- Home
- South
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวภาคใต้
- ใต้ป่วนยิง"สามี-ภรรยา"ดับคาเขียงหมู แฉเหยื่อ 10 คู่ในรอบ 4 เดือน
ใต้ป่วนยิง"สามี-ภรรยา"ดับคาเขียงหมู แฉเหยื่อ 10 คู่ในรอบ 4 เดือน
ใต้ยังป่วนต่อเนื่องช่วงใกล้ปีใหม่ คนร้ายสาดกระสุนดับสองสามีภรรยาคาเขียงหมูที่โคกโพธิ์ ปัตตานี เผยฝ่ายชายเป็นสมาชิก อบต.ด้วย ยะรังระอุไล่ยิงดะ 2 เหตุการณ์ในวันเดียว สังเวย 1 ศพ เจ็บอีกหนึ่ง ทหารชุด รปภ.ครูที่ระแงะโดนบ้าง ถูกซุ่มยิงสาหัส 2 นาย ขณะที่ตำรวจเตรียมออกหมายจับทีมฆ่าชุดคุ้มครองพระกลางเมืองยะลา ผบ.ทบ.เบรคแตกฉะวิธี "หมาลอบกัด"
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียด และเกิดเหตุรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 21 ธ.ค.2553 คนร้ายจำนวน 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกขนาด 9 มม. จ่อยิง นายประดิษฐ์ มณีพรหม อายุ 49 ปี และ นางจริยา มณีพรหม อายุ 47 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 25/1 หมู่ 1 บ้านกาโผะ ต.โคกโพธิ์ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เสียชีวิตหน้าเคียงหมูในตลาดนัดริมถนนสายโคกโพธิ์-ลำไพล หมู่ 1 บ้านกาโผะ เหตุเกิดขณะที่ทั้งคู่กำลังช่วยกันเก็บของขึ้นรถกระบะเพื่อกลับบ้านหลังตลาดวาย
สอบสวนทราบว่า นายประดิษฐ์ มีอาชีพขายหมู และยังเป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โคกโพธิ์ อีกด้วย เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์รุนแรงของกลุ่มก่อความไม่สงบ
แฉคู่สามี-ภรรยาตกเป็นเป้า 10 คู่ใน 4 เดือน
อนึ่ง จากการเก็บข้อมูลของโต๊ะข่าวภาคใต้ สถาบันอิศรา พบว่า การสังหารสามีภรรยาครั้งนี้นับเป็นคู่ที่ 8 ของ จ.ปัตตานี นับตั้งแต่เดือน ส.ค.เป็นต้นมา โดยส่วนใหญ่เกิดในพื้นที่ตำบลต่างๆ ของ อ.โคกโพธิ์ และหากนับคู่สามีภรรยาที่ตกเป็นเหยื่อกระสุนในจังหวัดอื่นๆ ด้วยในช่วงเวลาเดียวกัน พบว่ามีสามีภรรยาถูกยิงลักษณะเดียวกันนี้แล้วถึง 10 คู่
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 20.45 น. วันจันทร์ที่ 20 ธ.ค. เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามเอ็ม 16 และอาก้ายิงถล่มฐานปฏิบัติการย่อยของตำรวจ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งตั้งฐานอยู่ในวัดสถิตชลธาร หมู่ 2 ต.บางตาวา อ.หนองจิก ทั้งยังได้โปรยตะปูเรือใบและวางระเบิดปลอมสกัดการติดตามของเจ้าหน้าที่ด้วย เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่พระและคนงานก่อสร้างในวัดกำลังทำงานกันอยู่ ทำให้ นายสงวน ผิวผ่อง อายุ 35 ปี ชาว อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ถูกสะเก็ดกระสุนที่ขาซ้าย ได้รับบาดเจ็บ
ยิงดะที่ยะรังตาย 1 เจ็บ 1 โจมตีชุด รปภ.ครูที่ระแงะ
เวลา 15.30 น.วันเดียวกัน คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนพกจ่อยิง นายบือราเฮง ดือราแม อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/3 หมู่ 1 ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ขณะจอดรถจักรยานยนต์เติมน้ำมันอยู่ที่ปั๊มหลอดในหมู่บ้าน เลขที่ 202/2 หมู่ 1 ต.คลองใหม่ โดยคนร้ายรัวกระสุนถึง 3 นัดซ้อน ทำให้นายบือราเฮงเสียชีวิตคาที่ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ เนื่องจากครอบครัวของนายบือราเฮงถูกสังหารมาหลายรายแล้ว ทั้งบิดาที่ถูกฆ่าปาดคอ และพี่ชายที่ถูกยิง
อีกรายที่ อ.ยะรัง เช่นกัน คนร้าย 2 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธสงครามอาก้ายิงใส่ นายไฟซอล เจ๊ะเต๊ะ อายุ 25 ปี และนายรอมซี ปิยา อายุ 25 ปี ชาวบ้านหมู่ 4 ต.เมาะมาวี ขณะขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนสายปัตตานี-ยะลา ท้องที่หมู่ 1 บ้านต้นมะขาม ต.เขาตูม อ.ยะรัง กระสุนถูกนายไฟซอลได้รับบาดเจ็บสาหัส สว่นนายรอมซีปลอดภัย เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุของการลอบยิงครั้งนี้ว่ามีมูลเหตุจากเรื่องใด
ส่วนที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามทั้งเอ็ม 16 และอาก้า ซุ่มยิงทหารชุด รปภ.ครู สังกัดหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 38 ขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์เดินทางกลับฐาน เหตุเกิดบนถนนสายบ้านสาเลาะ-บ้านบาโงกูโบร์ หมู่ 5 ต.บองอ อ.ระแงะ ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ พลทหารอุเซ็ง มอซอ อายุ 23 ปี และ พลทหารยามาริสมัน อียะ อายุ 23 ปี
จ่อหมายจับทีมฆ่าชุดคุ้มครองพระยะลา
ความคืบหน้าคดีคนร้าย 6 คนใช้อาวุธสงครามยิงทหารชุดคุ้มครองพระขณะออกบิณฑบาตบนถนนอุตสาหกรรมตัดกับถนนเลียบแม่น้ำปัตตานี ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ทหารเสียชีวิต 2 นาย และ พระสวาท เขมวิโณ อายุ 48 ปี เจ้าอาวาสวัดหัวสะพาน ได้รับบาดเจ็บนั้น
พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้กำกับการ สภ.เมืองยะลา เปิดเผยว่า จากพยานหลักฐานที่รวบรวมได้สามารถระบุกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ได้แล้ว เป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.เมืองยะลา เชื่อมโยงกับกลุ่มของ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี โดยหนึ่งในกลุ่มมี นายอัสมัน ดอฆอ ร่วมอยู่ด้วย ขณะนี้กำลังรอผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อนำมาเชื่อมโยงกับหลักฐานอื่นๆ เพื่อออกหมายจับคนร้ายทั้ง 6 คน
ส่วนคดีสำคัญๆ ที่คนร้ายกลุ่มนี้เคยปฏิบัติการในช่วงที่ผ่านมานั้น ในพื้นที่ อ.เมืองยะลา มีจำนวน 7-8 คดี เช่น คดียิงทหารพรานที่หน้าสถานีอนามัยตาเซ๊ะ อ.เมืองยะลา คดียิงฐานปฏิบัติการของตำรวจ ทหาร ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้น
รัฐประสานเสียงภาพรวมไฟใต้ดีขึ้น
ด้านความเห็นของฝ่ายการเมือง หลังเกิดเหตุยิงชุดคุ้มครองพระเสียชีวิตกลางเมืองยะลา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง แม้ว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จะระมัดระวังอยู่แล้ว แต่ก็มีโอกาสพลั้งเผลอได้
ส่วนที่มีการมองกันว่าสถานการณ์เริ่มกลับมารุนแรงอีกครั้งนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า หากสื่อวูบวาบกันมากก็อาจทำให้ประชาชนตกใจ ยืนยันว่าโดยภาพรวมสถานการณ์ในภาคใต้ปีนี้ถ้าเปรียบกับปีก่อนๆ ถือว่าดีกว่า เบากว่า จำนวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็น้อยกว่ามาก จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตก็น้อยกว่า แต่เราจะต้องทำงานต่อไป
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวเรื่องเดียวกันว่า สถานการณ์ในภาคใต้ไม่ได้เกิดขึ้นในภาพรวมทั้งหมด ส่วนใหญ่เกิดเป็นจุดๆ และเหตุร้ายก็เกิดขึ้นอย่างนี้ตลอดเวลา คิดว่าเป็นเรื่องทางยุทธวิธีที่หน่วยงานด้านความมั่นคงต้องเข้าไปดูแลว่าควรแก้อย่างไร เช่นกรณีพระ หากเราทำอย่างนี้แล้วยังเกิดเหตุการณ์ขึ้น คงต้องมีมาตรการต่างๆ ออกมาเพิ่มเติมเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ก่อความไม่สงบดำเนินการได้อีก หรือปล่อยให้เกิดเหตุซ้ำซาก ซึ่งคงต้องมีการพิจารณากัน
"ยุทธศาสตร์ในภาพรวมผมถือว่ายังดีขึ้นเรื่อยๆ และประชาชนยังให้ความร่วมมือ" รมว.กลาโหม กล่าว และระบุถึงข่าวพระเตรียมทิ้งวัดว่า ไม่ถึงขนาดนั้น
ผบ.ทบ.ซัดวิธีการ "หมาลอบกัด"
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงเหตุการณ์โจมตีทหารชุด รปภ.พระภิกษุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องสุดวิสัย เป้าหมายของกลุ่มผู้ก่อเหตุคือสร้างเหตุการณ์ให้เกิดความรุนแรงเพื่อนำไปสู่ต่างประเทศให้ได้ในช่วงเดือน เม.ย.- พ.ค.2554 อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่าเดิม และถ้าพูดถึงจำนวนเหตุการณ์ก็เกิดน้อยลง แต่ก็ไม่อยากให้เกิดความสูญเสียและไม่สบายใจ
“มาตรการเข้าถึงประชาชนของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ ทำให้ประชาชนให้ความร่วมมือมากขึ้น มีวิธีเดียวที่จะทำให้ประชาชนกลับไปเป็นพวกของเขาได้ คือทำให้เกิดความรุนแรงเพื่อให้ประชาชนหวาดกลัว ดังนั้นเราจะต้องช่วยกันประณามคนพวกนี้ และช่วยกันนำคนเหล่านี้กลับมาช่วยแก้ไขปัญหาความไม่สงบให้ได้ เพราะสถานการณ์ความรุนแรงมันไปไกลกว่านี้ไม่ได้แล้ว สิ่งที่อันตรายที่สุดคือการนำเรื่องต่างๆ ไปสู่ต่างประเทศ ซึ่งไม่ควรกระทำ"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ทหารไม่ยอมอยู่แล้วที่จะให้กองกำลังหรือพลังส่วนไหนเข้ามายึดพื้นที่ และเป็นหน้าที่ของทหารในการปกป้อง แต่คนร้ายไม่ได้ประกาศชัดเจนว่าเป็นกลุ่มไหน หน่วยไหน หรืออยู่ที่ไหน ได้แต่โจมตีในลักษณะหมาลอบกัดแบบนี้ เราก็จะต้องดำเนินการปกป้อง พร้อมกับย้ำว่า เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อนโยบายการยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในบางอำเภอ เพราะจะยกเลิกเฉพาะอำเภอที่เจ้าหน้าที่สามารถดูแลได้ 100% เท่านั้น
-----------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขณะปฏิบัติภารกิจที่ศูนย์นิติวิทยาศาสตร์ตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ อ.เมือง จ.ยะลา ระหว่างเดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพล เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว (ภาพโดย อะหมัด รามันห์สิริวงศ์)
ขอบคุณ : เนื้อหาข่าวบางส่วนจากสำนักข่าวเนชั่น