.บรรพต ระบุ
ยิงรถขนขยะเทศบาลนาประดู่ตาย1เจ็บ4
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 08.35 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.อนุสรณ์ จันทร์กลับ สารวัตรเวร สภ.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่รถขนขยะของเทศบาลตำบลนาประดู่ มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนภายในหมู่บ้านศาลาลาก หมู่ 7 บ้านควนประ ต.นาประดู่ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถขนขยะสีเหลืองของเทศบาลตำบลนาประดู่ ยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 80-5614 ปัตตานี ตกอยู่ข้างทาง กระจกหน้าแตก ประตูด้านคนขับมีรอยกระสุนหลายแห่ง ส่วนผู้บาดเจ็บมี 5 ราย เสียชีวิต 1 ราย คือ นายอาวุธ อุ่ยสกุล อายุ 54 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าศีรษะและลำตัวหลายนัด สำหรับผู้บาดเจ็บอีก 4 คนประกอบด้วย นายวิรัช หลำหัส นายอู๊ด สุขแก้ว สองคนนี้อาการสาหัส นายสุทัน อุบล และนายธีรศักดิ์ ชูมณี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย โดยทั้งหมดเป็นพนักงานเก็บขยะของเทศบาล นอกจากนั้นในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืนอาก้าและ เอ็ม 16 ตกเกลื่อนถนนกว่า 20 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า ขณะที่นายอาวุธขับรถขนขยะของเทศบาลมุ่งหน้าไปยังบ่อขยะ โดยมีเพื่อนอีก 4 คนนั่งอยู่ภายในรถนั้น ระหว่างทางได้มีรถกระบะสีดำไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนขับตามประกบ พอได้โอกาสคนร้ายซึ่งคาดว่ามีด้วยกัน 6 คน ใช้อาวุธปืนสงครามถล่มยิงหลายนัด เป็นเหตุให้รถเสียหลักตกข้างทาง มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบเช่นกัน
ประกบยิง อส.มายอดับคาถนน
เวลา 19.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผู้กำกับการ สภ.มายอ จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุยิงกันบนถนนในหมู่บ้านบูวะ หมู่ 4 ต.กระเสาะ อ.มายอ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบศพ นายนูรดิน เจ๊ะมะ อายุ 27 ปี อาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำ อ.มายอ อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 4 ต.กระเสาะ นอนจมกองเลือดอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.เข้าลำตัวและศีรษะรวม 3 นัด
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายนูรดิน กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับจากเล่นฟุตบอลที่สนามขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กระเสาะ มุ่งหน้ากลับบ้าน ระหว่างทางถูกคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิงจนเสียชีวิต เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ตั้งเวลาบึ้ม ตชด.วางระเบิดซ้ำร้อยโทขาขาด
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 11.30 น.วันเสาร์ที่ 24 เม.ย. พ.ต.ท.ประเดิมชัย ไพรสนธิ์ สารวัตรเวร สภ.ธารโต จ.ยะลา รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลา 16 รับผิดชอบ อ.ธารโต ว่า เกิดระเบิดบนถนนทางเข้าบ้านบ่อหินใน ท้องที่หมู่ 5 ต.บ้านแหร อ.ธารโต จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนทางเข้าหมู่บ้าน ห่างจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 (สายยะลา-เบตง) ราว 200 เมตร เจ้าหน้าที่พบรอยเลือดหยดอยู่บนพื้นหลายจุด เบื้องต้นทราบว่าผู้บาดเจ็บคือ นางสุนีย์ เชาว์ทอง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/1 หมู่ 5 ต.บ้านแหร ถูกสะเก็ดระเบิดตามแขนขาหลายแห่ง เจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลธารโตแล้ว
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบหลุมระเบิดขนาดกว้าง 1 เมตร มีเหล็กเส้นตัดท่อน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และเศษแบตเตอรี่กระจายเกลื่อน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นางสุนีย์ ได้ขี่รถจักรยานยนต์เดินทางไปที่สวนยางพาราหลังหมู่บ้าน แต่เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้เกิดระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง ทำให้นางสุนีย์ได้รับบาดเจ็บ เสียงระเบิดดังไปถึงวัดบ่อหินซึ่งเป็นที่ตั้งฐานของตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) มว.ฉก.ตชด.3101 กองกำกับการ ตชด.ที่ 31 ค่ายพระยาจักรี จ.พิษณุโลก ทำให้ ร.ต.ท.จำเรียง คงสมจิตร์ ผบ.มว.ฉก.ตชด.3101 นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และรีบนำตัวนางสุนีย์ส่งโรงพยาบาล เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายลอบนำระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัมมาวางไว้ โดยตั้งเวลาจุดชนวนระเบิดเพื่อดักทำร้ายเจ้าหน้าที่ ตชด. ซึ่งจะเดินทางเข้าไปพบปะชาวบ้านในหมู่บ้านทุกวัน แต่นางสุนีย์ผ่านมาพอดี จึงรับเคราะห์แทน
นอกจากนี้ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายกำลังตรวจสถานที่เกิดเหตุเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมอยู่นั้น ปรากฏว่า ร.ท.พงศกร ทัพพิกรณ์ ผู้บังคับกองร้อย 101 หน่วยเฉพาะกิจยะลา 16 ได้เดินไปเหยียบกับระเบิดที่คนร้ายฝังไว้ใต้พื้นดิน แล้วใช้เศษหญ้ากลบไว้ เป็นเหตุให้ร่างของ ร.ท.พงศกร ถูกแรงระเบิดอัดจนข้อเท้าซ้ายขาด ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่ จ.ส.อ.มานิตย์ บุญประถม ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ดวงตาทั้งสองข้าง ส.อ.สิทธิพล จำนงค์เป็น ทหารจากหน่วยเดียวกัน มีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดที่ใบหน้า และ นายอนุรักษ์ เว้งศิลา ลูกจ้างโครงการจ้างงานเร่งด่วน 4,500 บาทของหน่วยเฉพาะกิจยะลา 16 ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย พ.ต.ต.มานพ สืบบุก สารวัตรป้องกันและปราบปราม (สวป.) สภ.ธารโต จึงรีบนำส่งโรงพยาบาลธารโต และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า กลุ่มคนร้ายวางแผนนำระเบิดแสวงเครื่องชนิดตั้งเวลามาวางไว้ แล้วแอบนำระเบิดแสวงเครื่องอีกลูกวางซ่อนไว้ในสวนยางพาราที่อยู่ใกล้ๆ กัน หวังผลให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสถานที่เกิดเหตุแล้วเหยียบกับระเบิด คาดว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ยิงครู-พ่อค้าบาดเจ็บที่ยี่งอ
เวลา 06.10 น. วันศุกร์ที่ 23 เม.ย. ร.ต.ท.ภูมรัตน์ รินทร์สีมา ร้อยเวร สภ.ยี่งอ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงบนถนนหลังตลาดนัด อ.ยี่งอ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานจำนวน 2 คันล้มคว่ำอยู่บนถนน ส่วนผู้บาดเจ็บมีพลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส ไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อคือ นายยงยุทธ วัชราภิญชัย อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 3 ต.ยี่งอ อ.ยี่งอ เป็นครูสอนวิชาสังคมศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านยี่งอ มีบาดแผลถูกกระสุนปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดที่บริเวณศีรษะ 1 นัด และข้อศอกขวา 1 นัด อาการสาหัส
ผู้บาดเจ็บอีกรายคือ นายโสภณ อภิสุภาพ อายุ 63 ปี อาชีพค้าขาย อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 3 ต.ยี่งอ อ.ยี่งอ ถูกกระสุนปืนชนิดและขนาดเดียวกันที่ข้อมือขวาและแผ่นหลัง อาการไม่สาหัส
จากการสอบสวนนายโสภณทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขี่รถจักรยานคู่กับนายยงยุทธเพื่อออกกำลังกายตามปกติ เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ มีคนร้าย 2 คน นุ่งผ้าโสร่ง ขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงสีดำไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนซ้อนท้ายกันมา เมื่อสบโอกาสคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์แซงขึ้นหน้า จากนั้นคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ชักอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดยิงใส่นายยงยุทธ 2 นัดซ้อน และยิงใส่เขา 2 นัดเช่นกัน จากนั้นจึงเร่งเครื่องรถหลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ
บึ้มโรงพัก-คาร์บอมบ์ปัตตานีโยงแก๊งค้ายา
ด้านความคืบหน้าเหตุคนร้ายปาระเบิดใส่ตำรวจที่กำลังยืนเข้าแถวรวมพลบริเวณหน้า สภ.เมืองปัตตานี และจุดชนวนระเบิดคาร์บอมบ์ซ้ำ จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บอีกราว 50 นาย และมีประชาชนได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง เหตุเกิดเมื่อวันพุธที่ 21 เม.ยงที่ผ่านมานั้น
พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐ์พันธ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (ผบก.ภ.จว.ปัตตานี) เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า ข้อมูลมีความชัดเจนมากขึ้น น่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มแนวร่วมอาร์เคเค (กลุ่มวัยรุ่นและชายฉกรรจ์ที่ได้รับการฝึกรบแบบจรยุทธ์) ซึ่งเคยเคลื่อนไหวก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งการลอบวางระเบิดที่โรงแรมใน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ระเบิดร้านอาหารที่ จ.ยะลา และระเบิดที่โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี
"เหตุการณ์ทั้งหมดเกี่ยวโยงกัน และยังมีความเกี่ยวโยงกับกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดอีกด้วย เรารู้ตัวกลุ่มนี้แล้ว ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เมื่อเสร็จสมบูรณ์ก็จะออกหมายจับ ซึ่งกลุ่มนี้ได้ให้ตำรวจนอกเครื่องแบบเกาะติดความเคลื่อนไหวอยู่ เจ้าหน้าขอเวลาอีกไม่กี่วันเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน เราปล่อยให้คนร้ายเคลื่อนไหวก่อเหตุและสร้างสถานการณ์อย่างนี้ไม่ได้แล้ว ต้องปฏิบัติการเชิงรุกเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และเจ้าหน้าที่จะต้องไม่สูญเสียอีก" พล.ต.ต.พิเชษฐ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุ 1 วัน นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งรับผิดชอบดูแลปัญหาภาคใต้ ได้เดินทางไปเยี่ยมตำรวจและประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารระดับสูง โดยนายถาวรได้แสดงความข้องใจที่กล้องโทรทัศน์วงจรปิดโดยรอบจุดเกิดเหตุใช้การไม่ได้เกือบทั้งหมด มีเพียงกล้องหน้า สภ.เมืองปัตตานี ใช้การได้เพียงตัวเดียว ทั้งนี้เจ้หน้าที่ชี้แจงว่าเป็นเพราะงบประมาณจัดซื้อของกระทรวงมหาดไทยมีปัญหา ทำให้นายถาวรสั่งให้ใช้งบฉุกเฉินจัดซื้ออย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก
-------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : คุณปาเรซ โลหะสัณห์ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์คมชัดลึกประจำ จ.ปัตตานี เอื้อเฟื้อข่าวสถานการณ์ที่ จ.ปัตตานี
ภาพโดย : อับดุลเลาะ หวังนิ
บรรยาภาพ :
1 สภาพรถยีเอ็มซีของทหารที่ถูกดักระเบิด
2 ผู้สื่อข่าวกำลังถ่ายภาพรถโชเล่ย์ซุกระเบิดที่เหลือแต่ซาก