- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- ปัตตานีเหตุร้ายอื้อ 5 วันยิง 6 ศพ บึ้มทหารเจ็บ 5
ปัตตานีเหตุร้ายอื้อ 5 วันยิง 6 ศพ บึ้มทหารเจ็บ 5
ปัตตานีป่วนหนัก 5 วันยิง 6 ศพ ทั้งสมาชิก อบต. สายข่าว โต๊ะอิหม่าม และพนักงานส่งสินค้า แถมดักบึ้มทหารที่ยะรังบาดเจ็บอีก 5 นาย กำลังผสมนราธิวาสปิดล้อมตรวจค้นบ้านต้องสงสัยที่รือเสาะ ปะทะเดือดยึดเอ็ม 16 ได้ 2 กระบอก ด้าน "อนุพงษ์" ล่องใต้อำลาชีวิตราชการ กางสถิติยันสถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้น ขณะที่จุฬาราชมนตรีเยือนนราธิวาส วอนทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจสร้างสันติสุขร่มเย็น
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่แล้วจนถึงต้นสัปดาห์นี้ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นบ้างประปราย โดยล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น.วันจันทร์ที่ 27 ก.ย.2553 พ.ต.อ.ชัชชัย วงศ์สุนะ ผู้กำกับการ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุยิงกันบนถนนสายชนบท ในท้องที่บ้านเปี๊ยะ หมู่ 1 ต.ดาโต๊ะ อ.หนองจิก จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบศพ นายฮามาน ดือราแม อายุ 36 ปี เป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) คลองใหม่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดเข้าที่ลำตัว 2 นัด ใกล้ๆ กันพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน ขคพ 933 นราธิวาส ล้มคว่ำอยู่
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายกำลังขี่รถจักรยานยนต์เดินทางกลับบ้านที่ อ.ยะรัง ระหว่างทางถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ และใช้อาวุธปืนพกยิงใส่จนเสียชีวิต เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปว่าสาเหตุการสังหารมาจากความขัดแย้งเรื่องการเมืองท้องถิ่นหรือเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ดับสายข่าวหน่วยงานความมั่นคง
เวลา 18.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.ตานิตย์ รามดิษฐ์ ผู้กำกับการ สภ.มายอ จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุยิงกันบนถนนในหมู่บ้าน บ้านบูเกะกุง หมู่ 7 ต.ลุโบะยีไร อ.มายอ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบกองเลือดขนาดใหญ่และรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำอยู่ 1 คัน ส่วนผู้ถูกยิงทราบชื่อคือ นายบือราเฮง อับดุลเลาะ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/4 บ้านน้ำใส หมู่ 5 ต.ลูโบะยีไร อ.มายอ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกเข้าที่ศีรษะ มีพลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลทุ่งยางแดงแล้ว แต่นายบือราเฮงทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตระหว่างทาง
สอบสวนทราบว่า ขณะที่ นายบือราเฮง กำลังขี่รถกลับจากทำนามุ่งหน้ากลับบ้าน แต่ระหว่างทางมีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ และใช้อาวุธปืนพกยิงใส่ 2 นัด กระสุนเจาะเข้าที่บริเวณศีรษะ ทำให้รถจักรยานยนต์ล้มคว่ำ และนายบือราเฮงเสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ เนื่องจาก นายบือราเฮง เป็นสายข่าวให้หน่วยงานด้านความมั่นคง
ยิงอิหม่ามเสียชีวิตพร้อมภรรยาที่กะพ้อ
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันศุกร์ที่ 24 ก.ย.2553 เวลา 20.30 น. พ.ต.อ.กล้าณรงค์ เผือกคุ้มกฤษ ผู้กำกับการ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตบนถนนในหมู่บ้านคอลอกะปะ หมู่ 6 ต.กะรุบี อ.กะพ้อ จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบศพ นายดอเม็ง ยีวาแต อายุ 59 ปี เป็นโต๊ะอิหม่าม อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 6 ต.กะรุบี และ นางกรือซง โต๊ะดา อายุ 53 ปี ภรรยาของนายดอเม็ง ทั้งคู่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าที่ลำตัว
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายดอเม็ง ไปละหมาดที่มัสยิดในหมู่บ้าน เสร็จแล้วได้เดินทางกลับบ้านพร้อมภรรยาซึ่งอยู่ห่างจากมัสยิดประมาณ 100 เมตรเท่านั้น ปรากฏว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่ข้างทาง ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่จนทั้งคู่เสียชีวิต เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ปะทะที่รือเสาะ จนท.ยึดเอ็ม 16 สองกระบอก
เวลา 11.30 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.ดิเรก โฉมยงค์ หัวหน้าชุดสืบสวน ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) พร้อมด้วย ร.อ.นราพัฒน์ วิริยา ผู้บังคับกองร้อยทหารราบที่ 1024 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 และ พ.ต.ท.พชรพล ณ นคร รองผู้กำกับการ สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส สนธิกำลังจำนวน100 นาย ใช้กฎอัยการศึกบุกจู่โจมตรวจค้นบ้านเลขที่ 8/2 บ้านกูยิ ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ ซึ่งเป็นบ้านของ นายยูโซ๊ะ โต๊ะรือเนาะ ผู้ต้องหาหนีหมายจับของ สภ.รือเสาะ ภายหลังสืบทราบว่ามีกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค (หน่วยรบขนาดเล็กที่ผ่านการฝึกรบแบบจรยุทธ์) ใช้บ้านหลังดังกล่าวเป็นสถานที่กบดานและซ่องสุ่มเตรียมก่อเหตุร้าย
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงได้กระจายกำลังกันโอบล้อมบ้านเป้าหมายเอาไว้ แต่คนในบ้านซึ่งคาดว่ามี 2-3 เห็นเจ้าหน้าที่ก่อน จึงใช้อาวุธปืนยิงใส่จนเกิดการยิงปะทะกันอย่างดุเดือดนานกว่า 5 นาที กลุ่มผู้ต้องสงสัยภายในบ้านเห็นจวนตัว จึงอาศัยความชำนาญพื้นที่กระโดดออกทางหน้าต่างหลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เคลียร์พื้นที่โดยรอบ พบว่าที่บริเวณแคร่ใต้ต้นเงาะหน้าบ้านมีกระสอบปุ๋ยสีขาววางอยู่ เมื่อแกะออกก็พบอาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 ซุกซ่อนอยู่จำนวน 2 กระบอก คาดว่าเป็นปืนที่ชิงมาจากเจ้าหน้าที่หรือปล้นจากค่ายกองพันพัฒนาที่ 4 อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2547 นอกจากนั้นภายในกระสอบยังมีเครื่องกระสุน ซองกระสุน เป้สนาม และยารักษาโรคอีกจำนวนหนึ่ง จึงยึดไปตรวจสอบลายนิ้วมือและดีเอ็นเอ เพื่อขยายผลจับกุมกลุ่มผู้ต้องสงสัยต่อไป
จ่อยิง 2 พนักงานส่งของดับสยอง-บึ้มทหารเจ็บ 5
วันพฤหัสบดีที่ 23 ก.ย.เวลา 14.30 น. ขณะที่ นายอมร นาคนวล และ นายณัฐพล หนูปลอด พนักงานตัวแทนจำหน่ายอาหารแห้งของบริษัท ฮาลาลฟู้ด ยะลา ขับรถหกล้อสีขาว หมายเลขทะเบียน 80-5126 ยะลา ไปจอดหน้าร้านขายของชำริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 (ปัตตานี-ยะลา) ท้องที่หมู่ 4 บ้านพงสตา ต.ยะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อส่งสินค้า ปรากฏว่ามีคนร้าย 4 คนขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดหน้าร้าน จากนั้นคนร้ายที่นั่งซ้อนท้าย 2 คนเดินลงจากรถ แล้วชักอาวุธปืนพกขนาด .38 เข้าไปประกบยิงทั้งนายอมรและนายณัฐพลที่ศีรษะ ทำให้ทั้งคู่เสียชีวิตคาที่
ต่อมาเวลา 15.00 น.วันเดียวกัน ขณะที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี จำนวน 5 นาย ออกลาดตระเวนเส้นทางเพื่อดูแลความปลอดภัยโดยใช้รถกระบะเป็นพาหนะ เมื่อปฏิบัติหน้าที่ถึงหมู่ 1 บ้านกอตอระนอ ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง ห่างจากจุดเกิดเหตุยิงพนักงานบริษัทฮาลาลฟู้ด ยะลา ประมาณ 5 กิโลเมตร คนร้ายได้กดจุดชนวนระเบิดที่ฝังไว้ใต้ผิวถนน จนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แรงระเบิดทำให้ทหารทั้ง 5 นายได้รับบาดเจ็บ โดยในจำนวนนี้มี 2 นายอาการสาหัส หลังจากนั้นไม่นานทหารพรานหน่วยพัฒนาสันติที่ 4324 ผ่านมาประสบเหตุ จึงช่วยกันลำเลียงคนเจ็บทั้ง 5 คนส่งโรงพยาบาลยะรัง ทราบชื่อคือ ร.อ.สรเชษฐ์ ดีเอื้อ จ.ส.อ.ผดุง บัตรเจริญ จ.ส.อ.สมศักดิ์ ช่างยันต์ ส.อ.ยุทธนา สุขเสนา และ ส.ท.ศิริอนันต์ อิ่มดูนอก เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าทั้งสองเหตุการณ์เป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
"อนุพงษ์"อำลาชีวิตราชการ กางสถิติอ้างไฟใต้ดีขึ้น
ด้านความเคลื่อนไหวของฝ่ายรัฐ เมื่อวันจันทร์ที่ 27 ก.ย.2553 ที่อาคารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าที่ ผบ.ทบ.คนใหม่ เข้าร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาความไม่สงบ และตรวจเยี่ยมการทำงานของกำลังพล โอกาสนี้ พล.อ.อนุพงษ์ ได้อำลาชีวิตราชการ เนื่องจากจะต้องเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ โดยมี พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 ว่าที่ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และนายทหารชั้นผู้ใหญ่รอให้การต้อนรับ
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ได้ขอบคุณกำลังพลทุกฝ่ายที่ปฏิบัติงานร่วมกันมาเพื่อให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดสันติสุข และพบว่าการแก้ไขปัญหามีความก้าวหน้าทั้งฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายพัฒนา และงานของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
“ผลการปฏิบัติงานสามารถประเมินได้ ทั้งจากเชิงปริมาณด้วยสถิติ พบว่ามีสถิติการก่อเหตุรุนแรงลดลง ขณะที่ในเชิงคุณภาพ พบว่าประชาชนมีความพึงพอใจมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติงานต่อไปในอนาคตต้องดีขึ้นกว่านี้ ประชาชนต้องมีความปลอดภัยมากขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าปัจจุบัน ซึ่งเป็นสิ่งท้าทาย และมั่นใจว่าท่าน ผบ.ทบ.คนใหม่จะดำเนินการได้ดีขึ้นกว่าเดิม" พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
จุฬาราชมนตรีวอนทุกฝ่ายสร้างสันติสุข
วันเดียวกัน นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี เดินทางไปที่ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส เพื่อพบปะผู้นำศาสนาในพื้นที่ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นการเดินทางมาครั้งแรกหลังจากรับโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งจุฬาราชมนตรี
นายอาศิส กล่าวว่า อยากเห็นทุกฝ่ายร่วมมือกันทำงานเพื่อสร้างสรรค์บ้านเมืองให้มีความสงบ ร่มเย็น โดยปัญหาที่หนักใจและวิตกกังวลมากที่สุดคือความไม่ร่มเย็นเป็นสุขที่เกิดขึ้นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสี่อำเภอของ จ.สงขลา จึงอยากให้ทุกฝ่ายได้ช่วยกันสร้างความร่มเย็นเป็นสุข สร้างความเป็นธรรม ความเข้าใจระหว่างกันและกันให้เกิดขึ้นท่ามกลางความแตกต่างทางศาสนาเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
-----------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : เพื่อนทหารช่วยกันลำเลียงผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดชุดลาดตระเวนในท้องที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ส่งโรงพยาบาลยะรัง เหตุเกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 ก.ย.2553 (ภาพโดย อับดุลเลาะ หวังนิ)