- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- ตร.คาดปม "แก้แค้น-ชิงสวนปาล์ม" ชนวนฆ่าหมู่ไทยพุทธ 4 ศพที่บาเจาะ
ตร.คาดปม "แก้แค้น-ชิงสวนปาล์ม" ชนวนฆ่าหมู่ไทยพุทธ 4 ศพที่บาเจาะ
ตำรวจสันนิษฐานปม "แก้แค้น-ชิงสวนปาล์ม" ชนวนเหตุสังหารหมู่ไทยพุทธ 4 ศพที่บาเจาะ คาดเป็นการกระทำของสมุนกลุ่ม "นายวาเหะ กะดิง" ที่เพิ่งถูกวิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิตพร้อมพวก "อิศรา" ย้อนนาทีโหดใช้เอ็ม 16 จ่อยิงทีละศพ ก่อนจุดไฟเผาบ้าน 3 หลังวอด เผยเป็นไทยพุทธครอบครัวสุดท้ายในหมู่บ้านฮูแตยือลอ ฝ่ายตุลาการเครียด เหตุผู้เสียชีวิตเป็นครอบครัวของเจ้าหน้าที่ศาล สรุปเหตุร้ายรอบสัปดาห์ ทั้งบึ้มทั้งยิงเพียบ ตายเจ็บระนาว
ตำรวจได้เบาะแสคนร้ายจำนวนนับสิบคนที่ก่อเหตุใช้อาวุธสงครามเอ็ม 16 บุกยิงชาวไทยพุทธเสียชีวิตรวม 4 ราย ทั้งยังจุดไฟเผาบ้านจนวอดอีก 3 หลังแล้ว โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกคืนวันเสาร์ที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ในท้องที่บ้านฮูแตยือลอ หมู่ 6 ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และทั้งหมดเป็นไทยพุทธครอบครัวสุดท้ายในหมู่บ้านดังกล่าว
ล่าสุดเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 20 ก.ย. พ.ต.อ.จำลอง งามเนตร ผู้กำกับการ สภ.บาเจาะ ได้เรียกประชุมนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการคลี่คลายคดี ก่อนจะเปิดเผยว่า ผลจากการสอบปากคำพยานหลายปาก สรุปได้ว่าคดีนี้เป็นการกระทำของคนร้ายในกลุ่มของ นายวาเหะ กะดิง แกนนำอาร์เคเค (กลุ่มติดอาวุธขนาดเล็กที่ผ่านการฝึกรบแบบจรยุทธ์)
ส่วนเป้าหมายในการก่อเหตุนั้นแยกได้เป็น 2 ประเด็นคือ 1.กลุ่มแนวร่วมซึ่งเป็นสมุนของนายวาเหะที่ยังเหลืออยู่ กลับมาแก้แค้นเพื่อตอบโต้เจ้าหน้าที่กรณีได้ร่วมกันวิสามัญฆาตรกรรมนายวาเหะ และนายบัคซอรี อารอบีรือเสาะ เสียชีวิตทั้งคู่ในหมู่บ้านฮูแตยือลอ เมื่อไม่นานมานี้ และ 2.เพื่อหวังผลขับไล่นายชื่นและเครือญาติออกจากหมู่บ้านเพื่อยึดที่ดินทำกิน เนื่องจากนายชื่นและเครือญาติที่เสียชีวิตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้มานานกว่า 50 ปีแล้ว และมีที่ดินปลูกสวนปาล์มมากกว่า 40 ไร่
ขณะที่ พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) กล่าวว่า ได้นำปลอกกระสุนที่คนร้ายใช้ยิงไปตรวจพิสูจน์ และนำตัวพยานที่เห็นเหตุการณ์ไปสเก็ตช์ภาพคนร้ายแล้ว คาดว่าจะสามารถขออนุมัติออกหมายจับได้เร็วๆ นี้
สำหรับ นายวาเหะ กะดิง นั้น ข้อมูลจากแฟ้มประวัติของตำรวจระบุว่า เป็นแกนนำระดับสั่งการของกลุ่มอาร์เคเคที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.บาเจาะ มีหมายจับของทางการในคดีต่างๆ มากถึง 8 หมาย
ตุลาการเครียดเหตุผู้ตายเป็นครอบครัว จนท.ศาล
มีรายงานด้วยว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายเป็นครอบครัวของเจ้าหน้าที่ศาลรายหนึ่งซึ่งปฏิบัติงานอยู่ที่ศาลจังหวัดแห่งหนึ่งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้ นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกา สั่งการให้สำนักงานศาลยุติธรรมรวบรวมข้อมูลเพื่อแจ้งเวียนให้ทราบทั่วกัน พร้อมมอบหมายให้ นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ลงพื้นที่ภายในสัปดาห์นี้เพื่อร่วมพิธีศพ และแสดงความห่วงใยเจ้าหน้าที่ศาลที่ครอบครัวประสบเหตุดังกล่าวด้วย
นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า ได้ทำหนังสือเวียนพร้อมทั้งส่งข้อความสั้น (เอสเอ็มเอส) ถึงศาลทั่วประเทศ เพื่อเชิญชวนให้ผู้พิพากษาและข้าราชการร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือครอบครัวเจ้าหน้าที่ศาลอีกทางหนึ่ง และหากเจ้าหน้าที่รายนี้จะขอย้ายออกจากพื้นที่ ทางศาลก็จะรับพิจารณาให้
ย้อนนาทีโหดจ่อยิงไทยพุทธ 4 ศพเผาบ้านซ้ำ
เหตุการณ์สังหารโหดครอบครัวชาวไทยพุทธรวม 4 ราย เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกคืนวันเสาร์ที่ 18 ก.ย. ท้องที่บ้านฮูแตลือยอ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และกองพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าไปตรวจที่เกิดเหตุในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 19 ก.ย. และก็ต้องพบภาพอันน่าสลด โดยที่บ้านหลังแรกซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวยังสร้างยังไม่เสร็จ บริเวณมุมห้องติดกับประตูบ้าน พบศพ นายชื่น คงเพชร อายุ 83 ปี ในสภาพถูกจ่อยิงด้วยอาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 ที่ศีรษะ ลักษณะของศพคล้ายกับผู้ตายกำลังก้มลงกราบขอชีวิต และยังมีสุนัขนั่งเฝ้าอยู่ข้างศพ 1 ตัว ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด และมีปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่ 2 ปลอก
ห่างกันประมาณ 100 เมตร เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวถูกเผาวอดทั้งหลัง พบผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายเจริญศิลป์ บุญทอง อายุ 47 ปี และนางสมศรี บุญทอง อายุ 58 ปี โดยนางสมศรีเป็นลูกสาวของนายชื่น ขณะที่นายเจริญศิลป์เป็นบุตรเขย ทั้งคู่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 ในลักษณะจ่อยิงที่ศีรษะคล้ายกำลังยกมือไหว้ขอชีวิตเช่นกัน
จุดที่ 3 เป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้ ถูกคนร้ายเผาวอดไม่ต่างจากหลังที่ 2 พบศพ นางห้อง คงเพชร อายุ 76 ปี ภรรยาของนายชื่น และมารดาของนางสมศรี สภาพศพถูกจ่อยิงที่ศีรษะลักษณะเหมือนกับอีก 3 ศพก่อนหน้า
สอบปากคำชาวบ้านในละแวกดังกล่าวทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.10 น.คืนวันเสาร์ที่ 18 ก.ย. คนร้ายประมาณ 10 คน แต่งกายเลียนแบบทหาร ขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์เข้าไปในหมู่บ้าน โดยแบ่งออกเป็น 4 ชุด เฝ้าดูต้นทางบนถนน 1 ชุด และอีก 3 ชุดกระจายกันบุกยิงชาวบ้านไทยพุทธพร้อมกันทั้ง 3 หลัง ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะ และเห็นไฟลุกท่วมบ้านของผู้ตายทั้ง 4 คน แต่ไม่มีใครกล้าออกไปดูเนื่องจากหวาดกลัว ประกอบกับฝนตกหนักและมืดมาก ทั้งนี้ คนร้ายใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 10 นาที จากนั้นจึงได้ยิงเสียงรถของคนร้ายขับออกไป
ลูกชายผู้ตายเผยเป็นไทยพุทธชุดสุดท้าย
ด้าน นายเจียม คงเพชร ลูกชายของนายชื่น กล่าวว่า ศพทั้ง 4 ศพเป็นบิดา มารดา พี่สาว และพี่เขย จะนำไปตั้งสวดบำเพ็ญกุศลที่วัดบางนรา รู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งต้องสูญเสียคนในครอบครัวพร้อมกันถึง 4 คน
"ตอนนี้ผมหวาดกลัวมาก ไม่กล้าอยู่ที่บ้านอีก จะขอย้ายไปอยู่ที่อื่น และจะไม่กลับมาอีก ไม่กล้าเอาชีวิตมาทิ้งให้เขาฆ่าเล่นแบบนี้ ครอบครัวของผมเป็นครอบครัวชาวบ้านไทยพุทธชุดสุดท้ายที่อยู่ในหมู่บ้านฮูแตยือลอ ซึ่งมีเพียง 3 หลังเท่านั้นที่ยังรักบ้านเกิดและยอมทนอยู่มานานมากกว่าคนอื่นที่เขาอพยพกันไปหมดแล้ว หลังเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ หมู่บ้านนี้ก็จะไม่มีชาวไทยพุทธเหลือเลย ผมก็ไม่กล้าอยู่เหมือนกัน" นายเจียม กล่าว
ผู้ว่าฯนราธิวาสกราบขอโทษประชาชน
นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า เหตุการณ์สังหารหมู่ 4 ศพถือเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายและสะเทือนใจเป็นอย่างมาก ล่าสุดได้สั่งการให้นายอำเภอบาเจาะเร่งลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจและให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนอย่างเร่งด่วนแล้ว และหลังจากนี้จะได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยให้ชาวบ้าน โดยเฉพาะทหารและตำรวจในพื้นที่ ซึ่งอาจจะต้องทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยกันใหม่
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในฐานะเป็นผู้ว่าฯต้องกราบขอโทษพี่น้องทุกคนที่ไม่สามารถดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ และขณะเดียวกันนับเป็นการทำงานที่ถือว่าบกพร่อง จำเป็นต้องทบทวนแผนการทำงานใหม่เพื่อให้มีความรัดกุมยิ่งขึ้น ที่สำคัญต้องไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับชุมชนอื่นๆ อีกโดยเด็ดขาด" นายธนน ระบุ
ยะรังเดือดยิง 5 รายรวด ดับ 2 เจ็บ 3
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากเมื่อวันจันทร์ที่ 20 ก.ย. พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจยะลา 11 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ หัวหน้าชุดสืบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) นำกำลังทหาร ตำรวจเข้าปิดล้อมบ้านเลขที่ 50/53 หมู่ 3 ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา หลังสืบทราบว่า นายซาอุดี มะตารี อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ หลบซ่อนตัวอยู่ ผลการปิดล้อมสามารถจับกุม นายซาอุดี ได้โดยละม่อม
เวลา 22.30 น.คืนวันอาทิตย์ที่ 19 ก.ย. คนร้ายไม่ทราบจำนวน มีรถยนต์เก๋งเป็นพาหนะ ขับไปจอดที่หน้าบ้านเลขที่ 1/4 บ้านสุงาบารู หมู่ 4 ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ขณะที่ นายอับดุลเลาะ บาโฮะ อายุ 34 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 กำลังนั่งคุยกับพี่ชายและเพื่อนๆ รวม 3 คนอยู่ จากนั้นคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามไม่ทราบชนิดยิงเข้าใส่ ทำให้ นายอับดุลเลาะ เสียชีวิต ส่วนนายมะ บาโฮะ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นพี่ชาย กับเพื่อนอีก 2 ราย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปว่าเป็นเหตุล้างแค้นส่วนตัวหรือเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ก่อนหน้านั้น เวลา 07.30 น. ในพื้นที่บ้านสุงาบารู อ.ยะรัง เช่นกัน คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธสงครามยิงใส่ นายดุลเลาะ สาและ อายุ 31 ปี สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) คลองใหม่ เสียชีวิตขณะกรีดยางอยู่ในสวนยางพารา เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปว่าเป็นเหตุขัดแย้งเรื่องการเมืองท้องถิ่น หรือเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง
ล้อมภูเขาหลังค่ายอิงคยุทธฯล่าผู้ต้องสงสัยโดดรถหนี
วันเสาร์ที่ 18 ก.ย. เจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมด้วยกองกำลังภาคประชาชนท้องที่หมู่ 7 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี สนธิกำลังกันเข้าปิดล้อมภูเขาบริเวณป่ายางพาราด้านหลังค่ายอิงคยุทธบริหาร เพื่อตามหา นายอับดุลมานะ ลาเต๊ะ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง ที่ได้กระโดดรถยนต์หลบหนีขณะเจ้าหน้าที่คุมตัวออกจากศูนย์ซักถามภายในค่ายอิงคยุทธบริหารเพื่อไปสอบปากคำเพิ่มเติม โดยนายอับดุลมานะถูกควบคุมตัวมาจาก จ.นราธิวาส
เวลา 09.20 น.วันเดียวกัน คนร้าย 2 คนดักซุ่มอยู่ในสวนยางพารา ท้องที่หมู่ 2 บ้านกาวะ ต.กาวะ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส และใช้อาวุธปืนพกขนาด 11 มม. ยิงใส่ นายสายัณห์ คำร่วง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135/6 หมู่ 5 ต.กาวะ เสียชีวิตคาสวนขณะกำลังกรีดยาง เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุของการสังหารโหด
ยิงชาวบ้าน-ดักบึ้มทหารหลัก ทหารพรานเจ็บระนาว
คืนวันศุกร์ที่ 17 ก.ย. คนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่หน้าบ้านเลขที่ 124 หมู่ 1 ต.หน้าถ้ำ อ.เมือง จ.ยะลา ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่ นายมะดารี บาโง อายุ 40 ปี เจ้าของบ้าน ขณะกำลังเดินขึ้นบันไดบ้านจนเสียชีวิตคาที่ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปว่าเป็นเหตุขัดแย้งส่วนตัว หรือเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เวลา 06.30 น.วันที่ 17 ก.ย. คนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 บริเวณปากทางเข้าฐานปฏิบัติการริมถนนเพชรเกษม ท้องที่บ้านส้มป่อย หมู่ 4 ต.กาเยาะมาตี อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส แรงระเบิดทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บไม่สาหัส 2 นาย คือ พลทหารพรชัย เนื่องจำนงค์ อายุ 22 ปี และ พลทหารเพชร ลุนสำโรง อายุ 23 ปี เหตุเกิดขณะทั้งคู่ขนขยะจากภายในฐานไปทิ้งในถังขยะของเทศบาลซึ่งตั้งอยู่ปากทางเข้าฐาน
วันเดียวกัน คนร้ายจุดชนวนระเบิดที่ฝังไว้ใต้ผิวถนนในหมู่บ้านเมาะสะวา ซึ่งเป็นบ้านย่อยของบ้านบือแจง หมู่ 4 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพื่อดักสังหารทหารพรานสังกัดกรมทหารพรานที่ 45 ขณะเดินทางโดยรถกระบะกลับจากภารกิจส่งกำลังบำรุงให้กับทหารพรานกองร้อยป่าภูเขาที่นำกำลังเข้าปิดล้อมเทือกเขาตะเว มุ่งหน้ากลับฐานในท้องที่ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส แรงระเบิดทำให้รถกระบะของทหารพรานเสียหายเล็กน้อย แต่ไม่มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ
ประกบยิงสามีภรรยาเจ้าหน้าที่ ม.อ.ปัตตานี สาหัส
เช้าวันพฤหัสบดีที่ 16 ก.ย. ขณะที่ นายสถาพร ปี่แก้ว อายุ 38 ปี และนางศิรินารถ ปี่แก้ว อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน และเป็นเจ้าหน้าที่กองอาคาร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.ปัตตานี) กำลังขี่รถจักรยานยนต์ออกบ้านที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี มุ่งหน้าไปทำงานที่มหาวิทยาลัยนั้น เมื่อรถแล่นถึงหมู่ 2 ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี มีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ และใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงใส่ทั้งคู่จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
เช้าวันอังคารที่ 14 ก.ย. น.ท.นฤมิตร ศุขสมิติ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 พร้อมด้วย พ.ต.อ.จำลอง งามเนตร ผู้กำกับการ สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส นำกำลังตำรวจ ทหาร เข้าตรวจค้นพื้นที่ป่าบริเวณหลังหมู่บ้านตะโล๊ะแมเนาะ หมู่ 1 ต.ลูโบะสาวอ อ.บาเจาะ พบถังพลาสติกทรงกลมขนาด 200 ลิตรฝังอยู่ใต้ดิน 2 ใบ เมื่อขุดขึ้นมาพบอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่ถูกปล้นไปจากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2547 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งอุปกรณ์ผลิตระเบิดแสวงเครื่อง และเวชภัณฑ์ เบื้องต้นคาดว่าของกลางที่ขุดพบทั้งหมดเป็นของขบวนการก่อความไม่สงบกลุ่มของ นายมะรอโซ จันทรวดี แกนนำอาร์เคเคที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.บาเจาะ
เวลา 12.30 น.วันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่ นายมะอาลาวี สะอุ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 ถนนปอฮอกือปัส หมู่ 2 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เหตุเกิดขณะ นายมะอาลาวี ขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนสายโกตาบารู- รามัน บ้านพงจือนือเระ หมู่ 3 ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน จ.ยะลา ทำให้นายมะอาลาวีเสียชีวิตคาที่ เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ
---------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจจุดเกิดเหตุคนร้ายไม่ต่ำกว่า 10 คน บุกสังหารชาวไทยพุทธ 4 รายและเผาบ้านอีก 3 หลัง ในพื้นที่บ้านฮูแตยือลอ หมู่ 6 ต.บาเร๊ะใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา
ขอบคุณ :
- คุณปาเรซ โลหะสัณห์ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดปัตตานี เอื้อเฟื้อข่าวจากปัตตานี
- ภาพประกอบจากศูนย์ภาพเนชั่น