- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- ดักบึ้มชุด รปภ.เส้นทางแม่ทัพ ยิงรายวันดับ 2 ผู้นำท้องถิ่น
ดักบึ้มชุด รปภ.เส้นทางแม่ทัพ ยิงรายวันดับ 2 ผู้นำท้องถิ่น
อะหมัด รามันห์สิริวงศ์
แวดาโอ๊ะ หะไร และทีมข่าวอิศรา
กลุ่มก่อความไม่สงบเปิดปฏิบัติการระทึก ลอบวางระเบิดดักสังหารทหารชุด รปภ.แม่ทัพภาคที่ 4 ในพื้นที่ อ.ยี่งอ ขณะแม่ทัพเข้าปฏิบัติภารกิจ โชคดีรัศมีการทำลายล้างเปลี่ยนทิศทาง รอดตายหวุดหวิด โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าออกโรงโต้ทันควัน แค่ป่วนรายวัน ไม่ใช่แผนเล่นงานเจ้าหน้าที่ระดับสูง ด้านผู้นำท้องถิ่นตกเป็นเป้าความรุนแรง ผู้ใหญ่บ้าน-ผู้ช่วยฯในยะลา-ปัตตานี ถูกยิงเสียชีวิต 2 ศพ
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียดและเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 11.05 น. วันจันทร์ที่ 3 พ.ค.2553 พ.ต.ท.ศักดิ์ สีหมัด สารวัตรเวร สภ.ยี่งอ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารสังกัดกองร้อยปืนเล็กที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 บนถนนในหมู่บ้านกูเล็ง หมู่ 2 ต.ยี่งอ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยชุดเก็บกู้ทำลายล้างวัตถุระเบิด (อีโอดี) หน่วยปฏิบัติการพิเศษ จ.นราธิวาส
ที่เกิดเหตุเป็นกอหญ้ารกทึบริมถนน พบหลุมลึก 2 ฟุต กว้าง 4 ฟุต มีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดชนิดแสวงเครื่องแบบเครโม น้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือกระจายเกลื่อน เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวน พ.จ.อ.บุรินทร์ จาดป้อม หัวหน้าชุดกองร้อยปืนเล็กที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้นำกำลังรวม 8 นายขี่รถจักรยานยนต์จำนวน 4 คันออกจากฐานปฏิบัติการ เพื่อวางกำลังรักษาความปลอดภัยให้กับ พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 ที่เดินทางไปเปิดงานมอบโรงสีข้าวให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านกูแว หมู่ 5 ต.ลูโบ๊ะบายะ อ.ยี่งอ โดยคาดว่าแม่ทัพอาจจะใช้เส้นทางสายนี้เดินทางกลับ
อย่างไรก็ดี เมื่อขี่รถจักรยานยนต์ถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ และใช้โทรศัพท์มือถือจุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปวางซุกซ่อนไว้ในกอหญ้าริมถนนจนเกิดระเบิดขึ้น 1 ครั้ง แต่รัศมีการทำลายล้างของระเบิดได้พุ่งทิศทางเข้าไปในป่า จึงทำให้กำลังพลรอดตายอย่างหวุดหวิด เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
โฆษกฯรีบสยบข่าวดักสังหาร "จนท.ระดับสูง"
พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า (โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน.) กล่าวว่า เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารชุด รปภ.แม่ทัพภาคที่ 4 ในพื้นที่ อ.ยี่งอ เชื่อว่าเป็นการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ตามปกติ ไม่ใช่การพุ่งเป้าลอบสังหารเจ้าหน้าที่ระดับสูง เพราะร่องรอยของระเบิดเป็นลักษณะของการวางแบบเร่งด่วน ไม่ได้มีการขุดหลุมฝังแบบเตรียมการมาอย่างดี
อีกทั้งเส้นทางที่เกิดเหตุก็ไม่ใช่เส้นทางหลักที่คณะของแม่ทัพภาคที่ 4 ใช้เดินทางไปและกลับ แต่สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ชุด รปภ.เข้าไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าว ถือเป็นภารกิจตามปกติที่ชุดลาดตระเวนจะต้องเข้าตรวจสอบความเรียบร้อยในพื้นที่ใกล้เคียงที่มีบุคคลสำคัญเข้าไปปฏิบัติภารกิจอยู่แล้ว
"ผมไม่อยากให้มองว่าเป็นการลอบสังหารเจ้าหน้าที่ระดับสูงในพื้นที่ เพราะมีสิ่งบ่งชี้หลายประเด็นว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงรายวันมากกว่า แต่บังเอิญเป็นชุด รปภ.เส้นทางที่ดูแลพื้นที่ในช่วงที่แม่ทัพภาคที่ 4 เข้าปฏิบัติภารกิจใน อ.ยี่งอ พอดี หลังจากนี้จะเพิ่มความระมัดระวังเส้นทางต่างๆ ให้รัดกุมยิ่งขึ้น" พ.อ.บรรพต กล่าว
ประกบยิง ผญบ.ดับคาสี่แยกกลางยะลา
ช่วงเช้าวันเดียวกัน ศูนย์รวมข่าว สภ.เมืองยะลา รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณสี่แยกเนินหูกวาง ถนนธนวิถี ตัดถนนผังเมือง 4 ในเขตเทศบาลนครยะลา จึงประสานแจ้ง พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้กำกับการ สภ.เมืองยะลา นำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าร้านศรีธรรมราช เลขที่ 48 เจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นสตราด้า 4 ประตู สีบรอนซ์-แดง หมายเลขทะเบียน กข 7337 ยะลา สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิดและขนาด ทำให้กระจกด้านข้างคนขับเป็นรูพรุน ส่วนผู้บาดเจ็บนั้น ชุดกู้ภัยแม่กอเหนี่ยวยะลานำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลาแล้ว และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือ นายรอซาลี ฮามะ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/40 หมู่ 4 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา มีตำแหน่งเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.สะเตง และ เป็นพนักงานขายของบริษัทเอเอเอสมอเตอร์ (มิตซูบิชิสาขายะลา) สภาพศพถูกยิงเข้าที่บริเวณท้ายทอย 2 นัด และ ลำตัว 1 นัด
สอบสวนทราบว่า ขณะที่นายรอซาลีกำลังขับรถกระบะคันดังกล่าวมุ่งหน้าไปทำธุระส่วนตัวในเมืองยะลา ช่วงรถติดไฟแดงมีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีดำไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้าประกบ โดยคนร้ายสวมหมวกกันน็อก จากนั้นคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่นายรอซาลี 6 นัดซ้อน ทำให้นายรอซาลีเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปว่าสาเหตุของการสังหารโหดเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ หรือเป็นเรื่องส่วนตัว หรือความขัดแย้งเรื่องการเมืองท้องถิ่น
ยิงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านปัตตานีดับอีกราย
เวลา 15.00 น. พ.ต.อ.นฤชา สุวรรณลาภา ผู้กำกับการ สภ.เมืองปัตตานี รับแจ้งเหตุยิงกันตายบนถนนในหมู่บ้าน หน้าบ้านเลขที่ 49 หมู่ 4 บ้านบาราเฮาะ ต.ปูยุด อ.เมืองปัตตานี จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นคริสตรัล สีดำ หมายเลขทะเบียน ช 9889 ปัตตานี ล้มทับตัวผู้ตายอยู่ ทราบชื่อคือ นายอับดุลรอแม วานิ อายุ 49 ปี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 6 บ้านสูงาฆาลี ต.ปูยุด ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 และ 9 ม.ม. นับสิบนัด เสียชีวิตคาที่
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอับดุลรอแม กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับจากประชุมประจำเดือน ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองปัตตานี และมุ่งหน้าไปรับเงินเดือนกับผู้ใหญ่บ้าน แต่ระหว่างทางถูกคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามไล่ล่า และใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายจากด้านหลัง จนรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำ จากนั้นคนร้ายที่ซ้อนท้ายยังตามลงไปยิงซ้ำที่ศีรษะจนแน่ใจว่าเสียชีวิต ก่อนจะหลบหนีไป เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบหรือเป็นเหตุขัดแย้งส่วนตัว
เอ็ม 79 ถล่มฐานทหารนราธิวาส
ที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ร.ต.ท.นรเศรษฐ์ สุขศรี ร้อยเวร สภ.ระแงะ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ จ.นราธิวาส ได้เดินทางไปตรวจสอบเหตุคนร้ายใช้เครื่องยิงลูกระเบิด เอ็ม 79 ยิงระเบิด 2 ลูกซ้อนถล่มฐานปฏิบัติการชุดพัฒนาสันติที่ 38-12 ตั้งอยู่ภายในโรงเรียนบ้านไอร์ปาเซ หมู่ 8 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 00.45 น. เช้ามืดวันที่ 3 พ.ค. แต่เจ้าหน้าที่ไม่กล้าเดินทางเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุทันที เนื่องจากเกรงกลุ่มคนร้ายจะวางแผนซุ่มโจมตี
ทั้งนี้ ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิด 2 จุด โดยจุดแรกอยู่ที่ถนนหน้าอาคารเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบเศษชิ้นส่วนของปลอกกระสุน เอ็ม 79 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง บริเวณผนังอาคารเรียนชั้น 2 ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย
จุดที่ 2 บริเวณบ่อเลี้ยงปลาหลังกำแพงรั้วของโรงเรียน ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานปฏิบัติการ แต่ไม่มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ และไม่มีส่วนใดของฐานได้รับความเสียหาย
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดยังพบว่า จุดที่คนร้ายซุ่มยิง เอ็ม 79 ใส่ฐานปฏิบัติการ อยู่บริเวณสวนยางพาราห่างจากฐานประมาณ 200 เมตร เนื่องจากมีรอยต้นหญ้าถูกเหยียบย่ำเป็นวงกว้าง และมีก้นบุหรี่ก้นกรองตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
คดียิงนักข่าวยังไม่คืบ-แม่ทัพภาค 4 โทร.ถามเหตุการณ์
ด้านความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนประกบยิง นายอารูมิง ยามา ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น หาดใหญ่ เจอร์นัล และสมาชิกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย เสียชีวิตคาถนนในเขต อ.เมืองยะลา เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 พ.ค. สมาชิกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันยืนไว้อาลัยต่อการเสียชีวิตของนายอารูมิงเป็นเวลา 1 นาที ก่อนเปิดการเสวนาเนื่องในวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ถนนสามเสน กรุงเทพฯ
ส่วนความคืบหน้าทางคดีนั้น ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร อย่างไรก็ดี พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 ได้โทรศัพท์แสดงความเสียใจและโทรศัพท์สอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้
นายวสันต์ อัครเดช บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์หาดใหญ่เจอร์นัล ได้เดินทางไปมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจำนวน 5,000 บาทให้กับ นางยาหารอ หมานเต๊ะ มารดาของนายอารูมิง ที่บ้านของนายอารูมิงในเขตเทศบาลนครยะลา
นายวสันต์ กล่าวว่า การสูญเสียผู้สื่อข่าวในครั้งนี้ เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของสื่อท้องถิ่น เพราะผู้ตายทำงานเพื่อสังคมมาโดยตลอด เชื่อว่าไม่มีใครไม่เสียใจกับการจากไปของผู้สื่อข่าวรายนี้
นางยาหารอ มารดาของนายอารูมิง กล่าวว่า อารูมิงเป็นลูกชายคนเดียว ดูแลและเลี้ยงแม่มาโดยตลอด ทุกวันจะกลับมาช่วยแม่ขนของไปขายตามตลาดนัด หลังจากที่ลูกเสียชีวิต ไม่ทราบว่าชีวิตจะอยู่อย่างไร จึงขอวิงวอนให้ทางราชการมาช่วยเหลือครอบครัวด้วย
-----------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตวจสอบหลักฐานรอบๆ รถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อของ นายรอซาลี ฮามะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งถูกคนร้ายประกบยิงเสียชีวิต
ขอบคุณ : คุณปาเรซ โลหะสัณห์ ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปัตตานี หนังสือพิมพ์คมชัดลึก เอื้อเฟื้อข้อมูลข่าวจาก จ.ปัตตานี