- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- นายกฯพบปม“ตอกลิ่ม”ก่อความรุนแรงตอบโต้ไปมา ตำรวจบุกค้นอัยเยอร์เวง ยึดระเบิดใช้บึ้มธารโต
นายกฯพบปม“ตอกลิ่ม”ก่อความรุนแรงตอบโต้ไปมา ตำรวจบุกค้นอัยเยอร์เวง ยึดระเบิดใช้บึ้มธารโต
ทีมข่าวอิศรา
โต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา
ใต้ระอุต่อเนื่อง นายกฯเผยพบปมก่อความรุนแรงตอบโต้กัน โดยมีกลุ่มคนตอกลิ่มความขัดแย้ง เตรียมนัดถกหน่วยงานความมั่นคง “ชำระสะสาง” หลายเหตุการณ์ที่เป็นปัญหา ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ยังวุ่น ทหารเปิดฉากปะทะกองกำลังติดอาวุธที่รือเสาะ ยึดของกลางเพียบ ส่วนที่สุไหงปาดีดักบึ่มรถกำลังพลเจ็บเล็กน้อย 5 นาย ประกบยิง อส.ดับคาถนนที่รามัน เอ็กซเรย์อัยเยอร์เวง เจอระเบิดของกลางใช้บึ้มธารโต ตามรวบ 2 ผู้ต้องสงสัยยิงครูที่ยะหริ่ง
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา น่าสังเกตว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้หลายครั้ง ซึ่งอาจเป็นเพราะตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา มีเหตุรุนแรงขนาดใหญ่เกิดขึ้นหลายครั้ง และยังมีกระแสข่าวเกี่ยวกับการประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียวของขบวนการปลดปล่อยมลายูปัตตานี หรือพีเอ็มแอลเอ็ม เป็นเวลา 1 เดือนเพื่อนำร่องเปิดเจรจากับรัฐบาล แต่สถานการณ์จริงในพื้นที่กลับยังไม่ดีขึ้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวเมื่อวันอังคารที่ 20 ก.ค.ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ได้รวบรวมประเด็นที่จะปรับวิธีการทำงาน ซึ่งมีหลายประเด็นที่แต่ละฝ่ายเสนอมา และกำลังจะนัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเร็ววันนี้ โดยจะให้ นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นผู้นัดหมาย
ทั้งนี้ การทำงานที่จะต้องมีการปรับคือ แนวการปฏิบัติ พยานหลักฐาน ข้อกฎหมาย และเหตุการณ์บางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหลายช่วงที่ผ่านมาซึ่งต้องชำระสะสางกัน ยอมรับว่าเหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่เปลี่ยนแปลงไป เท่าที่มีการติดตามอยู่พบว่าหลายพื้นที่ลักษณะของความรุนแรงเป็นลักษณะของการตอบโต้กันมากขึ้น ซึ่งมีประเด็นที่ต้องวิเคราะห์และตามต่ออีกเยอะ
“ลักษณะของการตอบโต้กันมากขึ้นนั้น ความหมายก็คือมีเรื่องที่ทำให้เกิดความขัดแย้งกันจะโดยฝ่ายใดก็ตามเข้าไปทำให้เกิดสภาพเช่นนั้น และทำให้มีการตอบโต้ด้วยความรุนแรงไปมา” นายกฯ ระบุ
ทหารปะทะกองกำลังติดอาวุธที่รือเสาะ
สำหรับสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้ย้อนกลับไปถึงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงเกิดความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 07.50 น.วันจันทร์ที่ 26 ก.ค. 2553 พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 46 จ.นราธิวาส สั่งการให้ พ.ต.วิจิตร คงนุ่น ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 4603 กรมทหารพรานที่ 46 สนธิกำลังกับทหารหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 รับผิดชอบ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ออกลาดตระเวนพิสูจน์ทราบพื้นที่สวนยางพาราบนเทือกเขาบ้านตันหยง หมู่ 5 ต.บาตง อ.รือเสาะ หลังจากสืบทราบว่ามีกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค (กลุ่มวัยรุ่นและชายฉกรรจ์ที่ผ่านการฝึกรบแบบจรยุทธ์) กลุ่มนายไซมิง มะหลี จำนวน 6-7 คน เข้ามากบดานเพื่อวางแผนก่อเหตุร้ายในพื้นที่ อ.รือเสาะและอำเภอใกล้เคียง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าขึ้นเทือกเขาหลังหมู่บ้านระยะทางเกือบ 1 กิโลเมตร จึงพบบ้านร้างหลังหนึ่ง มีชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งยืนคุมเชิงอยู่ด้านหน้าและชายป่ายางพารา เมื่อกลุ่มชายฉกรรจ์มองเห็นเจ้าหน้าที่ ได้ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และอาก้ายิงใส่ทันที ทำให้ทั้งสองฝ่ายเปิดฉากยิงปะทะกันเป็นระลอกๆ นานกว่า 10 นาที ฝ่ายกองกำลังติดอาวุธเห็นจวนตัว จึงอาศัยความชำนาญพื้นที่ล่าถอยไป
เมื่อเสียงปืนสงบลง เจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ พบว่าภายในบ้านร้างมีกระเป๋าเป้แบบสะพายสีดำของกลุ่มติดอาวุธตกอยู่ 1 ใบ จึงได้เปิดออกดู พบอาวุธและอุปกรณ์ดำรงชีพในป่าหลายรายการ อาทิ ปืนพกสั้นขนาด .38 พร้อมกระสุน จำนวน 1 กระบอก โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง มีดสปาต้าและมีดปอกผลไม้ 2 เล่ม ไฟฉาย ผ้าใบยาง เปลสนาม กรรไกร และยารักษาโรค
ต่อมา พ.อ.ไพศาล พร้อมด้วย พ.ต.ท.พชร ณ นคร รองผู้กำกับการ สภ.รือเสาะ และเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ได้เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง พบรอยเลือดคาดว่าเป็นของกองกำลังติดอาวุธหยดเป็นทาง จึงประสานไปยังหมวดสุนัขทหาร กองทัพภาคที่ 4 เพื่อขอสนับสนุนสุนัขสงครามดมกลิ่น เพื่อแกะรอยกลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งคาดว่าจะถูกปืนของเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ
ดักบึ้มรถทหารที่สุไหงปาดี เจ็บเล็กน้อย 5 นาย
เวลา 11.45 น.วันเดียวกัน ร.ต.ท.เด่นพงษ์ เต็มยอด ร้อยเวร สภ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดพัฒนาสันติที่ 31-4 กรมทหารพรานที่ 45 บนถนนในหมู่บ้านดอเฮะ หมู่ 3 ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะของเจ้าหน้าที่จอดเสียหลักอยู่ริมถนนในสภาพกระจกหน้า ไฟหน้า ตัวถังและฝากระโปรงรถถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหาย ห่างกันประมาณ 5 เมตร พบหลุมระเบิดลึก 1 ฟุต กว้าง 3 ฟุต มีเศษซากชิ้นส่วนระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก หนักประมาณ 15 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ กระจายเกลื่อน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมี 5 นาย ประกอบด้วย ส.ท.มงคล พรมปลอด หัวหน้าชุด อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ธีระวัฒน์ สุขวรรณะ พลขับ อส.ทพ.สมนึก แก้วศรีอ่อน อส.ทพ.เอกวิช แก้ววิหค และอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ซอบอรี สารีกะ อส.ประจำที่ว่าการอำเภอสุไหงปาดี เพื่อนทหารได้ทยอยนำตัวไปปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ฐานปฏิบัติการแล้ว โดยส่วนใหญ่อาการไม่สาหัส เพียงแค่แน่นหน้าอกและหูอื้อจากแรงอัดของระเบิดเท่านั้น
จากการสอบสวน ส.ท.มงคล หัวหน้าชุดทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้นำรถกระบะออกจากฐาน พร้อมพลขับ เพื่อตระเวนรับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) โรงเรียนบ้านดอเฮะ อีก 3 นายกลับฐาน ขณะนั่งรถผ่านจุดเกิดเหตุ มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ใช้โทรศัพท์มือถือกดจุดชนวนระเบิดที่นำไปซุกไว้ในตะกร้าพลาสติกใส่ผลไม้วางอยู่ริมถนนจนเกิดระเบิดขึ้น โชคดีที่ทิศทางการระเบิดหักเหไปทางป่ายางพารา ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ประกบยิง อส.รามันดับคาถนน
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ก.ค.2553 เวลา 20.30 น. พ.ต.อ.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้กำกับการ สภ.รามัน จ.ยะลา รับแจ้งเหตุยิงกันบนถนนสายรามัน–ท่าธง เขตรอยต่อบ้านบูเกะซืองอ หมู่ 5 ต.อาซ่อง กับบ้านปายอยือนิ หมู่ 6 ต.กายูบอเกาะ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบศพ นายมะหามะรอซากี ศรีสมอ่อน อายุ 34 ปี เป็น อส.ประจำที่ว่าการอำเภอรามัน ประจำฐานปฏิบัติการร่วมชุดพัฒนาสันติ กรมทหารพรานที่ 41 โรงเรียนบ้านสะโต หมู่ 5 ต.อาซ่อง อ.รามัน สภาพศพถูกยิงที่ศีรษะและลำตัว เสียชีวิตคาที่ โดยในมือยังกำปืนปกสั้นขนาด .357 เอาไว้ ใกล้ๆ กันมีรถจักรยานยนต์คาดว่าเป็นของผู้ตายล้มคว่ำอยู่ 1 คัน
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายมะหามะรอซากีขี่รถจักรยานยนต์ออกจากที่ว่าการอำเภอรามัน เพื่อเดินทางกลับไปเข้าเวรรักษาความปลอดภัยภายในหมู่บ้านสะโต หมู่ 5 ต.อาซ่อง ระหว่างทางมีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ และใช้ปืนพกสั้นขนาด 11 มม.จ่อยิงจนเสียชีวิต เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
กระสุนปริศนาเจาะคอพ่อค้าทุเรียนจากบันนังสตาสาหัส
ช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน พ.ต.อ.ปิยวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้กำกับการ สภ.เมืองยะลา รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ บริเวณตลาดเกษตร ริมถนนสาย 15 หมู่ 5 ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ผู้บาดเจ็บคือ นายจิดือเร๊ะ หะยีมามะ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 3 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา มีอาชีพเป็นพ่อค้าขายทุเรียน ถูกกระสุนปริศนาขนาด .22 เข้าที่บริเวณลำคอ 1 นัด อาการสาหัส พลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลาแล้ว เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุและที่มาของกระสุนปริศนา
ค้นป่าอัยเยอร์เวง พบระเบิดเพียบใช้บึ้มธารโต
เมื่อวันศุกร์ที่ 23 ก.ค.2553 พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา (รองผบก.ภ.จว.ยะลา) นำชุดปฏิบัติการพิเศษออกติดตามแกะรอยกลุ่มคนร้ายที่ลอบวางระเบิดถี่ยิบในพื้นที่ อ.ธารโต จ.ยะลา และได้เข้าปิดล้อมพื้นที่ป่ายางพารารอบภูเขา ท้องที่หมู่ 1 บ้าน กม.28 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา เนื่องจากสืบทราบว่ากลุ่มคนร้ายนำระเบิดและอาวุธปืนไปซุกซ่อนในพื้นที่ดังกล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าเข้าไปในหุบเขา ระยะทาง 2 กิโลเมตร จึงพบขนำ (กระท่อม) ต้องสงสัย 1 หลัง จึงให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ พบระเบิดชนิดแสวงเครื่องเป็นก้อน น้ำหนักก้อนละประมาณ 300 กรัม จำนวน 10 ลูก สภาพพร้อมใช้งาน ซุกซ่อนอยู่ในดินใต้ขนำดังกล่าว นอกจากนั้นยังมีเชื้อปะทุระเบิดชนิดกระตุกจำนวน 10 ดอก ซึ่งเป็นระเบิดชนิดเดียวกันกับที่ใช้เป็นกับระเบิดในสวนยางพาราในพื้นที่ อ.ธารโต 5-6 ครั้งในช่วง 2 เดือนเศษที่ผ่านมา
ห่างจากขนำไปทางด้านหลังประมาณ 20 เมตร เจ้าหน้าที่พบกระสอบซ่อนอยู่จำนวน 2 กระสอบ เมื่อเปิดออกดูก็พบอาวุธปืนเอ็ม 16 เอ 1 จำนวน 1 กระบอก และปืนกลเล็กเอ็มโฟว์ จำนวน 1 กระบอก พร้อมแมกกาซีนของปืนทั้ง 2 ชนิด กระสุนเต็มแม็ก จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร กล่าวว่า ระเบิดที่ขุดพบครั้งนี้เป็นระเบิดชนิดที่คนร้ายนำมาทำเป็นระเบิดแบบเหยียบ และนำไปก่อเหตุในพื้นที่ อ.ธารโต หลายครั้งในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา โดยกลุ่มคนร้ายเป็นกลุ่มเดียวกับ นายถวัลย์ศักดิ์ แปแนะ ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ ทั้งยังเชื่อมโยงกกับ นายไฟศอล หะยีสะมะแอ ผู้ต้องหาคดีลอบวางระเบิดท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อหลายปีก่อนด้วย
รวบ 2 ผู้ต้องสงสัยยิงครูที่ยะหริ่ง
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 ก.ค.2553 พ.ท.ทัศน์พล สุพีสุนทร ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 22 ได้สนธิกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เข้าปิดล้อมตรวจค้น 2 จุดในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี หลังได้รับรายงานจากหน่วยข่าวว่า ผู้ต้องสงสัยในคดีลอบยิง นายพิชัย เสือแสง อายุ 55 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนดุซงปาแย อ.ยะหริ่ง เมื่อเย็นวันพุธที่ 21 ก.ค. ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ
จุดแรก ที่บ้านเลขที่ 41/1 หมู่ 4 ต.ตันหยงดาลอ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย คือ นายมะกอรี หามะ อายุ 26 ปี ส่วนจุดที่ 2 ที่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 1 ต.ตันหยงจืองา ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้อีก 1 ราย คือ นายมาหามะ แมะหะ อายุ 32 ปี และจากการตรวจค้นบ้านทั้งสองหลัง เจ้าหน้าที่ได้เก็บวัตถุพยานทั้งเสื้อผ้าและเอกสารจำนวนหนึ่งไปตรวจสอบ ก่อนจะนำตัวทั้งคู่ไปสอบสวนขยายผลที่หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี
สำหรับคดีลอบยิงครูพิชัย ล่าสุดคดีคืบหน้าไปมาก เนื่องจากมีพยานเข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ทั้งผู้ก่อเหตุและผู้ร่วมก่อเหตุซึ่งมีทั้งมือปืนและคนชี้เป้า ส่วนปลอกกระสุนที่คนร้ายใช้ยิงนั้น ได้ส่งตรวจพิสูจน์ที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.ปัตตานี แล้ว
---------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : ข่าวตรวจค้นพื้นที่ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา จากสำนักข่าวเนชั่น และข่าวปัตตานีจาก คุณปาเรซ โลหะสัณห์ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์คมชัดลึกประจำจังหวัดปัตตานี
บรรยายภาพ :
1-4 พุทธศาสนิกชนพร้อมใจกันเวียนเทียนเนื่องในวันอาสาฬหบูชาตั้งแต่ช่วงก่อนค่ำ ที่วัดเมืองยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)
อ่านประกอบ :
-ผ่า 2 ปมบึ้มถี่ที่ธารโต...ฮุบสวนยาง-เล่นงาน จนท.ซ้ำ
-ใต้ระอุยิง ผอ.โรงเรียนในยะหริ่งเสียชีวิต เผยย่าง 7 ปีครูสังเวย 131 ศพ!