- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- ผบ.ทบ.ล่องใต้สั่งปรับยุทธวิธีรับมือป่วนระลอกใหม่ ปัตตานีวุ่นถอดน็อตเสาไฟฟ้าแรงสูงล้ม 3 จุด
ผบ.ทบ.ล่องใต้สั่งปรับยุทธวิธีรับมือป่วนระลอกใหม่ ปัตตานีวุ่นถอดน็อตเสาไฟฟ้าแรงสูงล้ม 3 จุด
อะหมัด รามันห์สิริวงศ์ / แวดาโอ๊ะ หะไร
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
ผบ.ทบ.ร้อน ควง "ประยุทธ์" ล่องใต้หลังระเบิดถี่ยิบคร่าชีวิตกำลังพลนับสิบตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค. สั่งปรับยุทธวิธีรับมือป่วนระลอกใหม่ ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ยังวุ่นหนัก บึ้มกลางสวนยางพาราที่ธารโตลูกจ้างกรีดยางดับ แฉวางระเบิดซ้ำซากหวังกดดันเจ้าของสวนอพยพ-ขายทิ้ง ขณะที่ยิงรายวันยังเพียบ เหยื่อมีทั้งชาวบ้าน วัยรุ่น อดีตตำรวจ ปัตตานีระทึกถอดน็อตเสาไฟฟ้าแรงสูงล้ม 3 จุด 2 อำเภอ
เมื่อวันอังคารที่ 6 ก.ค.2553 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. และคณะ เดินทางลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อติดตามสถานการณ์ หลังเกิดเหตุรุนแรงถี่ยิบตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค.เป็นต้นมา สร้างความสูญเสียให้กับประชาชนและกำลังพลไปมากกว่า 10 ราย
ทั้งนี้ คณะของ ผบ.ทบ. เดินทางไปที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ภายในค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ. ยะรัง จ.ปัตตานี โดย พล.อ.อนุพงษ์ ได้ไปตรวจเยี่ยมการให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มารอรับบริการที่ศูนย์แพทย์ทหารบกจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายในค่ายสิรินธร โดยมี พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 และผอ.รมน.ภาค 4 พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผู้บัญชาการกองบัญชาการผสมพลเรือนตำรวจทหาร (ผบ.พตท.) รอให้การต้อนรับ
จากนั้น ผบ.ทบ.ยังได้เยี่ยมชมการรักษาผู้ป่วยโรคเหน็บชา อัมพฤกษ์ อัมพาต และเบาหวาน โดยใช้ "เก้าอี้ไฟฟ้าสถิตย์" ซึ่งนำเข้ามาโดยแม่ทัพภาคที่ 4 ในแต่ละวันจะมีผู้มารับบริการกว่า 500 คน โดยผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.2552 จนถึงวันที่ 5 ก.ค.2553 มีประชาชนเข้ารับบริการแล้วจำนวน 122,642 ราย
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า การปฏิบัติงานด้านการพัฒนาพื้นที่นั้น ทางกองทัพได้ดำเนินการหลายด้านด้วยกัน เช่น เรื่องการส่งเสริมอาชีพ การสร้างที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ยากจน ส่วนสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้นั้น ทางกองทัพบกได้สั่งการให้หน่วยกำลังดูแลเข้มเป็นกรณีพิเศษ เพราะสถานการณ์ที่ปรากฏอยู่เป็นการต่อสู้ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่พยายามอาศัยช่องว่างในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ลอบทำร้ายเพื่อก่อให้เกิดความสูญเสีย ดังนั้นจึงได้ประสานเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงมาพูดคุยว่าจะทำอย่างไรให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้มีการปรับเปลี่ยนยุทธวิธีการปฏิบัติงานเพื่อลดความสูญเสีย อย่างไรก็ดี จากสถิติความไม่สงบเมื่อเทียบกับห้วงเวลาที่ผ่านมาพบว่ามีความใกล้เคียงกัน
บึ้มกลางสวนยางที่ธารโต คนงานชาวม้งดับ
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ยังคงเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 08.30 น.วันอังคารที่ 6 ก.ค.2553 พ.ต.อ.เฉลิมเกียรติ อัมรากระสินธุ์ ผู้กำกับการ สภ.ธารโต จ.ยะลา รับแจ้งมีคนงานกรีดยางพาราเหยียบกับระเบิดเสียชีวิตที่บ้านซาไก หมู่ 3 ต.บ้านแหร อ.ธารโต จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ทั้งนี้ จุดเกิดเหตุอยู่บนภูเขาท้ายหมู่บ้านใกล้เขตแดนไทย-มาเลเซีย ห่างจากโรงเรียนบ้านซาไกราว 2-3 กิโลเมตร พบศพ นายจั่ว แซ่ย่าง อายุ 30 ปี เป็นชาวม้ง อาชีพรับจ้างกรีดยางพาราในสวนดังกล่าว สภาพศพขาซ้ายขาด นอนจมกองเลือดอยู่บริเวณแนวต้นยางพารา ใกล้กันพบหลุมระเบิดขนาดกว้าง 1 เมตรคูณ 1.50 เมตร มีสะเก็ดระเบิด เศษถังแก๊ส และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กระจายเกลื่อน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
แฉวางกับระเบิดมาแล้วหลายครั้ง
สอบสวนทราบว่า สวนยางพาราแปลงดังกล่าวเป็นของ นายลิ่ม พงศ์ทอง ส่วนนายจั่วมาอาศัยรับจ้างกรีดยางพารา จากการสอบปากคำเพื่อนคนงานจากสวนข้างเคียงทราบว่า ได้เคยเตือนนายจั่วแล้วให้ระมัดระวังกับระเบิด เพราะที่สวนยางของนายลิ่มเคยเกิดเหตุลักษณะคล้ายๆ กันนี้มาแล้ว 2-3 ครั้ง นายลิ่มเองก็เคยได้รับบาดเจ็บ แต่นายจั่วยังคงนำอุปกรณ์ออกไปกรีดยางตามปกติ กระทั่งได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างกึกก้อง เมื่อพากันไปดูก็พบศพนายจั่วถูกระเบิดจนเสียชีวิต
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบที่ต้องการกดดันให้เจ้าของสวนยางพาราชาวไทยพุทธอพยพออกจากพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุลอบวางระเบิดในสวนยางรอบๆ บริเวณดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง โดยเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ก็เกิดระเบิดในสวนยางพาราท้องที่หมู่ 2 ต.ธารโต ทำให้ นายอานนท์ สกุลทอง อายุ 21 ปี คนงานกรีดยางได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาขวาขาด
รัวอาก้าถล่มสองผัวเมียกลางดึกหน้า ศชต.
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 00.15 น.วันเดียวกัน ร.ต.อ.สมศักดิ์ ราชริวงศ์ ร้อยเวร สภ.เมืองยะลา รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงชาวบ้านได้รับบาดเจ็บบริเวณใกล้สามแยกถนนชมพูจิตตัดกับถนนพระไพศาลประชานาถ ในเขตเทศบาลนครยะลา หน้าศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกอยู่จำนวน 5 ปลอก จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ที่ถูกยิงคือ นายสุเทพ เจริญสุข อายุ 51 ปี และนางบังอร บอนแดง อาย 39 ปี ภรรยา ทั้งคู่อยู่บ้านเลขที่ 241 ถนนเวฬุวัน ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา โดยนายสุเทพถูกยิงเข้าที่ขาขวา 2 นัด ส่วนนางบังอรถูกยิงบริเวณข้อพับขาขวา 1 นัด รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสุเทพได้ขี่รถจักรยนยนต์จากตลาดเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน โดยมีนางบังอรนั่งซ้อนท้าย เมื่อถึงจุดเกิดเหตุมีรถกระบะสีดำไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนจอดซุ่มอยู่ จากนั้นคนร้ายที่ยืนอยู่ข้างรถได้ใช้อาวุธปืนสงครามอาก้ากราดยิงใส่นายสุเทพและนางบังอรจนได้รับบาดเจ็บ แต่นายสุเทพยังแข็งใจขี่รถพาภรรยาไปโรงพยาบาล ส่วนคนร้ายเมื่อก่อเหตุแล้วได้ขับรถหลบหนีไปทาง ต.สะเตง อย่างรวดเร็ว เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ หรือเป็นการล้างแค้นส่วนตัว
ดักยิง 2 วัยรุ่นสาหัสที่กาบัง
ต่อมาเวลา 02.30 น.คืนเดียวกัน ร.ต.ท.สุรกานต์ ต่วนจะโป๊ะ ร้อยเวร สภ.กาบัง จ.ยะลา รับแจ้งเหตุยิงกันที่บ้านแยะใน หมู่ 5 ต.บาละ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ แต่พบเพียงรอยเลือดบริเวณปากทางเข้าหมู่บ้าน ส่วนผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บคือ นายตำมีซี มะมิง อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 207 หมู่ 5 ต.บาละ และนายฮาเล สีละรู อายุ 23 ปี เพื่อนวัยรุ่นหมู่บ้านเดียวกัน มีพลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลกาบังแล้ว ในที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืนลูกซองตกอยู่ 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายตำมีซี กำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับจากไปหาเพื่อนต่างหมู่บ้าน โดยมีนายฮาเลนั่งซ้อนมาด้วย เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนดักซุ่มอยู่ข้างทาง ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงถล่ม กระสุนถูกขาของทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการดักสังหาร แต่ให้น้ำหนักไปที่การล้างแค้นส่วนตัว
ประกบยิงอดีตตำรวจดับคาถนนที่ยี่งอ
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 12.40 น.วันที่ 5 ก.ค.2553 ร.ต.ท.ภุมรัตน์ รินสีมา ร้อยเวร สภ.ยี่งอ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตบนถนนในหมู่บ้านปาลอบาต๊ะ หมู่ 3 ต.ลูโบ๊ะบายะ อ.ยี่งอ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือดอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นคริสตัล สีดำ หมายเลขทะเบียน กกร 573 นราธิวาส และกรงนกกรงหัวจุก ทราบชื่อคือ ร.ต.ต.นิยอ พารัตตะกฤติยาพันธ์ อายุ 61 ปี เป็นข้าราชการบำนาญ อดีตผู้บังคับหมู่งานสืบสวนสอบสวน (ผบ.หมู่ สส.) สภ.ยี่งอ สภาพศพถูกยิงด้วยปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณศีรษะ 1 นัด
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ร.ต.ต.นิยอ ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านตามลำพังเพื่อนำนกกรงหัวจุกไปแข่งขันที่สนามภายในหมู่บ้านบลูกา หมู่ 3 ต.ตะปอเยาะ เมื่อแข่งเสร็จแล้ว ได้ขี่รถจักรยานยนต์ถือกรงนกกรงหัวจุกมุ่งหน้ากลับบ้าน แต่ระหว่างทางมีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ และใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดจ่อยิงที่ศีรษะ จน ร.ต.ต.นิยอ เสียชีวิตคาที่ โดยคนร้ายยังได้ขโมยปืนพกขนาด .357 ของผู้ตายที่เหน็บไว้ที่เอวก่อนหลบหนีด้วย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี
ปัตตานีป่วนลอบถอดน็อตเสาไฟฟ้าแรงสูง 2 อำเภอ
เวลา 01.30 น.วันเดียวกัน พล.ต.ต.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐ์พันธ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (ผบก.ภ.จว.ปัตตานี) รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุภูธรจังหวัดปัตตานีว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบถอดน็อตเสาไฟฟ้าแรงสูงในพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง และ อ.มายอ จ.ปัตตานี จำนวน 3 จุด เป็นเหตุให้เสาไฟฟ้าแรงสูงล้มได้รับความเสียหายหลายต้น หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบพร้อมประสานไปยังเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคให้เข้าไปแก้ไขแล้ว ส่วนความเสียหายยังประเมินมูลค่าไม่ได้
ทหารพรานเหยื่อบึ้มบันนังสตาพลีชีพเพิ่มอีก 1
ด้านความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ของทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4709 กรมทหารพรานที่ 47 ขณะลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยเส้นทางบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 (ยะลา-เบตง) จนทำให้ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) สงคราม ธรรมรงรักษ์ อายุ 29 ปี เสียชีวิต และมี อส.ทพ.ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 3 นาย เหตุเกิดในท้องที่หมู่ที่ 4 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อเย็นวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดเมื่อเช้ามืดวันที่ 5 ก.ค. อส.ทพ.สมปอง เกิดสมบัติ อายุ 29 ปี ชาว อ.ประทิว จ.ชุมพร หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 นาย ส่วน อส.ทพ.สุริยันต์ เกตุขาว อายุ 25 ปี และ อส.ทพ.สบาย มากเหลือ อายุ 25 ปี ยังคงนอนพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู
ส่วนความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.สุวัตต์ วงศ์ไพบูลย์ ผู้กำกับการ สภ.บันนังสตา เปิดเผยว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดครั้งนี้ น่าจะเป็นชุดเดียวกับที่เคยลอบวางระเบิดทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4104 กรมทหารพรานที่ 41 เหตุเกิดที่หน้าโรงเรียนบ้านบาเจาะ หมู่ 2 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จนทำให้มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บสาหัสอีก 2 นาย เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้านั้นกลุ่มก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.บันนังสตา ได้ปล่อยข่าวออกมาว่าจะก่อเหตุรุนแรงหลายรูปแบบเพื่อแก้แค้นให้ นายดอรอแม ดะเก๊ะ อายุ 51 ปี หรือ "อุสตาซแม" ซึ่งสอนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนดำรงวิทยา อ.บันนังสตา และถูกคนร้ายประกบยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยฝ่ายก่อความไม่สงบอ้างว่าเป็นการกระทำของฝ่ายเจ้าหน้าที่
------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ขณะพูดคุยอย่างเป็นกันเองกับพี่น้องประชาชนที่มารอรับบริการทางการแพทย์ภายในค่ายสิรินธร
ขอบคุณ : คุณปาเรซ โลหะสัณห์ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์คมชัดลึกประจำ จ.ปัตตานี เอื้อเฟื้อข่าวจาก จ.ปัตตานี