- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- ผู้ว่าฯชี้ "แนวร่วมรุ่นใหม่" จุดไฟยะลา-ฆ่า 3 ทหารพราน
ผู้ว่าฯชี้ "แนวร่วมรุ่นใหม่" จุดไฟยะลา-ฆ่า 3 ทหารพราน
"ขณะนี้มีกลุ่มแนวร่วมรุนใหม่ซึ่งไม่ใช่กลุ่มเดียวกับกลุ่มขบวนการที่ก่อเหตุอยู่ในพื้นที่ ออกปฏิบัติการก่อความรุนแรง โดยแนวร่วมรุนใหม่ที่ว่านี้เป็นกลุ่มที่ผ่านเหตุการณ์หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ตากใบและกรือเซะ มีความคิดชอบแก้ปัญหาด้วยการใช้ความรุนแรงมากกว่าแนวทางสันติวิธี"
นายกฤษฎา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นอยู่ในระยะนี้ เมื่อวิเคราะห์ดูแล้วจะพบว่าเป็นการก่อเหตุแบบไม่มีการสั่งการ หลายเหตุการณ์มุ่งชิงอาวุธมากกว่าเป้าหมายอื่น เพราะแนวร่วมรุมใหม่จะไม่มีอาวุธอยู่ในความครอบครอง ต้องหาอาวุธไว้ใช้ และการก่อเหตุแต่ละครั้งจะไม่มีคนบงการหรือสั่งการใดๆ ทำให้ไม่มีการวางแผน และมวลชนส่วนใหญ่ไม่ได้ให้การสนับสนุน อย่างเช่นที่ อ.บังนังสตา จ.ยะลา ที่มีคนร้ายซุ่มยิงทหารพรานขณะเข้าไปทำงานมวลชนกับชาวบ้านในพื้นที่ หลังเกิดเหตุชาวบ้านในหมู่บ้านยังออกมาช่วยเจ้าหน้าที่พาคนเจ็บส่งโรงพยาบาล เสดงให้เห็นว่าชาวบ้านเริ่มไม่เห็นด้วยกับแนวร่วมกลุ่มนี้
สำหรับความคืบหน้าทางคดีนั้น ผู้ว่าฯกฤษฎา กล่าวว่า ได้รายชื่อผู้ต้องสงสัยมาแล้ว10 คน โดยภาพรวมของเหตุการณ์ทั้งหมด ยืนยันได้เลยว่าไม่เกี่ยวข้องกับการแก้แค้นหรือตอบโต้ของกลุ่มขบวนการที่มีสมาชิกออกมามอบตัวถึง 103 คนในช่วง 1 ที่ผ่านมา บางเหตุการณ์เมื่อตรวจสอบในทางลึกพบว่าเป็นเรื่องส่วนตัวก็มี อาทิ เหตุการณ์ที่ อ.รามัน จ.ยะลา โดยเฉพาะเหตุระเบิดในสวนยางพารา ชัดเจนว่าทำเพื่อแย่งชิงพื้นที่ทำกิน
"ขณะนี้ทางจังหวัดกำลังประสานไปยังผู้นำชุมชน ให้พยายามพูดคุยโน้มน้าวแนวร่วมกลุ่มใหม่นี้เพื่อให้เกิดความเข้าใจ และส่งทีมพัฒนาลงไปในพื้นที่ เพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่กับชาวบ้าน โดยใช้ชื่อว่าทีมตำบลแข็มเข็ง โดยจะมีทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง เกษตรตำบล ครู กศน.เข้าไปทำงาน เพื่อให้นโยบายยะลาแข็มเข็งได้ขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง" ผู้ว่าฯกฤษฎา ระบุ
ย้อนเหตุคนร้ายนับสิบรุมยิงทหารพรานดับ 3
วันอาทิตย์ที่ 3 ต.ค.2553 นับเป็นวันที่เกิดเหตุร้ายและสร้างความเสียหายค่อนข้างหนักในพื้นที่ จ.ยะลา โดยเมื่อเวลา 09.30 น. จ.ส.อ.ปรีดา คงตระกูล หัวหน้าชุดปฏิบัติการหน่วยพัฒนาสันติ กองร้อยทหารพรานที่ 41-6 กรมทหารพรานที่ 41 ซึ่งตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ที่บ้านอุแบ หมู่ 1 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา นำกำลังจำนวน 6 นายออกจากฐานเพื่อลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยเส้นทาง โดยใช้รถจักรยานยนต์ 3 คัน เมื่อออกห่างจากฐานราว 800 เมตร มีคนร้ายคาดว่าไม่ต่ำกว่า 10 คน ยืนเรียงรายอยู่ในป่าทึบข้างทาง ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ทำให้ จ.ส.อ.ปรีดา ส่งสัญญาณให้ลูกน้องทิ้งรถจักรยานยนต์แล้วยิงตอบโต้ตามยุทธวิธี จนเกิดการยิงปะทะกันขึ้นอย่างดุเดือด
ต่อมา พ.ต.อ.สุวัฒน์ วงค์ไพบูลย์ ผู้กำกับการ สภ.บันนังสตา ทราบเรื่อง จึงนำกำลังรุดไปช่วยเหลือ พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิชัย แจ้งสกุล รองผู้กำกับฯ จ.อ.ปรเมศร์ จันทร์แสง ปลัดป้องกัน อ.บันนังสตา และยิงปะทะกันอีกราว 10 นาที ในที่สุดคนร้ายได้อาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไป
เมื่อเสียงปืนสงบลง พบเจ้าหน้าที่ทหารพรานได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้ง 6 นาย ประกอบด้วย จ.ส.อ.ปรีดา หัวหน้าชุด อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) คมกริช ธารใจ อายุ 27 ปี อส.ทพ.กามา สะมะแอ อายุ 26 ปี อส.ทพ.มนตรี ร่วมพูน อายุ 26 ปี อส.ทพ.สุทธิพงศ์ บุญรักษ์ อายุ 26 ปี และ อส.ทพ.อับดุลเลาะ แตะเซ อายุ 27 ปี แต่ จ.ส.อ.ปรีดา อส.ทพ.คมกริช และ อส.ทพ.กามา ทนพิษบาดแผลไม่ไหว สิ้นใจในเวลาต่อมา
จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด พบปลอกกระสุนปืนของฝ่ายคนร้ายนับร้อยปลอก ทั้งอาก้า และเอ็ม16 จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนั้นยังพบรอยเลือดตรงจุดที่คนร้ายใช้ซุ่มยิง คาดว่าน่าจะได้รับบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 2 คน แต่ประคองกันหลบหนีไปได้ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นแนวร่วมรุ่นใหม่ที่มี นายมุกตา อาลีมามะ เป็นหัวหน้า มีกำลังประมาณ 10-15 คน เคลื่อนไหวในพื้นที่ ต.บาเจาะ และตำบลใกล้เคียงในเขต อ.บันนังสตา การก่อเหตุครั้งนี้เป็นการโจมตีเจ้าหน้าที่เพื่อสร้างอิทธิพล
ไล่ล่ากระชั้นชิดเจอรองเท้าแตะ-รอยเลือด
ต่อมา พ.อ.คมกฤช รัตนฉายา ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุวัฒน์ วงศ์ไพบูลย์ ผู้กำกับการ สภ.บันนังสตา ได้สนธิกำลังตำรวจ ทหาร และคอมมานโดจำนวน 100 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นโรงเรียนปอเนาะฆูนุงอามาน บ้านอูแบ หมู่ 1 ต.บาเจาะ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าเขา เพราะคาดว่ากลุ่มคนร้ายอาจใช้เป็นเส้นทางในการหลบหนี แต่จากการตรวจค้นปอเนาะ (กระท่อม) กว่า 30 หลัง ไม่พบสิ่งผิดปกติ แต่เมื่อเดินตรวจด้านหลังปอเนาะซึ่งเป็นเนินเขา พบรองเท้าแตะแบบหุ้มส้นสีดำ จำนวน 1 คู่ และหยดเลือดเป็นทาง คาดว่าเป็นของคนร้ายที่ถูกยิงบาดเจ็บ จึงรีบจัดกำลังไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด
ทั้งนี้ จากการกระชับพื้นที่ปิดล้อมตรวจค้นตั้งแต่หลังเกิดเหตุเมื่อวันที่ 3 ต.ค.จนถึงวันจันทร์ที่ 4 ต.ค. สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 3 คน โดย พ.อ.คมกฤช กล่าวว่าทั้งสามเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ซุ่มโจมตีทหารพรานอย่างแน่นอน เช่น อาจจะทำหน้าที่ดูต้นทาง เป็นต้น จึงควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม
ยิงทหารชุดพัฒนาสันติขวัญใจชาวบ้านดับอีก
ก่อนหน้านั้น เมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 2 ต.ค. คนร้ายไม่น้อยกว่า 5 คน ใช้รถกระบะวีโก้สีดำเป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพก ปืนสงครามเอ็ม 16 และปืนลูกซองยาว ถล่มยิง จ.ส.อ.รณงค์ ศรีภูธร อายุ 37 ปี สังกัดหน่วยเฉพาะกิจยะลา 12 ประจำชุดพัฒนาสันติซึ่งตั้งฐานอยู่ที่โรงเรียนบ้านอาตะคูวอ หมู่ 3 บ้านอาตะคูวอ ต.กอตอตือระ อ.รามัน จ.ยะลา เสียชีวิตขณะเดินทางไปพบปะชาวบ้านที่บ้านลูโบ๊ะนิบง หมู่ 1 ต.กอตอตือระ ห่างจากฐานปฏิบัติการประมาณ 2 กิโลเมตร โดย จ.ส.อ.รณรงค์ เป็นชาว อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู
พ.ท.อิศรา จันทกระยอม ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจยะลา 12 กล่าวว่า คนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มของ นายซอบวัน และนายมะยากี แกนนำคนสำคัญที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ ต.กอตอตือระ ต.อาซ่อง ต.ท่าธง และ ต.เนินงาม อ.รามัน โดยคนร้ายมีความโกรธแค้น จ.ส.อ.รณรงค์ ที่ทำงานมวลชนประสบความสำเร็จ ชาวบ้านไว้วางใจ และหันมาให้ความช่วยเหลือทางราชการเป็นจำนวนมาก ล่าสุดแกนนำอาร์เคเค (หน่วยรบขนาดเล็กที่ผ่านการฝึกแบบจรยุทธ์) ในพื้นที่จำนวน 4 คน คือ นายมาหามะ โกตาบารู นายดารี รอมัน นายตามีซี เงาะมาดี และ นายอาหามะ กาลอ เพิ่งยอมเข้ามอบตัวกับผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ทำให้แกนนำยิ่งโกรธแค้น
จ.ส.อ.รณรงค์ เป็นหัวหน้าชุดพัฒนาสันติในพื้นที่ ต.กอตอตือระ และอยู่ในพื้นที่มานาน 5 ปีแล้ว เป็นที่รักใคร่ของชาวบ้านอย่างมาก ชาวบ้านรู้จักกันในนาม "จ่าแมว" ทั้งยังเป็นเพื่อนสนิทกับนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กอตอตือระ อีกด้วย
แค้นชาวบ้านเห็นขณะเตรียมก่อเหตุ-รัวอาก้าใส่หวิดดับ
ที่ จ.ปัตตานี ยังคงเกิดเหตุร้ายรายวันขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 20.00 น. วันอาทิตย์ที่ 3 ต.ค. ขณะที่ นางทุม เหล็กเพชร อายุ 45 ปี อาศัยอยู่ที่หมู่ 6 บ้านไร่ ต.คอลอตันหยง อ.หนองจิก กำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่กับเพื่อนที่โต๊ะหน้าบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ นางทุมสังเกตเห็นกลุ่มคนต้องสงสัย 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์จำนวน 2 คัน ขึ้นไปจอดอยู่บนสะพานตรงข้ามบ้านของนาง จากนั้นผู้ต้องสงสัยหนึ่งในสามได้นำปืนอาก้าออกมาตั้งไว้บนราวสะพาน และกำลังเล็งยิง ทำให้นางทุมตะโกนบอกคนในละแวกนั้นให้หาที่กำบัง สิ้นเสียงนางทุม กลุ่มชายต้องสงสัยได้กราดยิงใส่ที่หน้าบ้านนางทุมทันทีหลายนัด กระสุนถูกนางทุมได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ในท้องที่ อ.หนองจิก เช่นกัน คนร้ายลอบวางเพลิงเผารถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นแชมป์ 2 สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน จนวอดทั้งคัน เหตุเกิดบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 43 (ปัตตานี-หาดใหญ่) เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สรุปสาเหตุ และยังไม่ทราบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของใคร
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 พิธีรดน้ำศพ จ.ส.อ.ปรีดา คงตระกูล อาสาสมัครทหารพราน คมกฤช ทันใจ และ จ.ส.อ.รณรงค์ ศรีภูธร ที่วัดพุทธภูมิ อารามหลวง อ.เมืองยะล
2 รองเท้าแตะซึ่งคาดว่าเป็นของคนร้ายที่ได้รับบาดเจ็บ ถูกทิ้งไว้ใกล้ๆ กับรอยหยดเลือด
ขอบคุณ : คุณปาเรซ โลหะสัณห์ ผู้่สื่อข่าวหนังสือพิมพ์คมชัดลึกประจำจังหวัดปัตตานี เอื้อเฟื้อข่าวจากปัตตานี